อังคารที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นวันที่ทั่วโลกมีสภาพอากาศร้อนที่สุดเท่าที่เคยบันทึกสถิติมา ขณะที่คลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมหลายพื้นที่ของโลก ท่ามกลางปัญหาผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2566 ศูนย์คาดการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมแห่งชาติของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จากการตรวจวัดและเก็บสถิติอุณหภูมิ อ้างอิงจากอุปกรณ์รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลสภาพภูมิอากาศโลก ของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเมน ในสหรัฐฯ พบว่า เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นอีกวันที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 17.18 องศาเซลเซียส ทำลายสถิติตัวเลข 16.92 องศาเซลเซียสที่เคยเก็บสถิติเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2559 หลังจากเพิ่งทำลายสถิตินี้ไปเมื่อ 1 วันก่อนหน้าโดยอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ยังสูงที่สุดเป็นสถิติใหม่นับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลเมื่อปี ค.ศ.1979 หรือเป็นวันที่ร้อนที่สุดในรอบอย่างน้อย 44 ปี และถือเป็นกรณีล่าสุดของผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศโลกซาราห์ แคพนิก หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของสำนักงานสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวว่า แม้ตัวเลขนี้จะยังไม่ใช่ตัวเลขอย่างเป็นทางการ แต่ก็ช่วยชี้ให้เห็นว่าเราอยู่ตรงจุดไหน และแม้ข้อมูลนี้จะย้อนกลับไปถึงแค่ปี 1979 แต่เมื่อพิจารณาปัจจัยและข้อมูลอื่นๆ ประกอบ ก็ดูเหมือนว่าวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา อาจเป็นวันที่ร้อนที่สุดในรอบหลายร้อยปีทั้งนี้อุณหภูมิในหลายประเทศเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นสถิติใหม่ในสัปดาห์นี้ รวมทั้งที่มณฑลควิเบค แคนาดา และที่เปรู ขณะที่กรุงปักกิ่งของจีนมีอุณหภูมิสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส 9 วันติดต่อกัน ขณะที่หลายเมืองในสหรัฐฯ มีคำเตือนระวังอากาศร้อนจัด รวมทั้งที่รัฐโอเรกอน แคลิฟอร์เนีย นิวเม็กซิโก เทกซัส และฟลอริดา.