
“พิธา” ร่วมฟังเสวนานายกทอล์ก ยก “อุทัย พิมพ์ใจชน-วันนอร์” เป็นนักการเมืองในดวงใจ ขอผู้นำมองบวก เชิญ Taylor Swift เล่นคอนเสิร์ตในไทย สร้างห่วงโซ่เศรษฐกิจ เลี่ยงตอบประเด็นการเมือง หลังถูกถามปม ส.ว.โหวตนายกเมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 7 กรกฎาคม 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมฟังการเสวนา ที่โซลบาร์ พรรคก้าวไกล ในชื่อกิจกรรม นายกทอล์ก โดยมี รองศาสตราจารย์ดำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ มาพูดคุยในหัวข้อ “ทุกที่สุดแห่งนายกไทยก่อนจะไปโหวตเลือกพิธาเป็นนายก”ทั้งนี้ ในช่วงท้ายของการเสวนา นายพิธา เข้ามาร่วมรับฟัง โดยเมื่อมาถึงแฟนคลับที่มารอฟังอยู่ก่อนต่างให้ความสนใจ ส่งเสียงต้อนรับ จากนั้น นายพิธา ไปนั่งอยู่แถวหน้าเพื่อฟังช่วงสุดท้าย ก่อนจะถูกเชิญให้กล่าว โดยนายพิธา ทักทายว่า รู้สึกดีใจที่เห็นทุกคนมาอยู่ร่วมกันที่พรรคก้าวไกลแห่งนี้ กิจกรรมลักษณะนี้เป็นความตั้งใจของพรรคก้าวไกลที่อยากจะเป็นพรรคการเมืองที่มีส่วนร่วมของประชาชนจำนวนมาก จึงเป็นการพูดคุยแบบเป็นกันเองและธรรมชาติที่สุด มีการกินดื่มแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ถือเป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลง และตั้งใจจะให้มีบรรยากาศลักษณะนี้เปลี่ยนไปเรื่อยๆขณะเดียวกัน นายพิธา ยังได้พูดถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้ได้เชิญชวนศิลปิน เทเลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ให้มาเล่นคอนเสิร์ตในประเทศไทย ซึ่งไม่ควรมองถึงแค่เป็นอุตสาหกรรมเอนเตอร์เทนเมนต์ หรือแค่นักดนตรีคนหนึ่ง แต่สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และห่วงโซ่มูลค่าทางเศรษฐกิจ ที่ลงลึกไปถึงโรงแรม และพื้นที่รอบๆ ที่จัดคอนเสิร์ต ซึ่งผู้นำจะต้องมีวิธีคิดแบบนี้อยู่ด้วย มากกว่าการบริหารแค่ Heart Power แต่ต้องมี Soft Power ไปในตัวด้วยนอกจากนี้ นายพิธา ยังได้พูดถึง อาจารย์ทนงศักดิ์ ผู้ที่มาเสวนาในวันนี้ด้วยว่า ตนเองเป็น ส.ส. และนักการเมืองที่ดีขึ้น เพราะอาจารย์ทนงศักดิ์ ได้เจอกับอาจารย์ครั้งแรกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ตอนที่มาอบรม ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งตอนนั้นแทบจะไม่เคยเป็น ส.ส.มาก่อน ขณะนั้นจากการได้ฟังทำให้รู้สึกว่าประวัติศาสตร์เป็นเรื่องสำคัญ และการเรียนรู้ประวัติศาสตร์กลายเป็นเรื่องสนุกได้ รู้สึกประทับใจอาจารย์มาตั้งแต่ตอนนั้น และได้อ่านวิทยานิพนธ์ของอาจารย์ที่เขียนถึงปี 2475 มีการวิเคราะห์ผู้นำหลายคน ทำให้ตนเองสนใจในเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์มากขึ้น โดยเฉพาะของการเมืองไทย และทำให้ตนได้เจอนักการเมืองที่มาอบรมอีก 2-3 คน คือ นายอุทัย พิมพ์ใจชน ในขณะนั้นมีแต่คนอายุน้อย ซึ่ง นายอุทัย บอกว่า เขาเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรที่อายุน้อยกว่าพวกตนเอง จึงทำให้รู้สึกว่า นายอุทัย เป็นตัวอย่างของประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่เป็นรัฐมนตรีหลายครั้ง และเป็น 1 ใน 3 ส.ส. ที่ฟ้องศาลอาญา ต่อต้านรัฐประหาร ซึ่งทำให้ตนรู้ว่าสิ่งที่เผชิญเป็นสิ่งที่เคยมีมาในอดีต ส่วนนักการเมืองอีกคนที่ตนให้การนับถือคือ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ซึ่งได้ติดตามท่านตั้งแต่ปี 2522 ตั้งแต่อยู่พรรคกิจสังคม พรรคประชาธิปัตย์ พรรคความหวังใหม่ และพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็น 2 ผู้นำที่ตนได้มีโอกาสติดตาม และเมื่อได้ฟังอาจารย์ทนงศักดิ์ พูดถึง จึงได้เริ่มศึกษาและเริ่มมีความรู้สึกกับนักการเมืองใหม่ๆ ที่ทำให้เรารู้สึกมีกำลังใจในการทำงาน ส่วนนักการเมืองระดับโลกที่ตนชอบ มี 2 คน คือ José ‘Pepe’ Mujica (โฮเซ่ อัลเบอร์โต้ เปเป้ มูฮีก้า คอร์ดาโน) ประธานาธิบดีอุรุกวัย ซึ่งเป็นผู้นำที่มาจากชนชั้นเกษตรกร และต่อสู้ตั้งแต่สมัยที่ตนยังไม่เกิด และคนที่ 2 คือ อาร์เดย์ จอห์นสัน ประธานาธิบดีไนจีเรีย ซึ่งเป็นรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยที่สหรัฐอเมริกา เป็นคนที่ต่อสู้กับระบบเศรษฐกิจ และการแก้ไขปัญหาหนี้มาเยอะพอสมควร ซึ่งทั้งหมดข้างต้นที่กล่าวมา เป็นสิ่งที่ตนได้นั่งพูดคุยกับอาจารย์เมื่อ 4 ปีที่แล้ว และได้กลับมาเจอกันอีกครั้งตนต้องขอขอบคุณอาจารย์ จากนั้นพิธีกรได้สอบถามคนที่มาร่วมรับฟังการเสวนาว่านายกรัฐมนตรีคนต่อไปชื่ออะไร ซึ่งผู้ที่มารับฟังการเสวนาก็พร้อมใจกันตะโกนคำว่า “พิธา พิธา พิธา” ซึ่งหลังจาก นายพิธา ได้ร่วมพบปะแฟนคลับและถ่ายรูปร่วมกับแฟนคลับเสร็จสิ้น นักข่าวพยายามจะถาม นายพิธา ถึงประเด็นการรวมเสียง ส.ว. ในการโหวต นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า มีอะไรจะฝากถึง ส.ว. ก่อน โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีวันที่ 13 กรกฎาคมนี้หรือไม่ ซึ่งนายพิธา เลี่ยงที่จะตอบคำถาม ก่อนจะเดินออกจากห้องเสวนา ในโซนของโซลบาร์เพื่อกลับออกไปจากพรรค.