


“บิ๊กโจ๊ก” แถลงปิดคดีมูลนิธิคุ้มครองเด็ก หรือบ้านพักเด็กครูยุ่น พร้อมสั่งดำเนินคดีครูยุ่นและภรรยา ข้อหาทำร้ายเด็ก และบังคับใช้แรงงาน พบมีเด็กตกเป็นเหยื่อ 8 ราย จ่อขยายผลผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งการวางตู้บริจาคเพื่อเรี่ยไรเงินนำมาใช้จ่าย โดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายกรณีเมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา มูลนิธิเส้นด้ายได้เข้าแจ้งขอความช่วยเหลือจาก สภ.อัมพวา พบเด็กซึ่งอยู่ในความดูแลของมูลนิธิคุ้มครองเด็กของ นายมนตรี สินทวิชัย หรือ ครูยุ่น อายุ 61 ปี ถูกทำร้ายร่างกาย โดยมีภาพถ่ายวิดีโอปรากฏภาพของเด็กจำนวนหนึ่งถูก นายมนตรี ใช้ไม้ตี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อัมพวา และ กก.5 บก.ปคม. พร้อมด้วย พม.จ.สมุทรสงคราม และมูลนิธิเส้นด้าย ได้เข้าตรวจสอบที่มูลนิธิคุ้มครองเด็ก (บ้านครูยุ่น) เลขที่ 56 หมู่ 1 ต.สวนหลวง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม พบเด็กอายุตั้งแต่ 1 ปีเศษ ถึง 18 ปี รวมจำนวน 56 ราย จึงได้ร่วมกันคัดแยกเหยื่อ เบื้องต้นพบเป็นเหยื่อจำนวน 8 ราย จึงได้นำไปดูแลคุ้มครอง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 พ.ค. ที่สมาคมพนักงานสอบสวนสโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงคดีดังกล่าวว่า ในฐานะ ผอ.ศพดส.ตร. ได้สั่งการให้ สภ.อัมพวา ดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับ นายมนตรี หรือ ครูยุ่น รวมทั้งสืบสวนขยายผลดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งเร่งให้การพิจารณาช่วยเหลือเยียวยาเด็กที่ได้รับผลกระทบจากเหตุดังกล่าว จากการสอบสวนเด็กที่เป็นผู้เสียหายร่วมกับสหวิชาชีพ พบว่ามีเด็กทั้งหมด 33 คน เคยถูก ครูยุ่น ลงโทษด้วยการทุบตีหลายครั้ง โดยถูกตีด้วยเหล็กหรือไม้ไผ่ ตบศีรษะ บีบคอ หรือแม้กระทั่งถูกลากไปกดน้ำที่อ่างน้ำจนสำลัก นอกจากนี้ ยังถูกบังคับให้ไปทำงานที่บ้านแม่น้ำรีสอร์ต ต.บางขันแตก อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ซึ่งเป็นของ นางพิมล สินทวิชัย อายุ 61 ปี ภรรยาของครูยุ่น โดยทำหน้าที่ทำความสะอาดและเปลี่ยนผ้าปูที่นอน โดยจะให้ค่าแรงคนละ 40-60 บาท แต่หากไม่ไปทำ จะถูกหักเงินค่าขนมในแต่ละวัน พนักงานสอบสวน สภ.อัมพวา ได้สอบปากคำพยานมากกว่า 100 ปาก รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลบุคคลที่เกี่ยวข้อง และเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับตัว ครูยุ่น และมูลนิธิคุ้มครองเด็ก และสรุปสำนวนสั่งฟ้องผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย tt tt1. นายมนตรี หรือ ครูยุ่น ดำเนินคดีฐาน เป็นผู้ปกครองสวัสดิภาพโดยไม่ได้รับการแต่งตั้ง, เป็นผู้ปฏิบัติงานในสถานสงเคราะห์เด็ก ทำร้ายร่างกายหรือจิตใจหรือลงโทษเด็กที่อยู่ในความปกครองดูแล โดยวิธีการรุนแรงประการอื่น, กระทำอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจของเด็ก, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ร่วมกันบังคับใช้แรงงาน โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อร่างกาย ขู่เข็ญด้วยประการใดๆ กระทำด้วยประการอื่นใด อันมีลักษณะคล้ายคลึงกันกับการกระทำดังกล่าวข้างต้น และได้กระทำให้ผู้ถูกกระทำนั้นอยู่ในสภาวะที่ไม่อาจขัดขืนได้, ร่วมกันกระทำความผิดฐาน ร่วมกันเป็นนายจ้างจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เป็นลูกจ้าง, ร่วมกันเป็นนายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างน้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ, ร่วมกันเป็นนายจ้างจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเป็นลูกจ้าง โดยมิได้แจ้งการจ้างลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กนั้นต่อพนักงานตรวจแรงงานภายใน 15 วัน นับแต่วันที่เด็กทำงาน, ร่วมกันกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์จากเด็ก 2. นางพิมล ภรรยาครูยุ่น ดำเนินคดีฐาน ร่วมกันบังคับใช้แรงงานโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อร่างกาย ขู่เข็ญด้วยประการใดๆ กระทำด้วยประการอื่นใด อันมีลักษณะคล้ายคลึงกันกับการกระทำดังกล่าวข้างต้น และได้กระทำให้ผู้ถูกกระทำนั้นอยู่ในสภาวะที่ไม่อาจขัดขืนได้, ร่วมกันกระทำความผิดฐาน ร่วมกันเป็นนายจ้างจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เป็นลูกจ้าง, ร่วมกันเป็นนายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างน้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ, ร่วมกันเป็นนายจ้างจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเป็นลูกจ้าง โดยมิได้แจ้งการจ้างลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กนั้นต่อพนักงานตรวจแรงงานภายใน 15 วัน นับแต่วันที่เด็กทำงาน, ร่วมกันกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์จากเด็ก 3. มูลนิธิคุ้มครองเด็ก โดยมี นายแก้วสรร อติโพธิ เป็นประธานกรรมการฯ ดำเนินคดีฐาน เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งสถานสงเคราะห์ ไม่ยื่นขอแต่งตั้งผู้ปกครองสวัสดิภาพเด็ก แต่ยังกระทำการเป็นผู้ปกครองสวัสดิภาพ รอง ผบ.ตร. เผยต่อว่า นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 66 เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบว่า มูลนิธิคุ้มครองเด็กได้มีการวางตู้รับบริจาคที่บริเวณห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล เวิลด์ ลาดพร้าว จึงได้ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม พบว่ามูลนิธิมีการวางตู้รับบริจาคหลายพื้นที่ทั่วประเทศมากกว่า 300 จุด เพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายของมูลนิธิ แต่มิได้มีการขออนุญาตตามกฎหมายแต่อย่างใด จึงได้ร้องทุกข์ดำเนินคดีกับมูลนิธิคุ้มครองเด็ก พร้อมกรรมการจำนวน 6 คน ที่พื้นที่ สน.โชคชัย ในความผิดฐาน ทำการเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยออกหมายเรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 24 พ.ค. 66 นี้ แต่ผู้ต้องหาส่งทนายมาติดต่อขอเลื่อนเข้าพบไปอีก 2 สัปดาห์ tt tt”คดีดังกล่าว หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือเด็กที่มีภาพปรากฏในคลิปที่ถูกทำร้ายเบื้องต้นแล้ว ก็ได้สอบปากคำและคัดแยกผู้เสียหาย และให้การช่วยเหลือคุ้มครองเด็กทั้งหมด จนพบว่ามีเด็กหลายคนที่อยู่ภายใต้ความดูแลของ ครูยุ่น ถูกทำร้ายทุบตีมากถึง 33 คน รวมทั้งยังถูกบังคับให้เด็กไปทำงานที่รีสอร์ตของภรรยาตนเอง สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นจากบุคคลที่เด็กไว้วางใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมูลนิธิที่มีหน้าที่ดูแลให้ความคุ้มครองเด็กโดยตรง จึงได้ดำเนินคดีกับทั้ง ครูยุ่น ภรรยา และตัวมูลนิธิ นอกจากนี้ ยังสืบทราบว่า มูลนิธิดังกล่าวได้มีการวางตู้บริจาคเพื่อเรี่ยไรเงินนำมาใช้จ่าย โดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว.