วันอาทิตย์, 3 ธันวาคม 2566

“บิ๊กป้อม” ติวเข้ม ส.ส. ลั่น จะอยู่ พปชร.จนวันตาย นัดถกโหวตประธานสภา 4 ก.ค.

พปชร. “บิ๊กป้อม” นำปฐมนิเทศ ส.ส.ก่อนเปิดสภา ลั่น จะอยู่ พปชร.จนวันตาย ไม่หนี ไม่ทิ้งแน่ ติวผู้แทนฯ ยึดประโยชน์ชาติ ไม่ยึดประโยชน์ตัวเอง ฮึ่ม อย่าแบ่งก๊วนต่อรอง หึ่ง นัดถกโหวตประธานสภา 4 ก.ค.tt ttวันที่ 2 ก.ค. เมื่อเวลา 13.00 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้มีการจัดกิจกรรมปฐมนิเทศ ส.ส.ใหม่ และประชุมเชิงปฏิบัติการและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของพรรคและสมาชิก โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ เป็นประธาน โดยมีกรรมการบริหารพรรคและแกนนำพรรคเข้าร่วมอย่างพร้อมเพียง อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือ ทั้งนี้ ก่อนเริ่มประชุมเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมสถานที่สําหรับจัดโต๊ะจีน 20 ตัว และเวที ที่โถงชั้น 1 อาคารที่ทำการพรรค เพื่อแสดงความยินดีกับ ส.ส.พรรค หลังการประชุม ภายใต้สโลแกน “ก้าวข้ามความขัดแย้ง”ต่อมาเวลา 13.30 น. พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางถึงพรรค ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยสวมใส่เสื้อเชิ้ตลาย กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ พร้อมเสื้อแจ็กเกตพรรค โดยมี ส.ส.และแกนนำพรรคต้อนรับ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักจากนั้นเวลา 14.15 น. พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวมอบแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ส. ว่า ก่อนอื่นตนขอแสดงความยินดีกับ ส.ส.ใหม่ รวมไปถึงคณะกรรมการบริหารพรรค คณะกรรมการยุทธศาสตร์ คณะกรรมการนโยบาย รวมไปถึงสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐทุกคน ตนและคณะกรรมการบริหารพรรคขอแสดงความยินดีกับ ส.ส.ใหม่ทุกท่านด้วยความยินดียิ่ง ที่ท่านได้รับความไว้วางใจจากประชาชนจนได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาtt ttพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การเลือกตั้งในครั้งที่ผ่านมา มีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นมากกว่าทุกครั้ง จากข้อมูลการเลือกตั้ง มีพรรคการเมืองมาเสนอให้กับพี่น้องประชาชนเลือกถึง 67 พรรค และมากกว่า 4,000 หน่วย 400 เขตเลือกตั้ง ซึ่งมีประชาชนมาใช้สิทธิเลือกตั้งกว่า 75% สูงที่สุดในประวัติการณ์ แม้ว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนมาเป็นอันดับ 4 ก็ตาม แต่ก็ได้รับเลือกตั้งมาเป็นตัวแทนประชาชนจากทั่วทุกภูมิภาค ยกเว้นกรุงเทพมหานคร จึงถือได้ว่า พวกเราได้รับความศรัทธาจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะ ส.ส.ที่ได้นั่งอยู่ในห้องนี้ ผ่านการแข่งขันที่รุนแรงอย่างมาก แต่ก็เอาชนะมาได้ เชื่อว่าทุกพรรคการเมืองจะต้องนำผลการเลือกตั้งไปปรับปรุง เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการเลือกตั้งครั้งต่อไปหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า ตนได้แถลงขอบคุณประชาชนทั้งประเทศ ที่ให้ความไว้วางใจในพรรค พปชร.ไปแล้ว ตั้งแต่ในวันที่เสร็จสิ้นการเลือกตั้ง และตอนนี้ตนขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับพรรค พปชร.ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ที่ทำงานอยู่ร่วมกันอย่างเหน็ดเหนื่อย รวมไปถึงผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทุกคน ทุกเขต ที่ได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ทำงาน และมีส่วนร่วมสนับสนุนการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเป็นอย่างดี“ถึงวันนี้พรรคพลังประชารัฐของเราจะต้องเดินไปข้างหน้าตามอุดมการณ์ ตามเจตจำนงของพรรคที่ขออาสาเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อเป็นพรรคการเมืองของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผมขอยืนยันว่าจะดูแลพรรคพลังประชารัฐไปตลอดชีวิตของผม เท่าที่ผมมี เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าผมจะลาออกหรือไปที่ไหน อย่างไรก็จะอยู่กับพรรคพลังประชารัฐตลอดไป”พล.อ.ประวิตร กล่าวพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า หลังจากพิธีเปิดประชุมรัฐสภา 3 ก.ค. จะมีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร รองประธานสภา ในวันที่ 4 ก.ค. จากนั้นจะมีการเลือกนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ไม่ว่าผลการจัดตั้งรัฐบาลจะออกมาในรูปใดก็ตาม พรรค พปชร.ยังจะเป็นพรรคการเมืองที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อรับใช้ประชาชนต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การปฐมนิเทศวันนี้ ตนอยากให้เป็นจุดเริ่มต้นที่รวมบุคลากรคนสำคัญของพรรค ไม่ว่าจะมีตำแหน่งหรือไม่ก็ตาม จะต้องร่วมกันทำงานเพื่อให้พรรค พปชร.เป็นพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง และเป็นที่พึ่งของประชาชนต่อไป โดยเฉพาะ ส.ส.ใหม่หรือคนเก่า ไม่ว่าสมัยที่แล้วอยู่พรรคใด แต่วันนี้จะต้องมารวมกันเป็นหนึ่งเดียวของพรรค พปชร. จะต้องทำหน้าที่ทั้งในและนอกสภาอย่างเต็มที่ จะต้องทำผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ตาม เมื่อประชาชนให้ความไว้วางใจสนับสนุนพวกเรา เราต้องทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ อยากจะให้ข้อคิดกับ ส.ส.ทุกท่าน เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติว่า การทำหน้าที่ ส.ส.ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และมติข้อบังคับของพรรคอย่างเคร่งครัด รวมถึงจะต้องมีจริยธรรม โดย ส.ส.พรรค พปชร.จะต้องเป็นเอกภาพ ไม่มีการแบ่งกลุ่มแบ่งก๊วน เพื่อเรียกร้องผลประโยชน์ใดๆ ก็ตามพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ทุกอย่างที่ตนพูดในวันนี้ไม่ใช่ว่าจะก่อประโยชน์ให้กับคนใดคนหนึ่ง แต่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ ส.ส.ของพรรคเราจะยึดประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่ผลประโยชน์ของพรรค และจะต้องรักษาผลประโยชน์ของพรรค ไม่ใช่ประโยชน์ส่วนตัว หากทุกคนปฏิบัติตามนี้แล้ว เชื่อมั่นว่าพรรคพลังประชารัฐจะเป็นพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง และจะเป็นที่พึ่งของประชาชนตลอดไป การปฐมนิเทศวันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ ส.ส.จะได้ทำหน้าที่เป็น ส.ส.ของพรรค พปชร. ในสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 ขอให้กำลังใจแก่ทุกท่านให้ปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.อย่างมีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้ทุกประการรายงานข่าวจากพรรค พปชร.แจ้งว่า สำหรับทิศทางการโหวตประธานสภาผู้แทนราษฎรของพรรค พปชร. ขณะนี้ยังไม่ได้มีมติออกมาว่าจะโหวตให้กับใคร เพราะต้องรอดูความชัดเจนระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล ว่าจะเสนอบุคคลใด แล้วค่อยมากำหนดว่าพรรคจะโหวตให้ใคร โดย ส.ส.ของพรรคทั้งหมด 40 คน จะโหวตในทิศทางเดียวกันทั้งหมด โดยก่อนการโหวตประธานสภา ในวันที่ 4 ก.ค. จะมีการประชุม ส.ส.ของพรรคที่รัฐสภา เพื่อแจ้งให้ ส.ส.ทราบถึงทิศทางว่าจะโหวตอย่างไร เมื่อมีมติเสร็จแล้วจะเข้าประชุมสภาต่อทันที เพื่อลงมติเลือกประธานสภา.