คนร้ายเหิม ลอบบึมทหารชุด รปภ.ที่รือเสาะ ขณะนำพระสงฆ์ออกบิณฑบาต โดยผู้ก่อเหตุใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิด ทำให้ทหารเจ็บทันที 2 นาย พระเจ็บ 3 รูป คาดเป็นฝีมือสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงเพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่และพระสงฆ์เมื่อเวลา 06.25 น. วันที่ 2 มิ.ย. 66 พ.ต.อ.ธัญญะ ลัมบุญ ผกก.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหาร ชุด รปภ.พระสงฆ์ สังกัด กองร้อยทหารพรานที่ 4603 ขณะขับรถยนต์ตู้นำพระสงฆ์วัดไพโรจน์ประชารามไปบิณฑบาต เหตุเกิดบริเวณปากซอยเจริญราษฎร์ 2 ข้างร้านมุสรือเสาะการเกษตร ซึ่งจำหน่ายอุปกรณ์การเกษตร ตั้งอยู่เลขที่ 74/4 บ้านปลายนา ม.2 ต.รือเสาะออก ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารและพระสงฆ์ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย จึงพร้อมด้วย พ.อ.สิทธิชัย บำรุงเขต ผบ.ฉก.กรม ทพ.46 เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดอโณทัย และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด นปพ. กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุtt ttพบที่โคนต้นไม้ใหญ่ปากซอยเจริญราษฎร์ 2 ซึ่งอยู่ด้านซ้ายมือของร้านมุสรือเสาะการเกษตร ที่เป็นที่ตั้งของถังบรรจุน้ำสีขาว IBC ขนาด 1,000 ลิตร ที่ใช้เป็นภาชนะในการจัดเก็บและขนส่งของเหลวแบบมีขาเหล็ก กระเด็นไปขวางอยู่กลางถนน ส่วนโคนต้นไม้ที่คนร้ายแอบนำระเบิดของซุกไว้ ที่มีถังน้ำพลาสติกขนาดต่างๆ ทั้งสีขาว สีน้ำเงิน และสีเหลืองวางอยู่ ถูกอนุภาพของระเบิดจนพื้นปูนซีเมนต์แตกกระจายเป็นวงกว้าง โดยมีเศษซากชื้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในแก๊สหุ้งต้ม น้ำหนัก 50 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนเป็นรัศมีกว้างประมาณ 100 เมตรนอกจากนี้ที่บริเวณฝั่งตรงกันข้ามกับจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นร้านค้าและบ้านเรือนของประชาชน ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหายที่บริเวณประตู ฝาผนังและกันสาด จำนวน 3 หลัง และมีรถยนต์กระบะของชาวบ้านที่จอดอยู่ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย 2 คัน คันที่ 1 เป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บธ 2781 ปัตตานี ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณตัวถังด้านซ้ายเป็นรูพรุน แถมกระจกประตูตรงคนขับแตก คันที่ 2 เป็นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ณพ 7214 กทม. ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณตัวถังข้างไฟท้ายได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุtt ttส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ได้ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลรือเสาะไปก่อนหน้าแล้ว ประกอบด้วย 1.อส.ทพ.ไชยชิต นามเขตต์ ซึ่งเป็นพลขับ ถูกสะเก็ดระเบิดเฉี่ยวที่บริเวณศีรษะ 2.อส.ทพ.ศรีสุวรรณ์ ท๋าจุม มีอาการหูอื้อและแน่นหน้าอก 3.พระฉัน แสนศิลา (ฉันทโก) 4.พระอำนวย เข็มศิริ (วรปัญโญ) และ 5.พระดี ทองอยู่ (ปัญญาธโณ) ทั้ง 3 รูป เป็นพระลูกวัดไพโรจน์ประชาราม มีอาการแน่นหน้าอกและหูอื้อ จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ อส.ทพ.ไชยชิต ซึ่งเป็นพลขับ พร้อมด้วย อส.ทพ.ศรีสุรรณ์ ได้ขับรถยนต์ตู้นำพระสงฆ์ทั้ง 3 รูป ออกจากวัดไพโรจน์ประชาราม เพื่อไปบิณฑบาตตามกิจวัตรประจำวัน เมื่อถึงบริเวณปากซอยเจริญราษฎร์ 2 อส.ทพ.ไชยชิต ได้ชะลอความเร็วเพื่อเลี้ยวรถยนต์ตู้เข้าซอยส่งพระสงฆ์ไปบิณฑบาต ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ ได้ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปวางไว้ใต้โคนต้นไม้ใหญ่ปากซอย ซึ่งเป็นที่ตั้งถังบรรจุน้ำสีขาว IBC ขนาด 1,000 ลิตร จนเกิดระเบิดขึ้นในขณะที่ อส.ทพ.ไชยชิต ขับรถยนต์ตู้แล่นผ่าน ส่งผลทำให้สะเก็ดระเบิดกระเด็นไปถูกรถยนต์ตู้ได้รับความเสียหายที่บริเวณตัวถังด้านขวาเป็นรูพรุน และสะเก็ดระเบิดได้กระเด็นไปถูกที่บริเวณกระจกช่วงที่นั่งท้ายเบาะหลังสุด จนกระจกแตกทั้ง 2 ด้าน รวมทั้งร้านค้าและบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามได้รับความเสียหาย ทำให้ อส.ทพ.ไชยชิต พลขับและเพื่อนทหารรวมทั้งพระสงฆ์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยดังกล่าวtt ttส่วนรถยนต์ตู้สีขาวยี่ห้อโตโยต้า ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ที่ใช้เป็นพาหนะรับส่งพระออกบิณฑบาต เป็นรถยนต์ตู้ของวัดไพโรจน์ประชาราม หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำคนเจ็บขึ้นรถยนต์ตู้คันดังกล่าวส่งรักษาที่โรงพยาบาลรือเสาะ แล้วก็ได้นำรถยนต์ตู้ไปเก็บไว้ที่วัดไพโรจน์ประชารามด้านนายมุสตาฮา ยามา เจ้าของร้านมุสรือเสาะการเกษตร ซึ่งมีบ้านพักอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับร้านค้า กล่าวว่า ในช่วงเช้ากำลังเดินทางออกจากบ้านพักเพื่อไปออกกำลังกายตามปกติในช่วงเช้าของทุกวัน จู่ๆ ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวที่บริเวณปากซอยข้างร้านค้าของตน โดยที่ไม่ทราบสาเหตุ จนทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงได้ร่วมกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวเข้าช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บส่งรักษาที่โรงพยาบาล โดยบริเวณชุมชนแห่งนี้คนร้ายได้ลอบก่อเหตุวางระเบิดลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่มาแล้วหลายครั้งตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน แต่โชคดีครั้งนี้ที่ทรัพย์สินของตนได้รับความเสียหายเล็กน้อย ซึ่งเรื่องเหตุการณ์เช่นนี้คิดว่ามันน่าจะหมดไปแล้วเสียอีก ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง เพื่อลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่และพระสงฆ์ ในการสร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้.