ชาวสวนมะม่วงอุทัยธานี น้ำตาตกในจำใจโค่นต้นทิ้งทั้งที่ปลูกไว้กว่า 30 ปี เพราะขายมะม่วงไม่ได้ ปล่อยสุกคาต้น หากขืนเอาไว้ก็ขายไม่มีกำไรแถมต้องเสียค่าดูแล และค่าบำรุงนำพื้นที่ไปปลูกพืชอย่างอื่นอย่างจำใจเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 23 พฤษภาคม 2566 นางอำไพ พงศ์พานิช อายุ 63 ปี ชาวสวนในพื้นที่ หมู่ที่ 3 บ้านชายเขา ตำบลทุ่งนางาม อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี เกษตรกรผู้ปลูกมะม่วง ที่มีสวนมะม่วงอยู่จำนวน 70 ไร่ เปิดเผยว่า ในตอนนี้ได้จ้างคนมาตัดมะม่วงทิ้งไปจำนวน 13 ไร่แล้ว และยังปล่อยให้มะม่วงนั้นสุกคาต้นไม่ได้เก็บ เนื่องจากที่ผ่านมาในช่วงการเกิดสถานการณ์โควิด-19 เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาทำให้การค้าขายหรือการขนส่งผลไม้ต่างๆ หยุดลงไปรวมถึงส่งออกไปเมืองนอกtt ttพอมีในปีนี้มะม่วงนั้นราคาก็ตกต่ำ มะม่วงที่ปลูกไว้หลากหลายสายพันธุ์ เช่น มหาชนก ทองดำ โชคอนันต์ น้ำดอกไม้ นั้นไม่มียอดสั่งจองจากตลาด หรือพ่อค้าที่เคยมาติดต่อเพื่อที่จะนำไปขายเลยด้วยซ้ำ หากส่งขายก็ได้ กิโลกรัมละ 3-5 บาทเท่านั้น จึงจำเป็นต้องทยอยโค่นทิ้งไปเรื่อยๆ และในตอนนี้ใครที่ผ่านไปผ่านมาอยากมาขอเก็บไปกิน หรือเก็บไปทำแปรรูปก็ให้เข้ามาเด็ดหรือสอยแบบฟรีๆ แบบไม่คิดเงินเลยด้วยซ้ำtt ttสาเหตุที่จำเป็นต้องโค่นมะม่วงทิ้งนั้น ก็เพราะหากต้นมะม่วงยังอยู่ ก็จะต้องเสียค่าตัดกิ่งมะม่วง เสียค่าบำรุงหากไม่ทำต้นมะม่วงก็จะรก และลำต้นนั้นจะมีโรคของต้นไม้ต่างๆ เกิดขึ้นเวลามะม่วงออกผล ก็ต้องเสียค่าแรงคนงานห่อผลมะม่วง ไม่ให้แมลงมากวนอีก เช่น ในปีนี้ลงทุนค่ายาค่าปุ๋ยบำรุงไป 1 แสนกว่าบาทแต่เก็บมะม่วงขายไม่ถึง 6 หมื่นบาทด้วยซ้ำ ขาดทุนย่อยยับ จึงจำเป็นต้องทยอยตัดหรือโค่นต้นทิ้งบางส่วน และลองปลูกมันสำปะหลัง และข้าวโพด และอนาคตข้างหน้า หากราคาไม่ดีขึ้นก็จำใจจะต้องโค่นทิ้งให้หมดทั้ง 70 ไร่อย่างแน่นอนtt ttด้าน นางกาหลง อิสรียภานันท์ อายุ 80 ปี หนึ่งในชาวสวนมะม่วงที่อยู่บริเวณหุบป่าตาด ก็เช่นกันได้นำผลมะม่วงสุกมาทำส้มแผ่น เนื่องจากมะม่วงนั้นขายไม่ได้เลยปีนี้ จึงได้นำมะม่วงนำมาแปรรูปดังกล่าว ก็ยังไม่รู้ว่าทำส้มแผ่นแล้วจะขายได้หรือเปล่าเลย ก็เพราะว่าละแวกนี้สวนมะม่วงเยอะมาก แล้วก็กำลังประสบปัญหาเดียวกันซึ่งส้มแผ่นนั้นเคยขายได้กิโลกรัมละ 100 บาท มาในปีนี้ไม่มีคนมาถามซื้อเลยtt ttปีก่อนๆ ที่ผ่านมานั้นเคยมีคนมารับซื้อถึงที่เพื่อไปขายต่อ และคิดว่าจะหยุดทำแล้วเพราะการทำส้มแผ่นนั้นก็ต้องใช้ไฟเคี่ยว มีค่าใช้จ่ายอีกด้วยซ้ำที่ผ่านมาก็นำมะม่วงสุกไปทิ้งให้ลิงกินบ้าง นำลูกสวยๆ ไปถวายให้พระบ้างหากขืนปล่อยมะม่วงให้สุก แล้วร่วงลงมาก็จะเกิดแมลงวันทองเข้ามาตอมลูกมะม่วงจนเต็มสวนจนส่งความรำคาญให้ชาวบ้านอีก รวมถึงส่งกลิ่นเหม็นอีกด้วยซ้ำtt ttเช่นเดียวกันกับ นางรุ่งฤดี โพธิ์เนย อายุ 51 ปี ชาวสวนมะม่วง ที่มีพื้นที่อยู่จำนวน 120 ไร่ กำลังประสบปัญหาเดียวกันและกำลังเริ่มที่จะโค่นต้นมะม่วงทิ้งจำนวน 20 ไร่ก่อน เนื่องจากมะม่วงในปีนี้ราคาตกต่ำอย่างมาก จึงเจอปัญหาเดียวกับสวนอื่นๆ จนจำใจต้องตัดทิ้งเหมือนกัน ในตอนนี้ไม่มีใครมารับซื้อเลยเสียด้วยซ้ำ ก่อนหน้านี้มะม่วงแห่งบ้าน ทุ่งนางาม หรือ หุบป่าตาด แห่งนี้นั้นขึ้นชื่อมากเพราะปลูกกันเยอะ แต่ตอนนี้หากปล่อยไว้ต้นมะม่วงก็ไม่ก่อเกิดประโยชน์อะไรเลย หากโค่นยังใช้พื้นที่ไปปลูกพืช หรือต้นผลไม้อย่างอื่นทดแทนได้