วันจันทร์, 2 ตุลาคม 2566

“อลงกรณ์” หวัง ส.ว.โหวตนายกฯ ตามแนวทางสภา ควรเปลี่ยนผ่านรัฐบาลโดยเร็ว

“อลงกรณ์” ประชาธิปัตย์ ชี้ ใครเลือกตั้งชนะก็เป็นรัฐบาล ใครแพ้เป็นฝ่ายค้าน หวัง ส.ว.โหวตนายกฯ ตามแนวทางสภา กังวลเฟกนิวส์ปลุกระดมสร้างความแตกแยก ชี้ การเปลี่ยนผ่านรัฐบาลควรเป็นไปโดยราบรื่นและรวดเร็ววันที่ 4 มิถุนายน 2566 นายอลงกรณ์ พลบุตร รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊ก ในหัวข้อ “สปิริตประชาธิปไตย Spirit of Democracy” ว่า ประชาธิปไตยเป็นระบอบการเมืองการปกครองที่เรียบง่ายและมีสปิริต ประชาชนเลือกตั้งเสร็จ ใครชนะก็เป็นรัฐบาล ใครแพ้ก็เป็นฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกลชนะได้เสียงอันดับ 1 มีสิทธิ์และความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล โดยต้องรวมเสียงให้ได้เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร แต่ถ้าทำไม่ได้ก็เป็นสิทธิ์ของพรรคเพื่อไทย อันดับ 2 และพรรคภูมิใจไทย อันดับ 3 ในการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป“ผมหวังว่าวุฒิสมาชิก (ส.ว.) จะสนับสนุนแนวทางนี้ของสภาผู้แทนราษฎรในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อจัดตั้งรัฐบาลได้มีนายกรัฐมนตรีแล้วก็ให้ทำงาน 4 ปี ฝ่ายค้านทำหน้าที่ถ่วงดุลตรวจสอบรัฐบาล แต่ละฝ่ายมีโอกาสทำงานเท่ากันในการพิสูจน์ผลงาน แล้วตัดสินด้วยคะแนนเสียงของประชาชนในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ประชาธิปไตยต้องมีสปิริต รู้แพ้รู้ชนะเหมือนแข่งกีฬา ถ้าเราไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง แล้วเราจะให้ประชาชนมาออกเสียงลงคะแนนทำไม การยอมรับผลการเลือกตั้งเป็นหลักการสำคัญในระบอบประชาธิปไตย”นายอลงกรณ์ ระบุต่อไปว่า ที่น่าวิตกคือมีการปล่อยข่าวเฟกนิวส์ข่าวดีลลับข่าวฐานทัพอเมริกัน ข่าวอเมริกาหนุนหลัง ข่าวรัฐบาลแห่งชาติ ข่าวเลือกตั้งโมฆะ มีคลิปปลุกระดมสร้างความเกลียดชังมุ่งดิสเครดิตฝ่ายตรงข้ามออกมาทั้งในสื่อหลักสื่อโซเชียล เหมือนการปลุกผีคอมมิวนิสต์ในเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 ซึ่งข่าวสารเหล่านี้สร้างความแตกแยกในบ้านเมือง ไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ทั้งนี้ ประชาธิปไตยไม่ได้สร้างด้วยความเกลียดชัง แต่สร้างด้วยการเคารพในความเห็นต่างอย่างมีเหตุผลด้วยสันติวิธีและขันติธรรม การเปลี่ยนผ่านอำนาจจากรัฐบาลหนึ่งสู่อีกรัฐบาลหนึ่งควรเป็นไปโดยราบรื่นและรวดเร็ว ประเทศกำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจ อย่าซ้ำเติมด้วยวิกฤติการเมือง ก่อนจะทิ้งท้ายว่า หนทางเดียวคือช่วยกันทำให้ประเทศของเราเดินไปข้างหน้าตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย.