
ด.ช.ขวบเศษ ตัวเขียวช้ำ เสียชีวิตปริศนาคาบ้านพ่อเลี้ยง ล่าสุดพ่อเลี้ยง-แม่เด็ก เข้าพบ พนง.สอบสวนแล้ว ยืนยันไม่ได้ทำร้ายเด็ก-บอกไม่รู้สาเหตุการตาย-และไม่ได้หลบหนี ด้านแพทย์ลงความเห็นเด็กเสียชีวิตจากการบาดเจ็บที่ทรวงอกและช่องท้อง ขณะที่ทางตำรวจเผยอาจเข้าข่าย “ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” เบื้องต้นยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา รอญาติแจ้งความร้องทุกข์จากกรณีที่ ด.ช.วรกิตต์ หรือ “น้องไบร์ท” อายุ 1 ขวบ 10 เดือน เสียชีวิตปริศนาคาบ้านพ่อเลี้ยง ที่หมู่บ้านโคกเขาพัฒนา ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ สภาพตามตัวเขียวช้ำ ซึ่งแม่แท้ๆ อ้างว่าลูกตกบันไดก่อนเสียชีวิต แต่ญาติไม่เชื่อว่าเด็กตกบันได ประกอบกับพ่อเลี้ยงมีประวัติติดยาเสพติด อีกทั้งหลังเกิดเหตุพ่อเลี้ยงและแม่ของเด็กได้หายตัวไปจากบ้าน จึงตั้งข้อสงสัยว่าเด็กอาจถูกทำร้ายจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งร่างของเด็กไปชันสูตร ที่ รพ.เพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียดล่าสุด เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติได้เดินทางไปรับศพ ด.ช.วรกิตต์ จาก รพ. เพื่อกลับมาประกอบพิธีตามศาสนา ที่วัดกลางหินโคนดง หรือวัดอัมพวนาราม ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ขณะที่วันนี้ (4 ก.ค.) นายสันติภาพ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี พ่อเลี้ยง และ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี แม่ของเด็ก ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ที่ สภ.ปะคำ พร้อมยืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ไม่ได้ทำร้ายร่างกายลูกและไม่ได้หลบหนี แค่ตกใจที่ลูกเสียชีวิตจึงไปหาแม่ฝ่ายชายเท่านั้นจากการสอบถาม น.ส.เอ แม่ของเด็ก ให้การว่า ตนไม่ทราบสาเหตุว่าลูกเสียชีวิตเพราะอะไร แต่ก่อนหน้านี้ลูกตกบันไดและไม่สบาย จึงให้ลูกกินยาที่หมอเคยให้มาก่อนหน้านี้แต่มันยังไม่หมดอายุ วันที่เอายาให้ลูกกินตนก็ไม่สบายเช่นกัน จึงกินยาแล้วนอนหลับจนถึงเย็น โดยสามีคอยเป็นคนดูแลลูกแทน พอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็พบว่าลูกนอนแน่นิ่งแล้ว แต่ยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายลูกแน่นอนด้าน นายสันติภาพ พ่อเลี้ยง ให้การว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา ระหว่างที่ตนเข้าห้องน้ำอยู่นั้น ออกมาก็เห็นลูกนั่งอยู่บริเวณบันไดบ้าน ตนก็อุ้มเขาขยับและเห็นเขาเดินได้ปกติ จากนั้นเขาก็นอนหลับ และแม่เขาก็ให้กินยา ที่ผ่านมาเวลาเขาป่วย ให้กินยาก็หาย แต่ไม่รู้ว่าครั้งนี้ทำไมถึงเสียชีวิต”ตนยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกาย ต้นรักเหมือนลูกแท้ๆ อีกทั้งยังตามใจทุกอย่าง ก็ไม่รู้ว่าทำไมน้องถึงเสียชีวิต ส่วนตามร่างกายน้องที่มีรอยฟกช้ำนั้นตนไม่ทราบ ที่ผ่านมาแม่เขาก็ตบตีบ้าง เพราะว่าเขาดื้อจึงสั่งสอนตามปกติ ส่วนทางตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหาใดๆ กับตน แค่สอบปากคำไว้เบื้องต้นเท่านั้น และบอกว่าให้ตนไปจัดการเรื่องงานศพลูกให้เรียบร้อยก่อน ส่วนที่บอกว่าตนทั้งสองหลบหนีนั้น ขอยืนยันว่าไม่ได้หลบหนีไปไหน แค่ตกใจเพราะทราบว่าลูกตาย ตนแค่ไปหาแม่และอยากให้แม่รู้เรื่องจึงไปหาเท่านั้น ไม่ได้หนีไปไหน” นายสันติภาพ พ่อเลี้ยง กล่าวด้าน นางหนูเล็ก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ยายของเด็ก เล่าว่า ส่วนตัวทำงานที่ กทม. ไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์ขึ้นอย่างไร แต่เท่าที่สอบถามลูกสาวคนโตที่โทร. มาบอกตน ก็บอกแค่ว่าหลานเสียชีวิต ส่วนสามีใหม่ของลูกสาวคนเล็ก ซึ่งก็คือแม่ของหลานที่เสียชีวิตนั้น ตนก็ไม่ค่อยรู้จัก เพราะเขาเพิ่งมาอยู่กินด้วยกันได้ประมาณครึ่งปี แต่เท่าที่ทราบสามีใหม่ของลูกสาวมีประวัติเสพยาเสพติด คิดว่าลูกสาวน่าจะเสพด้วยเช่นกัน ส่วนสาเหตุที่หลานเสียชีวิตนั้น ต้องรอผลชันสูตรที่ชัดเจนอีกครั้งว่าเกิดเหตุอะไร หากหลานถูกทำร้ายจริงก็ต้องแจ้งความตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไปผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นแพทย์ได้ลงความเห็นสาเหตุการเสียชีวิตของ ด.ช.วรกิตต์ ว่า “บาดเจ็บที่ทรวงอกและช่องท้อง” ส่วนทางตำรวจได้ทำการตรวจสอบและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุไว้แล้ว พร้อมทั้งทำการสอบปากคำพ่อเลี้ยงและแม่ของเด็กไว้ด้วยเช่นกัน แต่ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหากับทั้ง 2 คน เพราะยังไม่มีพยานหลักฐานว่ามีการทำร้ายร่างกาย แต่อาจจะเข้าข่าย “กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ถ้าหากมีญาติมาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี