วันพุธ, 6 ธันวาคม 2566

ปัดสูตรรัฐบาลแห่งชาติ ยัน เพื่อไทย-ก้าวไกล จับมือแล้วต้องเดินกันต่อ

“ประเสริฐ” เผย เพื่อไทยช่วยคุยส.ว.แต่ ก้าวไกลต้องแก้เกมเอง รับ ไม่มีแผนสำรอง หากโหวตไม่ผ่าน ยัน พท.ไร้งูเห่า ลั่น จับมือแล้วต้องเดินกันต่อ ปัดสูตรรัฐบาลแห่งชาติวันที่ 7 ก.ค. 2566 ที่รัฐสภา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ กรณีความกังวลต่อท่าทีของส.ว. ว่า เท่าที่ฟังมีแค่ส.ว.บางส่วนที่แสดงความคิดเห็น เข้าใจว่าส.ว.ส่วนมากยังสงวนท่าที คิดว่าการตัดสินใจของส.ว. จะตรงกับความต้องการของประชาชน เมื่อถามต่อว่า จะมีการพูดคุยกับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในเงื่อนไขมาตรา 112 ของส.ว.เพื่อปิดข้ออ้าง และผลักดันให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่พรรคก้าวไกลต้องพิจารณาเรื่องนี้ ส่วนในนามพรรคร่วม 8 พรรค เคยมีการพูดคุยเรื่องนี้มาก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้น เรื่องนี้จึงมีความชัดเจนระหว่าง 8 พรรคร่วม ส่วนกรณีนายกฯ เป็นเรื่องที่พรรคก้าวไกลต้องไปปรับกลยุทธ์เพื่อประโยชน์ในการเลือกนายกฯ เมื่อถามย้ำว่า ท่าทีของส.ว. ชัดเจนเรื่องมาตรา 112 ทำให้การคาดการณ์ว่านายพิธาจะไม่ได้รับเรื่องในรอบแรก นายประเสริฐ กล่าวว่า หากฟังจากแกนนำพรรคก้าวไกลจะเห็นชัดเจนว่า เขามั่นใจว่าจะผ่าน พรรคก้าวไกลให้ความมั่นใจมาโดยตลอด ว่าส.ว.จะสนับสนุน ก็ขอให้ดูการโหวตก่อน ส่วนพรรคเพื่อไทยเองก็ช่วยประสานส.ว. เยอะอยู่ ในช่วง 2-3 วันนี้ต้องทำการบ้านอย่างหนัก เพราะเหลือเวลาไม่ถึงสัปดาห์ ก็จะเลือกนายกฯ แล้ว แต่ตัวหลักเป็นของพรรคก้าวไกลเอง ฉะนั้น แกนนำทั้ง 8 พรรค หากใครรู้จักส.ว.ท่านใด ก็พยายามทำความเข้าใจอยู่ แต่ส่วนใหญ่คือ พรรคก้าวไกลต้องเดินเป็นหลัก  อยากให้ทุกฝ่าย สร้างบรรยากาศในการเลือกนายกฯ ไม่ว่าจะฝั่งส.ส.หรือส.ว. หรือแม้แต่ประชาชน ขอให้คำนึงถึงผลประโยชน์ที่ประเทศชาติ และประชาชนจะได้รับเป็นหลักในการพิจารณา      ผู้สื่อข่าวถามว่า 8 พรรคร่วมรัฐบาลมีแผนสำรองหรือไม่ หากการโหวตรอบแรก นายพิธาไม่ได้รับเลือก หรือกรณีที่มีการเสนอชื่อแข่งแล้ว ส.ว.สนับสนุนอีกฝ่าย นายประเสริฐ กล่าวว่า เราไม่มีแผนสำรอง หากในรอบแรกไม่ผ่านคงต้องมีการกลับมาคุยกันอีกครั้ง ส่วนกรณีที่มีข้อกังวลว่าอาจจะมีพรรคที่เคยเป็นขั้วเก่าของรัฐบาลเสนอคนแข่งนั้น หากฟังจากการให้สัมภาษณ์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคภูมิใจไทย จะเห็นชัดเจนว่า ไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งเรื่องนี้ก็เบาใจได้ระดับหนึ่ง แต่การเมืองก็เกิดอะไรขึ้นได้ จึงเป็นเรื่องที่แกนนำทั้ง 8 พรรคร่วมต้องประเมินสถานการณ์ให้ดี ส่วนกระแสงูเห่า ตนยังไม่ทราบ แต่ขอยืนยันว่าในส่วนของพรรคเพื่อไทยไม่มี เพราะเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ในอดีตที่ผ่านมาใครเป็นงูเห่า เลือกตั้งแต่ละครั้งสอบตกหมด ซึ่งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยคัดเลือกสมาชิกที่มีอุดมการณ์ที่แน่วแน่ จึงมั่นใจว่างูเห่าจะไม่เกิดขึ้น และในวันโหวตนายกฯ เราจะมีการกำชับไปยังส.ส.แต่ละท่าน รวมถึงวิธีการโหวตก็เป็นในทางที่เปิดเผยไม่ได้เป็นในทางลับ จึงเชื่อว่างูเห่าจะไม่กล้า หากใครทำเท่ากับฆ่าตัวเอง    เมื่อถามย้ำว่า หากโหวตเลือกนายกฯ 2-3 ครั้งแล้ว นายพิธายังไม่ผ่าน จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หรือจะสนับสนุนนายพิธาไปเรื่อยๆ นายประเสริฐ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ 8 พรรคต้องกลับมาคุยกันเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ใหม่ ตนคิดว่าเป็นเรื่องจำเป็นไหนๆ ก็เดินทางมาด้วยกันแล้ว ไม่ว่าจะโหวตกี่ครั้งก็ต้องกลับมาคุยกันก่อน ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยมีแคนดิเดตนายกฯ 3 คน จะมีการสะกิดพรรคก้าวไกลหรือไม่ เพื่อจะได้มีนายกฯ ที่มาจากพรรคฝ่ายประชาธิปไตย นายประเสริฐ กล่าวว่า เรายังไม่ได้มีการคุยกันในประเด็นนี้ และไม่ได้มีการเตรียมแผนสำรองแต่อย่างใด ให้รอดูหน้างานตามขั้นตอน ว่า 8 พรรคร่วมจะมีความคิดเห็นร่วมกันอย่างไรในการเดินหน้า เมื่อถามอีกว่า หากเลือกใครเป็นนายกฯ ไม่ได้ อาจนำไปสู่การตั้งรัฐบาลแห่งชาติหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า คงไม่เดินทางไปถึงจุดนั้น เชื่อว่าสุดท้ายแล้วประเทศมีทางออก การเป็นรัฐบาลแห่งชาติ หากไม่มีฝ่ายค้านก็ไม่มีอำนาจถ่วงดุล ซึ่งไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย จึงเชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาจะใช้ดุลพินิจในการตัดสินเรื่องนี้ได้ และคงไม่เกิดรัฐบาลแห่งชาติขึ้น