วันศุกร์, 8 ธันวาคม 2566

ชาวสวนทุเรียนครบุรี ปลูกมะละกอ และผักหวานเก็บขาย หารายได้และเป็นทุนดูแลผลผลิต

05 ก.ค. 2023
43

เกษตรกรชาวสวนทุเรียนที่ อ.ครบุรี โคราช ปลูกผักหวานกับมะละกอเป็นพืชเสริมคู่กับทุเรียน ระหว่างรอผลผลิต ชี้ลดความเสี่ยง และสร้างรายได้เข้าครอบครัว ระหว่างที่รอทุเรียนสุกพร้อมขายผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสการปลูกทุเรียนในพื้นที่อำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา กำลังได้รับความนิยม และเกษตรกรเริ่มสนใจหันมาเพาะปลูกเพิ่มขึ้นกันเป็นจำนวนมาก แต่การปลูกทุเรียนจนกว่าจนได้ผลผลิตพอเก็บเกี่ยวนั้นต้องใช้ความชำนาญและเวลากว่า 4 ปีจึงจะได้ผลผลิต เกษตรกรบางรายจึงต้องหาวิธีการปลูกพืชชนิดอื่นเสริมไปด้วยเพื่อให้พอมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว และนำไปต่อยอดดูแลต้นทุเรียนจนกว่าจะได้ผลผลิตพอเก็บเกี่ยว เนื่องจากไม่มีเงินทุนมากพอที่จะต้องดูแลทุเรียนเพียงอย่างเดียว tt tttt ttนายพิชัย วิทยาพรพิพัฒน์ วัย 56 ปี เกษตรกรบ้านหนองโบสถ์บ่อลิง หมู่ที่ 13 ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เริ่มปลูกทุเรียนไว้จำนวน 5 ไร่ แต่ก็ต้องปลูกพืชชนิดอื่นๆ เสริมเอาไว้ เพื่อให้พอมีรายได้มาจุนเจือครอบครัว และเอาไว้ลงทุนดูแลทุเรียนให้เติบโต จนกว่าจะได้ผลผลิต อาทิ ผักหวาน มะละกอ กล้วย น้อยหน่า เป็นต้น tt tttt ttนายพิชัย กล่าวว่า ตอนนี้ในสวนทุเรียนที่ตนเองปลูกเอาไว้มานานเกือบ 2 ปี ก็มีผักผลไม้หลากหลายอย่างปลูกเสริมเอาไว้ด้วย เช่น ผักหวาน น้อยหน่า อะโวคาโด สะตอ เพื่อใช้เป็นพืชเสริมทำรายได้ในช่วงที่ต้องรอทุเรียนให้ผลผลิต โดยรายได้หลักตอนนี้ก็อยู่ที่ผักหวานป่าที่ตนเองได้ปลูกเอาไว้ก่อนหน้าที่จะเริ่มปลูกทุเรียน รวมถึงมะละกอพันธุ์ดำเนินสะดวกที่เริ่มนำมาปลูกไว้ ซึ่งตอนนี้ก็ทำรายได้เกินหลักแสนไปแล้ว เพราะราคาค่อนข้างดี ทำให้มีรายได้มาจุนเจือครอบครัว และเป็นทุนเอาไว้ดูแลใส่ปุ๋ยทำระบบน้ำให้กับทุเรียนจนกว่าจะได้ผลผลิตต่อไป tt tttt ttเจ้าของสวนทุเรียนที่ อ.ครบุรี กล่าวด้วยว่า การปลูกพืชผสมผสานก็ถือว่าดีกว่าปล่อยพื้นที่ทิ้งไว้ และลงทุนดูแลทุเรียนอย่างเดียว เพราะเงินทุนก็จะร่อยหรอลงเรื่อยๆ อีกทั้งหากทุเรียนเกิดปัญหาถูกโรคแมลงรบกวน หรือดูแลไม่ดีพอ ก็อาจจะตายลง ทำให้เงินทุนที่ลงทุนไปเสียไปโดยเปล่าประโยชน์.