วันศุกร์, 8 ธันวาคม 2566

“ธนกร” เหน็บ เลือกนายกฯ ครั้งแรกเสียงไม่ถึง ไม่ควรดันทุรังเสนอซ้ำ

“ธนกร” เผย “บิ๊กตู่” งดพูดการเมืองหวังเปิดทางสภาเลือกนายกฯ ได้รัฐบาลใหม่โดยเร็ว เพื่อลดอุณหภูมิความขัดแย้ง ชี้ “พิธา-ก้าวไกล” ควรใช้เวลาสภาคุ้มค่าโหวตครั้งเดียวพอ เหน็บ เลือกนายกฯ ไม่ใช่ หัวหน้าชั้นเรียนวันที่ 7 ก.ค. 2566 นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลในช่วงนี้ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่ตอบประเด็นคำถามทางการเมือง เนื่องจากต้องการเปิดให้เป็นช่วงที่พรรคการเมืองเตรียมจัดตั้งรัฐบาลดำเนินการตามขั้นตอนของสภาผู้แทนราษฎร เมื่อได้ประธานและรองประธานสภาแล้ว และเข้าสู่ขั้นตอนรอนัดประชุมเพื่อเลือกนายกฯ เพื่อลดอุณหภูมิความขัดแย้งทางการเมือง ทำหน้าที่รัฐบาลรักษาการให้ดีที่สุด และเตรียมส่งมอบให้ตำแหน่งให้รัฐบาลชุดใหม่เมื่อถามว่า ล่าสุดนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่ 2 ออกมาระบุว่าจะให้เวลาการโหวตเลือกนายกฯ ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถึง 3 ครั้งนั้น นายธนกร กล่าวว่า ถ้าตามที่นายพิเชษฐ์ บอกว่าวันที่ 13 ก.ค. จะเป็นการนัดเลือกนายกฯ นัดแรก ก็ถือว่ามีเวลามากถึง 7 วัน และที่ผ่านมากว่า 1 เดือน ก็คิดว่าเพียงพอสำหรับการเจรจาขอคะแนนสนับสนุนจากทั้งส.ส. และ ส.ว. ส่วนตัวจึงมองว่า การโหวตครั้งเดียวก็พอที่จะเห็นทิศทางการเมืองแล้ว ว่าจะเป็นอย่างไร หากคะแนนของทั้ง 2 สภาโหวตให้นายพิธา ไม่ถึง 376 เสียง ครั้งที่ 2 ควรจะให้ที่เป็นลำดับที่ 2 เสนอชื่อต่อไป ไม่ใช่เสนอชื่อคนเดิม 2-3 ครั้ง มันไม่ใช่เลือก หัวหน้าชั้นเรียนเพราะขนาดเลือกหัวหน้าชั้นเรียนยังเลือกแค่ครั้งเดียว ยกเว้นคะแนนเท่ากัน หากจะเสนอชื่อนายพิธาอีกเป็นครั้งที่ 2 ก็ต้องมีองค์ประกอบหรือมีเงื่อนไขใหม่เพิ่มให้สภาพิจารณา หากไม่มีอะไรใหม่ ตนคิดว่า ให้โอกาสครั้งเดียวก็พอ เพื่อไม่ให้เสียเวลาสภา “ถ้าครั้งแรกเสียงไม่ถึง ก็ไม่ควรดันทุรังดึงดันเสนอซ้ำเป็นครั้งที่ 2-3 อีก เพราะเวลาการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะยิ่งถูกดึงเวลาให้ยาวออกไป ก็จะส่งผลกระทบต่อการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ และกฎหมายสำคัญอีกหลายฉบับล่าช้าออกไปด้วย จึงเรียกร้องให้นายพิธา และพรรคก้าวไกลเร่งใช้เวลาที่มีอยู่ 7 วันก่อนที่จะโหวตนายกฯ ครั้งนี้ ขอการสนับสนุนให้มากที่สุดเพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้ได้อย่างรวดเร็ว ก็ขอเป็นกำลังใจให้ แต่ประเด็นแก้ไขยกเลิกมาตรา112 ก็อาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ ส.ว. ต้องพิจารณาทบทวน”เมื่อถามว่าแน่ชัดแล้วหรือไม่ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ จะไม่มีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคแข่งนายพิธา นายธนกร ยืนยันว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ มี 36 เสียง แม้ตามรัฐธรรมนูญทุกพรรคที่มีเสียง ส.ส. 25 เสียงสามารถเสนอชื่อได้ก็ตาม แต่ขอให้เป็นไปตามลำดับขึ้นตอนของสภาและรอดูมติพรรคที่จะหารือทิศทางกันอีกครั้งคาดว่าเย็นวันอังคารที่ 11 ก.ค.นี้ ซึ่งในเบื้องต้นนายเอกนัฏ พร้อมพันธ์ เลขาธิการพรรคฯ ก็ยืนยันชัดเจนว่าไม่ส่งนายพีระพันธุ์ หัวหน้าพรรคลงแข่ง“ผมอยากฝากถึงบางพรรค การเมือง ขอให้เลิกใช้วาทกรรมฝ่ายประชาธิปไตย ฝ่ายเผด็จการได้แล้ว เพราะเราผ่านการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยมาไม่ควรใช้วาทกรรมโจมตีพรรคอื่น ไหนบอกจะทำการเมืองแบบใหม่ แต่ก็ยังสาละวนกับวงจรเดิมๆ อยู่” นายธนกร ระบุ