“ศิธา ทิวารี” แคนดิเดตนายกฯ พรรคไทยสร้างไทย เปิดใจ ปมคำถามเสียมารยาท ลั่น พร้อมลาออกจากพรรค ยินดีกลับไปเลี้ยงลูกที่บ้าน ถ้าไม่เอาผม หากยังทำให้ไม่สบายใจ ยัน ไม่มีเจตนา แซะ หรือ ยุแยงให้พรรคใดพรรคหนึ่งมีปัญหาวันที่ 24 พ.ค. 66 น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐทีวี กล่าวว่า วันนั้นที่ตั้งคำถามไม่ได้มีเจตนารมณ์เพื่ออยากจะแซะหรือยุแยงให้พรรคใดพรรคหนึ่งมีปัญหา และตนตั้งคำถามไปถึง 8 พรรค แต่กลัวว่า จะเสียเวลา เพราะการแถลงข่าวยืดเยื้อมากแล้ว จึงถามไปที่พรรคใหญ่ 2 พรรคหลักๆโดยเจตนาที่ถามไม่ได้คิดว่า จะมีใครปล่อยมือกันอยู่แล้ว แต่อยากให้แสดงให้ถึงความเหนียวแน่น และเพื่อส่งสัญญาณไปถึง ส.ว. หรือ คนที่คอยกำกับดูแล ส.ว. ให้เห็นว่า พวกเราจับมือกันแน่นขนาดนี้ คุณอย่าใช้วิธีอื่นใดเลย ถ้าเราจับมือกันแน่นแบบนี้ ส.ว.จะไปโหวตให้อีกฝั่งก็โหวตไป อีกฝั่งอยากเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยก็เป็นไป แต่อยากให้พรรคร่วมยืนยันว่า พวกเราจะจับมือกันแบบนี้ไปอีก 1 ปี เพราะว่า 1 ปี หลังจากนี้ ส.ว. จะหมดอำนาจในการโหวตนายกฯ แล้วตอนนั้นเราก็จะจัดตั้งรัฐบาลในฝันได้เลย แต่ถ้าเราไม่จับมือให้เหนียวแน่น ก็อาจจะมีกระบวนการอะไรหลายๆ อย่างหลังจากนี้ให้รอดูได้เลยซึ่งหากมีใครมองว่า ในการตั้งคำถามวันนั้นเป็นการเสียมารยาทหรือก้าวล่วงตนก็ขอโทษซึ่งในวันที่เกิดเรื่อง หลังจากนั้นก็ได้มีการไปทานข้าวกันต่อ นพ.ชลน่าน ก็ไม่ได้โกรธตนเลย ยังพูดคุยปกติ ชนแก้วกันอยู่เลย พรรคร่วมอื่นๆ ก็ปกติดี แต่มาวันนี้ ไม่รู้ เพราะอะไรทำให้ท่าทีเปลี่ยนไป แต่ในเมื่อมันเป็นแบบนี้แล้ว ตนก็ยอมถอย และยังยืนยันคำเดิมว่า อยากให้เพื่อไทยและก้าวไกลจับมือกัน จัดตั้งรัฐบาล เพราะมันเป็นรัฐบาลในฝันของรัฐบาลและหากมองว่า พรรคไทยสร้างไทย ทำให้ไม่พอใจ จะให้พรรคไทยสร้างไทยไม่ร่วมรัฐบาล หรือให้เป็นฝ่ายค้าน ผมก็ยินดี แต่ก็ยังยืนยันว่า จะโหวตให้ทั้งสองพรรคเป็นรัฐบาล เช่นเดิม หรืออยากให้ไทยสร้างไทยไปร่วมรัฐบาล แต่ไม่เอาผม ผมก็ยินดีออกจากพรรคไทยสร้างไทย ได้เลย ขอให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้แค่นั้น ตัดผมออกสัมการนี้ได้เลย คุณไปจับมือกันไปร่วมกันทำงานได้เลย ผมกลับไปเลี้ยงลูกที่บ้านได้ยืนยันว่า ตนไม่ได้แซะหรือมีปัญหากับเพื่อไทยเลย และจุดยืนตนชัดเจนมาตั้งแต่แรกก่อนเลือกตั้ง ยังเคยโพสต์ว่า “ชอบเพื่อไทยกาเบอร์ 29 ขอบคุณครับ ชอบก้าวไกลกาเบอร์ 31 ขอบคุณครับ ชอบไทยสร้างไทย กาเบอร์ 32 ขอบคุณและเป็นกำลังใจมากๆครับ” ตนชัดเจนมาตลอด เพราะอยากให้ฝ่ายประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไปได้ ต่อไปนี้ตนก็จะไม่พูดอะไรอีกแล้ว เพื่อที่จะไม่ให้ฝ่ายใดต้องอึดอัดใจส่วนประเด็นที่ นพ.ชลน่าน ตำหนิตนบอกว่า อย่าถามเพื่อเอาคอนเทนต์ลองติ๊กต่อก ประเด็นนี้ตนไม่ได้โกรธอะไรเลย ในการพูดด้อยค่าหรือดิสเครดิต ให้เห็นว่า ตนมีเจตนาแอบแฝงเอาไปทำคอนเทนต์ในติ๊กต่อก อยากให้กลับไปดูในติ๊กต่อกตน เพราะตนโพสต์ครั้งสุดท้ายนานมากแล้ว และที่เห็นตามช่องต่างๆ มากมาย ตนไม่ได้เอาไปโพสต์เองเลย UGC เป็นคนเอาไปโพสต์ทั้งนั้น แต่คุณหมอคงไม่รู้จัก UGC คงจะคิดว่า เป็น IO แต่ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ เป็นหัวหน้าพรรคเอามาพูดแบบนี้ มันก็จะทำให้ผิดเพี้ยนและการเมืองสับสนไปหมด และการด้อยค่าหรือดิสเครดิตแบบนี้ ก็เป็นรูปแบบการเมืองแบบเดิมๆ ตนเข้าใจได้ส่วนประเด็นเรื่องของประธานสภา ขอพูดตามหลักการและธรรมเนียมปฏิบัติ ก็คือจะเอาคนที่คะแนนเสียงสูงสุดเป็นแกนนำ ในการเป็นนายกฯ จัดตั้งรัฐบาล และเป็นประธานสภา แต่แล้วแต่ว่าจะไปพูดคุยกับพรรคร่วมฯ ยังไง ขอระมัดระวังไว้พูดเรื่องนี้ ขอย้ำว่า “ผมไม่ได้กังวลว่าท่านจะจับมือกันอย่างไร แต่ขอให้ท่านจับมือกัน”