วันอาทิตย์, 3 ธันวาคม 2566

“ศิริกัญญา” มองเป็นสิทธิ “ศรีสุวรรณ” ร้อง ป.ป.ช. บอก “พิธา-หมออ๋อง” เป็นพยานได้

“ศรีสุวรรณ” ร้อง ป.ป.ช. สอบ “ศิริกัญญา” กรณีปฏิญาณตนในสภาฯ เจ้าตัวบอก “พิธา-ปดิพัทธ์” เป็นพยานให้ได้ ยัน พูดตามจนครบแล้ว ลั่น ยินดีให้ตรวจสอบวันที่ 7 กรกฎาคม 2566 นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นคำร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ตรวจสอบ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ว่า กล่าวคำปฏิญาณตนครบในเนื้อหาที่เป็นสาระสำคัญตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดหรือไม่สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2566 ในขณะที่ประธานในที่ประชุมได้แจ้งให้ ส.ส.ทุกคนปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ ตาม มาตรา 115 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 ซึ่งมีการถ่ายทอดสดผ่านสื่อโทรทัศน์และหรือระบบสารสนเทศต่างๆ โดยกล้องได้ซูมภาพไปยัง น.ส.ศิริกัญญา และสมาชิกสภาผู้แทนรายอื่นๆ แต่ปรากฏว่า น.ส.ศิริกัญญา ไม่ได้แสดงกิริยาว่าได้เอ่ยปากปฏิญาณตามถ้อยคำที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ แต่หันไปแสยะยิ้มกับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เท่านั้นนายศรีสุวรรณ ระบุต่อไปว่า กรณีเยี่ยงนี้หากเป็นจริงจะถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างมาก เนื่องจากการปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติไว้ให้ ส.ส. และ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ต้องปฏิญาณตนในที่ประชุมแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิกด้วยถ้อยคําตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ทุกถ้อยคำ จะขาดจะเกินไปเพียงถ้อยคำหนึ่งถ้อยคำใดมิได้ เพราะเป็นสาระสำคัญที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดังกล่าวทุกคนต้องปฏิบัติโดยเคร่งครัด หากละเลย เพิกเฉย หรือทำเป็นเล่นๆ ก็อาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดได้“ด้วยเหตุดังกล่าว องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงนำความพร้อมคลิปวิดีโอมามอบให้ ป.ป.ช. เพื่อตรวจสอบและพิสูจน์ให้ชัดเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ อย่างไร หากพิสูจน์แล้วเป็นไปตามข้อเท็จจริงให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่จนถึงที่สุดต่อไป”tt ttศรีสุวรรณ จรรยาtt ttศิริกัญญา ตันสกุล“ศิริกัญญา” ยัน ปฏิญาณตนครบถ้วนสมบูรณ์แล้วทางด้าน น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เป็นสิทธิของ นายศรีสุวรรณ พร้อมชี้แจงว่า การที่ ส.ส. จะปฏิญาณตน คือประธานจะเป็นผู้กล่าวนำและให้ ส.ส.พูดตามทีละวรรค ตนยอมรับว่าตกใจ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ผิดคิว เพราะในช่วงที่มีการกล่าวคำปฏิญาณ เจ้าหน้าที่ยกมือส่งสัญญาณให้หยุดรอ เมื่อตนเห็นจึงหันไป นายพิธา เพื่อจะบอกว่ารอให้ประธานพูดก่อนแล้วค่อยพูดตาม แต่ในขณะนั้น ส.ส. ในที่ประชุมได้กล่าวกันไปแล้ว ทำให้ต้องพูดตามไปเรื่อยๆ จนจบ และได้พูดทวนอีกครั้งให้ครบ ถือว่าได้ปฏิญาณตนครบถ้วนสมบูรณ์ พร้อมแสดงความเห็นว่า หาก ป.ป.ช. ต้องตรวจสอบการกล่าวปฏิญาณตน ส.ส. ทั้ง 498 คน เป็นเรื่องที่ยากลำบาก เนื่องจากกล้องไม่ได้จับที่หน้าทุกคนทั้งนี้ น.ส.ศิริกัญญา มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาภายหลังจากคำร้องดังกล่าว เนื่องจากสามารถอธิบายได้และมีพยานที่ได้อยู่ในเหตุการณ์ รับทราบว่าตนเองได้กล่าวคำปฏิญาณครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว โดยข้างซ้ายมี นายพิธา และข้างขวาเป็น นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ว่าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 (ในขณะนั้น)“เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยมาก และเห็นใจ ป.ป.ช. ที่ต้องมาตรวจสอบเรื่องนี้ ยินดีให้ตรวจสอบ และเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อพรรคก้าวไกล วันนี้ได้เสนอตัวมาเป็นฝ่ายบริหาร การตรวจสอบย่อมเข้มข้นกว่าตอนที่เป็นฝ่ายค้าน จึงไม่ได้กังวลใจ คิดว่าจะเป็นไปตามกระบวนการ ขณะเดียวกันก็ต้องปรับตัวที่ต้องถูกตรวจสอบทุกอิริยาบถท่าทางที่แสดงออกไป”