




“วันนอร์” หารือสองรองประธานสภาฯ วางกรอบโหวต เลือกนายกฯให้ลุ้น 3 ครั้ง วันที่ 13, 19 และ 20 ก.ค. ยันเสนอชื่อ “พิธา” โหวตซ้ำได้ “พิเชษฐ์” เผยถ้า 3 ยกไม่ได้นายกฯ 8 พรรคร่วมฯต้องถกร่วมหาทางออก ก๊วน ส.ว.ตั้งแง่สกัด อ้างบรรทัดฐานเกณฑ์โหวตเลือกองค์กรอิสระ สอบตกรอบแรกหมดสิทธิลุ้นรอบสอง ดันวิป 3 ฝ่ายตัดสิน “กิตติศักดิ์” หยันแต้มไม่เฉียด 376 เสียง อย่าดันทุรังไปต่อ 20 ส.ว. กลับลำเหลือไม่ถึง 10 คนหนุน “ทิม” “ทรงเดช” ระบุดื้อแก้ ม.112 เลิกสนับสนุน “ประภาศรี” ยืนกรานยกมือให้ ก.ก. ยังฝัน ส.ว.จะเคารพเสียงประชาชน “เศรษฐา” มั่นใจ พท.ไม่มีแตกแถว ยังไม่คิดเป็นนายกฯไม้สอง ย้ำ 2 พรรคตัวติดกันจับมือแน่น “นายกฯ” ทูลเกล้าฯแล้วประธานและรองประธานสภาฯ “ขิง” ยัน รทสช.ไม่ส่ง “ตุ๋ย” ชิงนายกฯ ปัดไม่คิดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย “ชวน” สอนคน ปชป.มีแค่ 25 เสียงต้องเจียมตัว เตือนอันตรายล่มหัวจมท้ายกับพรรคยึดมั่นคนโกงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ว่าที่ประธานสภาฯ หารือกับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ว่าที่รองประธานสภาฯ คนที่ 1 และนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ว่าที่รองประธานสภาฯ คนที่ 2 พร้อมผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาฯ วางกรอบการโหวตเลือกนายกฯ โดยจะเปิดให้โหวต 3 ครั้ง ครั้งแรกในวันที่ 13 ก.ค. ครั้งที่ 2 วันที่ 19 ก.ค. และครั้งที่ 3 ในวันที่ 20 ก.ค.“พิเชษฐ์”เผยให้ 3 ครั้งลุ้นเลือกนายกฯเมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่รัฐสภา นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะว่าที่รองประธานสภาฯคนที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 ก.ค.ว่า ในการเลือกนายกรัฐมนตรีวันที่ 13 ก.ค. ถ้ายังไม่ได้นายกฯจะให้เลือกรอบ 2 วันที่ 19 ก.ค. และรอบ 3 วันที่ 20 ก.ค. คาดว่า 3 วันนี้น่าจะเพียงพอได้นายกฯแล้ว ถ้ายังไม่ได้จะคุยกันใหม่ แต่จะเปิดโอกาสให้ 3 ครั้งก่อน เพราะการเรียกประชุมบ่อยๆ ใช้สมาชิก 750 คนค่อนข้างลำบาก เวลา 3 วันเยอะแล้ว อยากให้ได้ภายใน 3 วันนี้ หากกำหนด 3 ครั้งแรกแล้วยังไม่ได้ตัวนายกฯ ขึ้นอยู่กับที่ประชุมรัฐสภา และที่ประชุม 8 พรรคที่ต้องทำตามเอ็มโอยู จะต้องพูดคุยกันเป็นการภายใน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนจำนวน ส.ว.ที่จะสนับสนุนโหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นนายกฯ ไม่ทราบแน่ชัดมีเท่าใด แต่เท่าที่พูดคุยกับ ส.ว. มีเจตนาดีต้องการให้การจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ประเทศเดินหน้าได้tt ttจ่อเปิดโหวตรอบสอง 19 ก.ค.เมื่อเวลา 15.00 น. ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ว่าที่ประธานสภาฯเรียกหารือกับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ว่าที่รองประธานสภาฯ คนที่ 1 และนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรค พท. ว่าที่รองประธานสภาฯ คนที่ 2 พร้อมผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาฯ เพื่อหารือเบื้องต้นถึงแนวทางการประชุมรัฐสภาวันที่ 13 ก.ค.เพื่อโหวตนายกฯ หลังการประชุมกว่า 1.30 ชั่วโมง นายวันมูหะมัดนอร์ให้สัมภาษณ์ถึงการโหวตนายกฯในวันที่ 13 ก.ค.ว่า รัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดว่าจะให้โหวตเลือกนายกฯกี่ครั้ง หากการโหวตครั้งแรกได้ถือว่าจบ แต่ถ้าไม่ครบ 376 เสียง ต้องดูหน้างานก่อน จะเชิญฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาหารือกันจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ขณะนี้ประชาชนรอรัฐบาลใหม่ จึงต้องทำให้เกิดความสมดุลและเหมาะสม ส่วนที่นายพิเชษฐ์ระบุว่าหากโหวตครั้งแรกไม่ผ่านจะนัดโหวตครั้งต่อไป วันที่ 19 ก.ค.นั้นถือว่าเหมาะสม เลขาธิการสภาฯจะได้มีเวลาทำหนังสือแจ้งสมาชิกเชิญประชุมได้ แต่คงต้องดูหน้างานประกอบด้วย แต่ปกติแล้วการประชุมสภาฯจะเป็นวันพุธและวันพฤหัสฯ หากจะประชุมอีกครั้ง วันพุธที่ 19 ก.ค.เหมาะสมดี ทุกฝ่ายพร้อม ปรึกษานายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภาแล้วเห็นด้วยยืนยันเสนอชื่อ“พิธา”โหวตซ้ำได้นายวันนอร์กล่าวว่า หากการโหวตนายกฯวันที่ 19 ก.ค.ยังไม่ผ่านอีก จะโหวตครั้งต่อไปเมื่อใด ต้องดูหน้างานก่อน แต่ที่มีการเว้นช่วงไว้ 7 วัน เพื่อต้องการให้สมาชิกมาประชุมได้พร้อมหน้า ถ้าเป็นวันพุธเชื่อว่าทุกฝ่ายจะพร้อมที่สุด เพราะ ส.ส.ประชุมทุกวันพุธและพฤหัสฯ ส่วน ส.ว.ประชุมทุกวันจันทร์ อังคารและ ครม.ไม่ได้ประชุม ดังนั้นวันพุธน่าจะเป็นวันที่ทุกฝ่ายพร้อมที่สุด เมื่อถามว่า ส.ว.อยากให้เว้นระยะเวลาการประชุมรัฐสภาโหวต นายกฯไว้ 14 วัน นายวันนอร์ตอบว่า ไม่มีปัญหา ขึ้นอยู่กับหน้างานและความเหมาะสม ส่วนตัวอยากให้เกิดความเรียบร้อย และความพร้อมให้มากที่สุด ถ้าเป็นวันพุธจะพร้อมเพรียงที่สุดทั้ง ส.ส.และ ส.ว.ไม่ติดอะไร อยากให้เกิดความเรียบร้อยและมีความพร้อมมากที่สุด เพราะเป็นวาระสำคัญเลือกผู้นำประเทศ ต้องมีความพร้อมและโปร่งใสมากที่สุด เมื่อถามว่าจะให้โหวตชื่อนายพิธาได้มากสุดกี่ครั้ง นายวันนอร์ตอบว่า ไม่สามารถบอกได้เพราะอาจผ่านตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค.หรืออาจผ่านวันที่ 19 ก.ค.ก็ได้ กฎหมายไม่ได้บังคับว่าหากโหวตชื่อนายพิธาไม่ผ่านในครั้งแรกจะไม่สามารถเสนอชื่อโหวตในครั้งที่ 2 ได้ ยืนยันสามารถเสนอชื่อนายพิธาซ้ำได้อีก เพียงแต่อาจจะมีการเสนอชื่อบุคคลอื่นมากกว่า 1 ชื่อก็ได้ทำพิธีรับพระบรมราชโองการฯวันเดียวกัน สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้แจ้งข่าวผ่านระบบไลน์มายังสื่อมวลชนว่า หลังจากที่ประชุมสภาฯ มีมติเลือกนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาฯ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 2 จึงขอเชิญสื่อมวลชน ร่วมทำข่าวพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 7 ก.ค.2566 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุม 604 ชั้น 6 (โซน N) อาคารรัฐสภาส.ว.ตั้งแง่สกัดชื่อ “พิธา” โหวตรอบ 2ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ในการประชุมคณะกรรมาธิการกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ได้หารือถึงการประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตนายกฯ ในวันที่ 13 ก.ค.มี ส.ว.บางคนหยิบยกประเด็นการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก.เป็นนายกฯว่า หากไม่ได้รับเสียงเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาครบ 376 เสียง จะเสนอชื่อนายพิธากลับมาโหวตในรอบ 2 ได้หรือไม่ เทียบเคียงกับการพิจารณาคัดเลือกบุคคลมาดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญของวุฒิสภา ที่หากชื่อบุคคลใดไม่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประธานวุฒิสภาแล้ว จะไม่มีสิทธิได้รับการเสนอชื่อกลับมาพิจารณาใหม่ในรอบ 2 อีก รวมถึงหากจะเปิดประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตนายกฯมากกว่า 1 ครั้ง ต้องเว้นระยะห่างการประชุมกี่วัน เพราะ ส.ว.บางคนมองว่าอย่างน้อยต้องเว้นระยะห่าง 3 วัน ตามข้อบังคับการประชุมในการแจ้งระเบียบวาระให้สมาชิกทราบ ไม่สามารถประชุมต่อเนื่องกันได้ในวันรุ่งขึ้น ขณะที่บางคนเสนอให้เว้นระยะเวลาลงมติเลือกนายกฯห่างกัน 2 สัปดาห์ แต่ไม่สามารถหาข้อยุติได้ จึงมอบให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ไปหารือกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ หาข้อยุติในประเด็นที่ ส.ว.สงสัย รวมถึงให้นำไปหารือในที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายคือ ส.ว. ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและ ส.ส.ฝ่ายค้านต้นสัปดาห์หน้า เพื่อหาข้อยุติต่อไป“กิตติศักดิ์” ลั่นไม่ถึง 376 เสียงอย่าไปรอบ 2นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว.กล่าวว่า การประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กำหนดไว้เบื้องต้นในวันที่ 13 ก.ค.ว่า ถ้าหากปรากฏว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯและหัวหน้าพรรค ก.ก.ไม่ผ่านเกณฑ์ 376 เสียงจากทั้ง 2 สภาฯ ประธานรัฐสภาจะพิจารณาหารือสมาชิก ส.ส.และ ส.ว.ทั้งหลายว่าจะเอาอย่างไรกันต่อ จะพิจารณาจากผลคะแนนด้วยว่านายพิธาได้เท่าไหร่ ถ้าหากคะแนนขาด ได้น้อยกว่าเกณฑ์มาก การโหวตครั้งที่ 2 ไม่น่าจะเกิดขึ้นตามที่นายวันนอร์ให้สัมภาษณ์ แต่ถ้าคะแนนออกมาใกล้เคียงเกณฑ์ 376 คิดว่าประธานรัฐสภาอาจพิจารณาให้โหวตครั้งที่ 2 คราวต่อไป แต่น่าจะต้องใกล้มากหน่อย ประมาณระดับ 10 คะแนนบวกลบขอโทษ “อุ๊งอิ๊ง” พร้อมโหวตให้นายกิตติศักดิ์กล่าวอีกว่า หากสุดท้ายแล้วนายพิธาไม่ผ่านความเห็นชอบรัฐสภาและพรรคเพื่อไทย (พท.) เสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เข้าชิงตำแหน่งนายกฯ เพื่อให้บ้านเมืองไปต่อได้ ตนขอถอนคำพูดที่เคยตำหนิ น.ส.แพทองธารว่าไม่เหมาะสม ยังไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง เพราะเห็นว่าเวลานี้ต้องสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ตนไม่สามารถโหวตเลือกนายพิธา เป็นนายกฯได้ส.ว.ถอนอื้อเลิกโหวตหนุน “พิธา”ผู้สื่อข่าวรายงานว่าความเคลื่อนไหวของ ส.ว.ที่ก่อนหน้านี้มี ส.ว.ร่วม 20 คน ประกาศพร้อมจะสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก.เป็นนายกฯ ตามเสียงข้างมากที่ได้รับฉันทามติจากประชาชน แต่หลังจากที่พรรค ก.ก.ยังยืนยันมีนโยบายเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ต่อสภาฯ ทำให้เสียง ส.ว.หลายคนที่เคยระบุพร้อม สนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ เกิดความลังเลกลับลำไม่โหวตสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ ทำให้เหลือเสียง ส.ว.ที่พร้อมหนุนนายพิธาเหลือไม่ถึง 10 คน จนมีแนวโน้มค่อนข้างชัดเจนแล้วว่านายพิธาจะได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.และ ส.ว.ไม่ถึง 376 เสียงในการประชุมรัฐสภา วันที่ 13 ก.ค.เพื่อโหวตนายกฯคนที่ 30“ทรงเดช” ระบุดื้อรื้อ ม.112 เลิกสนับสนุนนายทรงเดช เสมอคำ ส.ว.กล่าวถึงกรณีเคยระบุพร้อมสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก.เป็นนายกฯ หากรวบรวมเสียงข้างมากของพรรคการเมืองได้เกิน 250 เสียงว่า เดิมเคยมีหลักการโหวตให้พรรคการเมืองที่รวบรวมเสียง ส.ส.ข้างมากได้เกิน 250 เสียงเป็นนายกฯ แต่ถ้านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. ยังมีจุดยืนแก้ไขมาตรา 112 ไม่สามารถโหวตให้เป็นนายกฯได้ เพราะมาตรา 112 แตะต้องไม่ได้ ไม่ว่าจะยกเลิกหรือแก้ไข ดังนั้นถ้าพรรค ก.ก.ยังมีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 จะไม่โหวตให้นายพิธาเป็นนายกฯ ต้องยกเลิกการแก้ไขมาตรา 112 เท่านั้นค่อยมาว่ากัน“ประภาศรี” ยืนกรานลงคะแนนให้นางประภาศรี สุฉันทบุตร ส.ว.กล่าวยืนยันว่า จากที่เคยโพสต์ข้อความว่าสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก.เป็นนายกฯ ขณะนี้ยังไม่เปลี่ยนแปลง ยังสนับสนุนนายพิธาเช่นเดิม เนื่องจากจะโหวตให้พรรคเสียงข้างมาก หากนายพิธาไม่ได้รับเลือกเป็นนายกฯ แล้วพรรคอันดับสองเสนอแคนดิเดตเป็นนายกฯจะเลือกนายกฯจากพรรคอันดับ 2 แต่หากยังไม่ได้รับเลือกอีก แล้วพรรคเสียงข้างน้อยเสนอตัวเป็นนายกฯ จะไม่เลือก เมื่อถามว่าแสดงว่า ไม่ติดใจเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรค ก.ก. นางประภาศรีตอบว่า เรื่องมาตรา 112 หรือเรื่องหุ้นไอทีวีเป็นเรื่องขององค์กรที่เกี่ยวข้องจะพิจารณา ส.ว.ไม่มีหน้าที่ไปตัดสินเรื่องเหล่านี้tt ttก.ก.ยังฝัน ส.ว.เคารพเสียงคนไทยที่พรรคก้าวไกล นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการรวมเสียง ส.ว.เพื่อสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีว่า ยังคงเดินหน้าพูดคุยกับ ส.ว. อยู่ตลอดเวลา ส่วนความกังวลที่ ส.ว.หลายคนอาจเปลี่ยนใจ และมีจำนวนเสียงไม่พอสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯนั้น ยังมั่นใจว่า ส.ว. จะเคารพเสียงประชาชนจากการเลือกตั้ง ผู้สื่อข่าวถามว่า นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ยืนยันจะไม่ส่งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติ ชิงตำแหน่งกับนายพิธาและไม่จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย นายพิจารณ์ตอบว่า “ก็ดีแล้วครับ”ชวน “เทย์เลอร์ สวิฟต์” มาโชว์ที่ไทยวันเดียวกัน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก.โควททวีตของเทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ศิลปินดังชาวอเมริกัน ที่กำลังจะมีเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ต Taylor Swift The Eras Tour เริ่มเดือน ส.ค.แต่ไม่มีไทยในรายชื่อทัวร์คอนเสิร์ต โดยสิงคโปร์เป็นที่เดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เทย์เลอร์ เลือกจัดคอน เสิร์ตในวันที่ 2-4 มี.ค.67 (2024) ทำให้นายพิธาโควททวีตข้อความดังกล่าวเป็นภาษาอังกฤษ และพรรค ก.ก.ได้แปลเป็นภาษาไทยว่า “สวัสดีเทย์เลอร์! ผมเป็นแฟนคลับตัวยงของคุณ ประเทศไทยกำลังกลับเข้าสู่เส้นทางประชาธิปไตยเต็มใบ หลังจากครั้งก่อนที่คุณจำเป็นต้องยกเลิกคอนเสิร์ตเนื่องจากการรัฐประหาร บัดนี้ประชาชนคนไทยได้แสดงเจตจำนงผ่านการเลือกตั้งแล้ว พวกเราทุกคนรอต้อนรับคุณมาเยี่ยมประเทศที่แสนสวยงามของเราอยู่ มาเล่นคอนเสิร์ตที่ไทย แล้วผมจะร้องเพลง Lavender Haze ด้วยกัน”8 พรรคร่วมรอความชัดเจนแกนนำผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ประชุมสภาฯได้เลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ แล้ว ความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลทั้ง 8 พรรคที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ ขณะนี้ทั้ง 8 พรรคกำลังรอความชัดเจนจากพรรคก้าวไกล ถึงการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลว่าจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากสภาฯนัดวันโหวตเลือกนายกฯครั้งแรกวันที่ 13 ก.ค.แล้ว แต่จนถึงขณะนี้พรรคก้าวไกลที่เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งยังไม่มีการประสานนัดหมายหารือกันแต่อย่างใด รวมถึงที่ผ่านมาทั้ง 8 พรรคต่างอยากทราบความคืบหน้าการรวบรวมเสียง ส.ว. เพื่อสนับสนุนนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แต่ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากพรรค ก.ก.“เศรษฐา” มั่นใจ พท.ไม่แตกแถวที่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรค พท.และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมโหวตเลือกนายกฯ ที่ท่าที ส.ว.ชัดเจนไม่สนับสนุนนายพิธาว่าไม่แน่ใจว่าชัดเจนขนาดไหน แต่นายพิธาบอกว่าน่าจะรวบรวมได้ 376 เสียง เป็นกำลังใจให้ และมั่นใจว่าพรรค พท.ไม่แตกแถว เมื่อถามว่ามีเสียงชัดเจนว่าไม่สนับสนุนนายพิธา แต่หากเป็นแคนดิเดตนายกฯจากพรรค พท. พร้อมสนับสนุน นายเศรษฐาตอบว่า ยินดีครับ จริงๆแล้ว 8 พรรคเราก็มี 312 เสียง ต้องการอีกแค่ 64 เสียงน่าจะผ่านได้ ยังมีความหวัง ยังมั่นใจ นายพิธาก็มั่นใจว่าจะได้ 376 เสียง ส่วนที่ ส.ว.หลายคนบอกชัดเจนมีเงื่อนไขมาตรา 112 ทำให้ไม่สามารถสนับสนุนนายพิธาได้ มี ส.ว.