
ประธานมูลนิธิฯ ช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ ยื่นหนังสือถึงอสส.และดีเอสไอ ให้ตรวจสอบเหตุใด “พนักงานอัยการ สำนักงานคดีทุจริตภาค 7” มีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่เป็นตำรวจ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยวรับส่วยสถานบริการ “ชมดาวคาราโอเกะ” จ.กาญจนบุรี ชี้มีตำรวจระดับพ.ต.อ.เกี่ยวข้องมีความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อให้ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ชาวเมียนมา และยังเป็นเด็กหญิง อายุ 15 ปี ถูกดำเนินคดี ที่สำนักงานอัยการสูงสุด วันที่ 6 มิ.ย. 66 นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์เพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์และความรุนแรงต่อเด็กและสตรี เข้ายื่นหนังสือสำนักงานอัยการสูงสุด และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ตรวจสอบเหตุใดพนักงานอัยการ สำนักงานคดีทุจริตภาค 7 ไม่สั่งฟ้องกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยวรับส่วยสถานบริการชมดาวคาราโอเกะ จ.กาญจนบุรี มีนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสนง.อส.เป็นคนรับเรื่อง นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์เพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ฯ ร้องว่าทราบว่าพนักงานอัยการ สำนักงานคดีทุจริตภาค 7 มีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง ที่เกี่ยวข้องกับการเรียกรับสินบนจากสถานบริการ “ชมดาวคาราโอเกะ” จ.กาญจนบุรี เมื่อปี 2558เรื่องเดิมมีว่า การเข้าตรวจค้นร้านคาราโอเกะในครั้งนั้นเกิดขึ้นช่วงเดือนตุลาคม 2558 และพบเอกสารการเรียกรับส่วยของเจ้าหน้าที่รัฐ หลายคน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นเจ้าหน้าที่ที่รับเงินสด 7 นาย และกลุ่มที่โอนเข้าบัญชี 6 นาย ซึ่งการทำงานของเจ้าหน้าที่ แบ่งออกเป็น 2 สำนวน สำนวนแรก คือกลุ่มที่รับส่วยจากการโอนเข้าบัญชี จากหลักฐานในครั้งนั้น ทำให้มีการรวบรวมหลักฐาน ซึ่งในปี 2564 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับเป็นคดีพิเศษในส่วนของการทุจริตและประพฤติมิชอบในเจ้าหน้าที่รัฐและได้มีความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาไปยังสำนักงานอัยการภาค 7 แต่ปัจจุบันกลับยังไม่มีความคืบหน้าว่าสั่งฟ้องหรือไม่ส่วนอีกสำนวน คือ กลุ่มที่รับส่วยเป็นเงินสด กลุ่มดังกล่าว ดีเอสไอ ได้ส่งสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ไปเมื่อ ปี 2565 แต่ในสำนวนดังกล่าว ทางพนักงานอัยการภาค 7 กลับมีความเห็น “สั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา” ส่วนนี้มีการตั้งข้อสงสัยว่ามีพยานหลักฐานชัดเจน ครบถ้วน แต่กลับไม่สั่งฟ้อง จึงอยากมาถามทางสำนักงานอัยการสูงสุดว่าเหตุใดถึงไม่สั่งฟ้อง ได้ดูพยานหลักฐานครบแล้วหรือยัง และจะไปถามดีเอสไอ ว่า หลังอัยการภาค 7 ส่งกลับมาว่าไม่ฟ้อง ทำไมถึงไม่แย้งกลับไป ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า มีกลุ่มขบวนการที่พยายามช่วยเหลือกลุ่มผู้ต้องหา เพราะในกลุ่มที่ 2 ที่มีคำสั่งไม่ฟ้อง มีตำรวจระดับพันตำรวจเอกเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งมีความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อให้ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่มีสัญชาติเมียนมา และยังเป็นเด็กหญิง อายุ 15 ปี ถูกดำเนินคดี ในข้อกล่าวหามั่วสุม และเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยการทำการปลอมแปลงเอกสารเปลี่ยนอายุผู้เสียหาย จาก 15 ปี เป็น 18 ปี ซึ่งขณะนั้น ตนได้ยื่นหนังสือและช่วยเหลือเด็กหญิงจนกลับภูมิลำเนาได้แล้ว ด้านนายโกศลวัฒน์ ที่ออกมารับหนังสือร้องเรียน กล่าวว่า ในช่วงบ่ายจะนำเอกสารดังกล่าวยื่นให้ท่านอัยการสูงสุดตรวจสอบทันที ซึ่งการตรวจสอบจะเร่งทำให้เร็วที่สุด แต่ก็ยอมรับว่าตอนนี้มีหลายคดีที่อัยการสูงสุดต้องเร่งตรวจสอบ.