
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมสภา กทม. สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สาม (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2566 เมื่อวันที่ 5 ก.ค.66 นายจิรเสกข์ วัฒนมงคล ส.ก.เขตธนบุรี ได้ยื่นกระทู้ถามสด เรื่อง ขอทราบการดำเนินการโครงการก่อสร้างทางลอดรัชดา-ราชพฤกษ์ กรณีผลงานไม่แล้วเสร็จตามสัญญา“โครงการนี้กำหนดระยะเวลาก่อสร้าง 900 วัน ตั้งแต่ปี 61 ขณะนี้ผ่านไปแล้ว 5 ปี โครงการแบ่งเป็น 2 สัญญา ในส่วนของการก่อสร้างอุโมงค์เสร็จแล้ว แต่สัญญาที่ 2 ส่วนของไฟฟ้าและประปาดำเนินการฝังท่อใต้ดิน ยังไม่แล้วเสร็จ ในขณะที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามเร่งรัดบ่อยครั้ง จึงขอสอบถามเรื่องค่าปรับและแนวทางโอนย้ายไฟฟ้า ประปามาอยู่ในความดูแลของ กทม. ตาม พ.ร.บ.กระจายอำนาจท้องถิ่น” ส.ก.จิรเสกข์กล่าวนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ชี้แจงว่า โครงการนี้ถือเป็นบทเรียนในเรื่องของการ ประสานงาน ประชาชนเดือดร้อนมานาน กทม.โดยสำนักการโยธาจะดำเนินปรับผู้รับเหมาตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย.66 จำนวนเงิน 2.3 ล้านบาทต่อวัน ตามสัญญาจ้าง ซึ่งสำนักการโยธาได้มีหนังสือแจ้งบริษัทผู้รับเหมาไปแล้ว และได้ย้ำให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัดโดยเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ในส่วนเรื่องของการกระจายอำนาจ กทม.ได้ใช้การดำเนินการในแง่การเชื่อมโยงการประสานงาน โดยปรับปรุงให้ดีขึ้น เช่น การประสานผ่านดิจิทัลระบบ Traffy Fondue และได้หารือผ่านผู้ว่าการการไฟฟ้าฯ และการประปาฯมาโดยตลอด โครงการนี้ปัญหาสำคัญคือการประสานงานที่หละหลวม ส่วนประเด็นการกระจายอำนาจเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องหารือกันอีกครั้งหนึ่ง.