

ฟังความอีกด้าน กรณีสาววัย 25 ร้องถูก “มาร์แชล” จนท.เทศบาลนครหาดใหญ่ตีด้วยกระบองเหล็กหัวแตกเย็บ 12 เข็ม น่วมไปทั้งตัว ยอมรับไปเจออีกฝ่ายพาพวกบุกทำร้ายตบตีภรรยาถึงร้าน ห้ามแล้วแต่ยังบุกไปตบต่ออีก เลยทนไม่ไหวใช้กระบองตีไป ยอมรับทำเกินกว่าเหตุ พร้อมจ่ายค่ารักษา ค่าทำขวัญ วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 กรณีผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากหญิงสาวรายหนึ่ง ว่า ถูกเจ้าหน้าที่ของเทศบาลนครหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา ใช้เหล็กติ้วหรือกระบองเหล็กตีศีรษะและร่างกายหลายสิบครั้ง จนศีรษะแตกเลือดไหลอาบหน้าเป็นแผลฉกรรจ์ต้องเย็บถึง 12 เข็ม และทั่วทั้งร่างบอบช้ำจากการถูกทุบตี สาเหตุมาจากคนก่อเหตุไม่พอใจน้องสาวบุกทวงเงินค่าแรงจำนวน 5,130 บาท กับเจ้าของร้านเสริมสวย ซึ่งคนก่อเหตุและเจ้าของร้านเสริมสวยเป็นแฟนกัน เหตุเกิดภายในร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง ซอยยิ่งศักดิ์ ถนนจันทร์นิเวศ 2 ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาโดยผู้ถูกทำร้ายคือ นางสาวสุนิษา มิรัมย์ หรือ มาย อายุ 25 ปี ส่วนคนก่อเหตุ คือ นายศุภวรรษ บุญชู หรือ โอ อายุประมาณ 27 ปี ทำงานอยู่เทศบาลนครหาดใหญ่ ตำแหน่งหาดใหญ่มาร์แชล เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ประชาชนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ความคืบหน้าเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่เทศบาลนครหาดใหญ่ เข้าพบ พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ สอบถามเหตุการณ์กรณีที่นายศุภวรรษ บุญชู หรือ โอ เจ้าหน้าที่หาดใหญ่มาร์แชล ฝ่ายเทศกิจเทศบาลนครหาดใหญ่ ก่อเหตุใช้เหล็กติ้วตีศรีษะนางสาวสุนิษา มิรัมย์ หรือ มาย อายุ 25 ปี จนศีรษะแตกเลือดไหลอาบหน้าและเย็บถึง 12 เข็มพล.ต.ท.สาคร กล่าวว่า ได้รับการรายงานในเบื้องต้น ทราบว่าเป็นการทะเลาะวิวาทกันระหว่างภรรยาของผู้ก่อเหตุ ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของเทศบาลนครหาดใหญ่ เรื่องที่เกิดขึ้นอาจเป็นด้วยอารมณ์ชั่ววูบ และมีการคุยกับร้อยเวรในคดีแล้วขอให้ดำเนินคดีกับคนที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ในทุกกรณี ส่วนเรื่องที่ 2 ในเรื่องของการเยียวยาดูแลผู้เสียหายก็เป็นหน้าที่เราต้องเข้าไปดูแลอยู่แล้ว เหตุการณ์นี้ก็รู้สึกเสียใจกับครอบครัวผู้เสียหาย ในนามเทศบาลนครหาดใหญ่เราก็จะไม่ปล่อยปละละเลย ได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง ส่วนหน่วยงานมาร์แชลหาดใหญ่ได้ก่อตั้งมาเพื่อทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยร่วมกับตำรวจ และทำร่วมกับเทศกิจดูแลความเรียบร้อยปลอดภัยในพื้นที่ ในฐานะที่ตนเป็นตำรวจมาก่อนและเป็นผู้บัญชาโดยตรง รู้สึกเสียใจและไม่อยากให้กรณีนี้เกิดขึ้นอีก ขอโทษพี่น้องมาประชาชนมา ณ โอกาสนี้ด้วยต่อมาผู้สื่อข่าวได้พบ นายศุภวรรษ บุญชู หรือ โอ อายุประมาณ 27 ปี เจ้าหน้าที่หาดใหญ่มาร์แชล ฝ่ายเทศกิจเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับมอบหลักฐานภาพนางสาวเนตรชนก รู้จำ หรือ แอน อายุ 26 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการทะเลาะวิวาทกับนางสาวสุนิษา มิรัมย์ หรือ มาย อายุ 25 ปี tt ttนายศุภวรรษ กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนอยู่ที่ทำงาน วิดีโอคอลคุยกับแฟนสาวซึ่งเป็นเจ้าของร้านเสริมสวย ขณะที่กำลังคุยกันได้มีอดีตลูกน้องที่ร้านของแฟนเป็นผู้หญิงพาพวกมาประมาณ 3- 4คนมาอยู่หน้าร้าน และเริ่มได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทกัน จึงได้วางโทรศัพท์แล้วแจ้งหัวหน้าชุดว่าที่บ้านกำลังมีปัญหาจะเข้าไปดูแฟนหน่อย ขณะไปถึงบ้านภาพแรกที่เห็นคือแฟนมีเลือดออกเต็มหน้า มีแผลตามลำคอและร่างกายเต็มไปหมด “ทางฝั่งของเขาและพวกที่มา ล้อมอยู่ด้านหน้าร้านและในร้านพอผมไปถึงน้องผู้หญิงกำลังบุกเข้าไปตบแฟนสาวอีกรอบ หลักๆ คือวันนั้นไม่ใช่มีปัญหากันจากประเด็นเรื่องค่าแรงที่เขาได้กล่าวอ้าง แต่มันเป็นประเด็นของการขโมยของ และมีของหายในร้านของแฟนผม แต่เราก็ยอมรับผิดอย่างหนึ่งว่า จังหวะที่เห็นว่าแฟนมีเลือด มีแผลเต็มหน้าและลำคอ ซึ่งในจังหวะนั้นน้องผู้หญิงยังเข้าไปทำร้ายแฟนผมอีก ในระหว่างที่จังหวะชุลมุน และมีคนอยู่กันเต็มร้านไปหมด ด้วยความโมโหจึงชักเหล็กตีเข้าไป เพราะตอนแรกได้ห้ามแล้วแต่ไม่หยุด ด้วยความโมโหตอนนั้นไม่ได้มีเจตนาที่ว่าจะทำร้ายร่างกายของน้องฝ่ายตรงข้ามถึงขนาดนั้น” นายศุภวรรษ กล่าวอีกว่า หลังจากตีน้อง ได้ยกมือไหว้ฝั่งของน้องเขาว่าไปโดนใครก็ต้องขอโทษด้วย และยอมรับผิดว่าได้กระทำเกินกว่าเหตุจริงๆ และขอให้น้าชายโทรไปถามว่ามีอะไรจะช่วยในเรื่องค่ารักษาพยาบาล หรือจะให้ขอโทษ ตนทำได้หมด รู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะจริงๆ แล้วน้องเขาก็เป็นน้องคนหนึ่งที่เคยอยู่กันมา กินข้าวหม้อเดียวกัน และดูแลกันมาตลอดแต่มาเกิดเหตุการณ์ผิดใจกัน เพราะฟังจากที่คนอื่นเอาไปพูดเกี่ยวกับของในร้าน และตนยังได้พูดกับน้องว่าเหตุการณ์มันไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะถ้าแค่มาด่าเฉยๆ ก็คงจะไม่ไปยุ่งปล่อยให้เป็นเรื่องของผู้หญิงไป ขอโทษสังคมและทุกๆ คนในที่ทำงานที่ทำให้เสื่อมเสีย ขอยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายแต่ทำไปด้วยความโมโหและเขามาทำร้ายทางแฟนก่อนถึงในร้าน จึงทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นทางด้าน น.ส.แอน เจ้าของร้านเสริมสวยที่ถูกอดีตลูกจ้าง อ้างว่าทะเลาะกันเรื่องทวงเงินค่าแรง เล่าว่า ทางน้องผู้หญิง คือน้องมาย ได้ติดต่อตนมาช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ว่าน้องอยากเรียนต่อขนตา จะคิดเงินค่าเรียนเท่าไร จึงบอกว่าถ้าอยากเรียนก็ให้เข้ามาที่ร้านเดี๋ยวตนจะสอนให้ แล้วน้องก็เข้ามาหาตนที่ร้าน บอกว่าถ้าลูกโรงเรียนเปิดจะกลับไปเปิดร้านที่บ้าน ตนจึงบอกไปว่าโอเค หลังนั้นน้องก็บอกกับว่ายังไม่ได้เงินมาลงทุนและยังไม่พร้อมที่จะไปเปิดร้าน ตนจึงบอกว่าให้มาช่วยที่ร้านก่อนหาประสบการณ์ไปก่อน “เรื่องมันเกิดมาจากที่ว่า เราได้มีการพูดคุยและมีการระหองระแหงกันอยู่แล้ว ซึ่งเราได้คุยกับพี่สาวและน้องเขาอีกคนหนึ่ง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคนกลางที่เอาเรื่องไปพูดต่อ พูดทำนองไหน วันเกิดเหตุน้องเขาได้เปิดประตูเข้ามาหาที่ร้านเสริมสวยแล้วได้พูดว่า ของอะไรหาย จึงได้ถามว่าแล้วน้องเอาอะไรไปละ และถามกลับไปว่าการที่น้องได้บอกคนอื่นว่าออกไปรับต่อขนตานอกสถานที่ แต่ไม่ได้บอกเราก่อนทั้งที่เราเป็นสอนวิชาให้ จึงทำให้มีปากเสียงกัน หลังจากนั้นน้องเขาได้เดินเข้ามากระชากคอ ซึ่งเพื่อนที่ได้มากับทางฝั่งของน้องก็ไม่ได้มีใครเข้ามาห้าม เพียงแต่พูดว่าปล่อยให้ตบกันไปเลย มีแต่เพื่อนฝั่งของเราที่อยู่ในเหตุการณ์เข้ามาห้าม หลังจากนั้นแฟนได้ขับรถมาถึงร้าน จังหวะนั้นฝั่งของน้องผู้หญิงได้ปล่อยเราแล้ว” น.สแอนกล่าวอีกว่า ฝ่ายนั้นไม่ยอมจบพูดขึ้นมาอีกว่ามึงโชคดีแล้วที่โดนตบ ทางตนถึงได้เขวี้ยงกระถางต้นไม้ที่วางอยู่ หลังจากนั้นน้องผู้หญิงได้เข้ามากระชากตน แฟนจึงได้เข้ามาห้ามแต่มือของน้องได้ดึงหัวของตนอยู่ไม่ยอมปล่อย หลังจากนั้นแฟนได้ใช้เหล็กตีเข้าไปที่น้องผู้หญิง แต่ตนได้ห้ามและใช้มือกั้นไว้ พูดว่าพอแล้วอย่าตี ตนไม่เป็นไร ยังไหวอยู่ ซึ่งตอนอารมณ์แฟนของกำลังโมโหอยู่ หลังจากนั้นพ่อได้เดินเข้ามาแล้วบอกว่าถ้ายังไม่จบให้ต่างคนต่างไปแจ้งความ ไปหาหมอ ไปโรงพัก ซึ่งประเด็นที่น้องเขาบอกว่าเราไปค้างค่าเปอร์เซ็นต์ ปกติแล้วทางตนและน้องจะเคลียร์กันเป็นรอบ แต่ว่ารอบนี้มีการคลาดเคลื่อนไม่เป็นไปตามยอด ซึ่งตนไม่รู้ว่ายอดที่น้องได้แจ้งมาจากที่จดไว้ในกระดาษและมือถือเป็นความจริงหรือไม่เพราะตนไม่ได้เห็น “ยืนยันได้เลยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางน้องไม่ได้มาพูดถึงเรื่องเงินเลย พอเกิดเรื่องขึ้นมาก็อ้างเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยว ซึ่งหลักฐานการโอนเงิน การทำงานเราได้จดไว้หมด ตอนนี้ก็ไม่ได้มีความอาฆาตหรือแค้นอะไรทางน้องเขาถือว่าจบแล้วก็แล้วกันไป ส่วนทางน้องจะเรียกเอาเงินค่าพยาบาลหรือเงินทำขวัญที่แฟนได้ทำเกินกว่าเหตุ ทางเรายินยอมชดใช้ให้ทั้งหมด” น.ส.แอนกล่าว