
“ชลน่าน” เผย ยังไม่มีใครเคลียร์ใจ หลัง “ศิธา” โพสต์ข้อความสวนบนโซเชียลฯ ชี้ หากยังแซะ ใส่ร้าย กล่าวหากัน คงยากจะทำงานร่วมกันได้ เผย ยังไม่มีผู้ใหญ่ “ไทยสร้างไทย” ยกหูมาเคลียร์ใจ หลังตำหนิกับคุณหญิงสุดารัตน์ไปในวันจัดเลี้ยงวันที่ 24 พ.ค. 66 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ชี้แจงกรณีที่ น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน Facebook เรื่องที่ตนเองไปตำหนิการตั้งคำถามในวันแถลงลงนาม MOU ของ น.ต.ศิธา ทิวารี เป็นการเสียมารยาท ว่า พยายามจะไม่ตอบโต้อะไรมาก เพราะวันนั้น น.ต.ศิธา ควรจะมานั่งตอบคำถามสื่อมวลชนบนโต๊ะ มากกว่าลงไปเป็นผู้ตั้งคำถามเอง ซึ่งคำพูดนี้ถือว่าแรงอยู่แล้ว และสิ่งที่ตนเองต้องตำหนิต่อหน้าคุณหญิงสุดารัตน์ไป เพราะวันนั้นมีคำถามจากพิธีกรอยู่แล้ว จึงเปิดใจที่จะคุยกับคุณหญิงสุดารัตน์ว่า การตั้งคำถามของ น.ต.ศิธา ไม่เหมาะสม ไม่มีมารยาท เพราะ น.ต.ศิธา เป็นคนที่นั่งอยู่ในวงจัดทำ MOU ด้วยกันและเป็นคณะทำงานของพรรคไทยสร้างไทย มีส่วนเสนอเนื้อหาใน MOU ทั้งส่วนที่ต้องปรับปรุงแก้ไข แม้แต่ประโยคแรกในร่างฯ ก็มาจาก น.ต.ศิธา ฉะนั้นเรื่องไหนที่ควรพูดในวงที่ต้องปรึกษาหารือกันก็ควรพูด เพราะตนเองถือเป็นคนใน แต่หากเป็นประชาชนถาม หรือสื่อถามคำถามนี้ จะขอบคุณมากและยินดีที่จะตอบ แต่การตั้งคำถามแบบนี้และเป็นคนวงในเห็นเนื้อหาใน MOU ด้วยกัน แต่ยืนเป็นคำถามมันจึงยากที่จะประเมินวัตถุประสงค์ ขณะเดียวกันตนเองก็โดนเรื่องนี้มาหลายครั้ง ทั้งเวทีดีเบต จึงไม่อยากจะไปพูดอะไรมาก จึงตำหนิไปเพียงขอให้มีมารยาทต่อกัน“ถ้าเขาเป็นคนนอก แต่เป็นสมาชิกของไทยสร้างไทยที่ไม่ได้อยู่ในวงของการพิจารณาร่าง MOU ด้วยกัน ผมก็จะไม่ตำหนิเขาเลย เพราะเขามีสิทธิ์ที่จะถาม แต่นี่คุณเป็นคนร่าง MOU ด้วยกัน แล้วไปออกรูปมุมแบบนั้นมันคืออะไร และคำถามนี้ไม่ได้เป็นคำถามเชิงบวก เพราะเรากำลังมุ่งมั่นที่จะตั้งรัฐบาลร่วมกัน MOU ที่เราเขียนชัดเจนเพื่อจัดตั้งรัฐบาลอะไรที่จะพูดตอบแบบนั้นก็ต้องคิด”นายแพทย์ชลน่าน ยังกล่าวอีกว่า ที่ไม่สบายใจเพราะมีการเอาไปโพสต์และเผยแพร่กับสื่อทำนองว่า ตนเองพูดลับหลัง ทั้งที่กินดื่มด้วยกันวันนั้น ทำไมถึงไม่พูดเรื่องนี้ แต่กลับมาแสดงอาการหลังจากผ่านไปแล้วหนึ่งวัน และพูดหนักไปถึงว่าตนเองโดนใครบรีฟมาหรือไม่ จึงขอยืนยันว่างานเลี้ยงวันนั้นไม่ได้ดื่ม และบรรยากาศวันนั้นมีคนร่วมงานหลายคน รวมถึงสื่อมวลชนท้องถิ่นที่มาจากภาคใต้ก็เป็นพยานได้ และหลังจากลงเวทีก็ได้กระซิบตำหนิกับ น.ต.ศิธา ไปว่า ไม่ควรถามคำถามนี้ต่อหน้าสื่อ ซึ่งวันนั้นก่อนกลับก็ยังเอามือไปตบไหล่ให้กำลังใจ เพราะรู้สึกว่าได้ตำหนิเขาไปมากพอสมควร แต่การมาใส่ร้ายว่าตนเองไปรับบรีฟจากใครมา แบบนี้ทำให้ทำงานร่วมกันลำบาก นักการเมืองต้องพูดความจริง ต่อไปหาก น.ต.ศิธา ยังมีพฤติกรรมแบบนี้ก็จะทำงานร่วมกันลำบาก ย้ำว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องเคลียร์ใจกัน เพราะคุณหญิงสุดารัตน์ได้อธิบายความตั้งใจและกล่าวขอโทษไปแล้วก็ถือจบกัน แต่เอาไปขยายต่อและกล่าวหาลับหลังแบบนี้ก็ไม่สมควร ถ้าหากไม่หยุด ตนเองก็จำเป็นต้องเล่นต่อ แต่จะไม่ขอไปเล่นโดยตรง ขอแค่ได้อธิบายข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับรู้ ย้ำว่าไม่ถือโทษโกรธใคร และพร้อมให้อภัยกับทุกคน แต่ขอให้พูดความจริง สิ่งไหนที่ทำที่พูดแล้วไม่เหมาะไม่ควรมาขอโทษกันก็จบ อย่าไปสร้างเรื่อง เพราะมันหมายถึงการทำงานหลังจากนี้ร่วมกันไม่ราบรื่น เรื่องเล็กอย่าทำเป็นเรื่องใหญ่.