เมื่อวันที่ 21 พ.ค. เวทีการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มการเมืองโลก 7 ประเทศ ประกอบด้วย สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี แคนาดา และญี่ปุ่น หรือกลุ่มจี 7 ที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น ได้ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการ ด้วยแถลงการณ์แสดงจุดยืนทางการความมั่นคง สนับสนุนยูเครนที่กำลังเผชิญสงครามอันไร้ความชอบธรรมของรัสเซีย ลดจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ ไปจนถึงความกังวลต่อสถานการณ์ในทะเลจีนตะวันออก-ทะเลจีนใต้ การย้ำความสำคัญของสันติภาพ-เสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน และความกังวลเรื่องสิทธิมนุษยชนในจีนนอกจากนี้ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์หลังเสร็จสิ้นการประชุม โดยระบุถึงความจำเป็นในการไม่พึ่งพาห่วงโซ่อุปทานของจีน การต่อต้านแรงกดดันทางเศรษฐกิจของจีน เมื่อถามถึงเรื่องความสัมพันธ์กับจีน นายไบเดนตอบว่าเหตุบอลลูนเพี้ยนๆ ได้ทำให้ความสัมพันธ์ได้รับผลกระทบ แต่ก็เชื่อว่าน้ำแข็งจะละลายในอีกไม่นานส่วนเรื่องไต้หวัน สหรัฐฯจะเดินหน้าทำให้ไต้หวันอยู่ในจุดที่สามารถป้องกันตนเองได้ สหรัฐฯและพันธมิตรมีความเข้าใจกันอย่างชัดเจนว่า หากจีนตัดสินใจด้วยตัวคนเดียวว่าจะกระทำการใดๆต่อไต้หวัน ก็จะต้องเผชิญกับการตอบโต้ แต่ในประเด็นความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นนั้น ส่วนตัวคิดว่าไม่มีอะไรที่ “ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้” นายไบเดนยังกล่าวถึงสงครามในยุโรปด้วยว่า กลุ่มจี 7 มีความมุ่งมั่นที่จะยืนหยัดอยู่ข้างยูเครน เราขอเรียกร้องสันติภาพที่เคารพอธิปไตยและความเป็นปึกแผ่นของแผ่นดินยูเครน สหรัฐฯและกลุ่มจี 7 ได้ให้ความมั่นใจกับนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนในเรื่องการสนับสนุน และนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย จะไม่สามารถทำลายความมุ่งมั่นครั้งนี้ได้ ขณะที่เรื่องแผนการจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-16 ให้กองทัพอากาศยูเครนใช้งานนั้น สหรัฐฯขอรับรองว่าจะไม่ทำให้สงครามลุกลามบานปลาย เพราะจะให้ใช้แค่ในยูเครน ไม่ได้นำไปใช้โจมตีแผ่นดินรัสเซีย ส่วนนายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ยืนยันว่า เรื่องเครื่องบินขับไล่ F-16 เป็นเรื่องในระยะยาว ต้องใช้เวลานาน และ เยอรมนีก็ไม่ได้ครอบครองเครื่องบินรุ่นนี้ก่อนหน้านี้ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวแสดงความยินดีต่อกลุ่มทหารหาญที่ประสบความสำเร็จในการปลดปล่อยเมืองป้อมปราการ “บาคห์มุท” ในจังหวัดโดเนตสก์ ขณะที่สื่อความมั่นคงรายงานว่า กลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ สามารถยึดครองเมืองได้หลังจากสู้รบนานถึง 292 วัน.