หลายคนออกมาให้ความเห็น แต่มีหลายคนยังไม่ออกความเห็น เชื่อว่าวันที่โหวตกัน เขาน่าจะทำตามฉันทามติของพี่น้องประชาชนยังไม่คิดเป็นนายกฯไม้สองเมื่อถามว่า มองว่าหากการโหวตเลือกนายกฯครั้งแรกไม่ได้ ควรให้โอกาสอีกครั้งหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องมาดูว่าคะแนนเสียงที่ได้เป็นอย่างไรบ้าง เชื่อว่าหากคะแนนขาดอยู่เล็กน้อยน่าจะให้โอกาสกันบ้าง ที่หลายคนบอกว่าหากท้ายที่สุดแล้วนายพิธาไม่ได้ แล้วต้องตกมาที่พรรค พท. ไม่อยากคิดตรงนั้น เพราะเราอยู่พวกเดียวกัน ต้องโหวตให้กันอยู่แล้ว จะไม่เหมาะสมหากจะคอมเมนต์ไปในแง่อื่น เมื่อถามว่าหากพรรค ก.ก.ยังอยู่ในสมการจัดตั้งรัฐบาล จะไม่ได้รับเสียงเพียงพอจาก ส.ว. มีโอกาสที่พรรค ก.ก.จะสละตัวเองจากพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเดินหน้าต่อได้หรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ไม่มีการคุยเรื่องที่พรรค ก.ก.จะสละตัวเองออก เราตัวติดกัน เรามาจากฝ่ายประชาธิปไตย และ 8 พรรคเซ็นเอ็มโอยูเรียบร้อยแล้ว ประเด็นที่บอกว่าเราจะแยกจากกันไม่เคยได้ยิน เมื่อถามย้ำว่า ส.ว. บอกว่าพร้อมจะสนับสนุนพรรค พท. ภายใต้เงื่อนไขที่พรรคก.ก.ต้องถอยออกจากพรรคร่วมรัฐบาล นายเศรษฐากล่าวว่า เข้าใจว่าเป็นความเห็นของ ส.ว.ท่านเดียวที่พูดมา ยังมั่นใจว่า ส.ว.ส่วนใหญ่คงน่าจะให้การสนับสนุนเสียงที่มาจากพี่น้องประชาชนย้ำจับมือกันแน่น ไม่มีอะไรผิดใจกันเมื่อถามอีกว่า ส.ว.ส่วนใหญ่ส่งสัญญาณมาแล้วว่าจากที่เคยจะโหวตให้นายพิธา ตอนนี้เริ่มลดลง ถือเป็นโอกาสดีให้พรรค พท.หรือไม่ นายเศรษฐา ย้อนถามกลับว่า โอกาสดีคืออะไร ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ว.เห็นว่ามีมาตรา 112 และในเอ็มโอยูที่ออกมาพรรค พท.ประกาศชัดเจนจะไม่แตะมาตรา 112 นายเศรษฐากล่าวว่า “ผมว่าต้องปฏิบัติตามเอ็มโอยู” เมื่อถามว่าหากการโหวตครั้งแรกไม่ผ่าน ต้องมีครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ครั้งที่ 4 หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า “อย่าเพิ่งไปไกลขนาดนั้นเลย ไปทีละสเต็ปดีกว่า อย่างที่บอกว่าเรามาจากฝ่ายประชาธิปไตย เราคุยกันรู้เรื่อง การโหวตประธานสภาฯผ่านไปได้ด้วยดี การโหวตเลือกนายกฯหวังว่าจะจบได้ด้วยดี” ส่วนกรณีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ว่าที่รองประธานสภาฯคนที่ 2 ระบุว่า หากโหวตนายกฯครั้งแรกไม่ผ่านจะให้โหวตครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ใหม่ เป็นความเห็นของนายพิเชษฐ์ และการกำหนดวันประชุมเป็นหน้าที่ประธานสภาฯ ไม่ไปก้าวล่วงตรงนี้เมื่อถามย้ำว่า พรรค ก.ก.ควรลดเพดานการแก้ไขมาตรา 112 ลงให้ได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว.หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ทุกอย่างเราทำตามเอ็มโอยูที่เซ็นไป จะแก้ไขเอ็มโอยูได้หรือไม่ ณ จุดนี้คงไม่สามารถแก้ไขได้เพราะเซ็นกันไปแล้ว เมื่อถามย้ำว่าจะจับมือกับพรรค ก.ก.ตลอดไปใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า “จับมือครับ วันนี้ก็ยังจับมือกันอยู่ ไม่ได้มีอะไรผิดใจกัน และยังมีการประชุมกันอยู่อย่างต่อเนื่อง”tt tt“อนุดิษฐ์” ปัด “เจ๊” งอนได้แค่ รมช.น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรค ไทยสร้างไทย (ทสท.) ให้สัมภาษณ์ถึงคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค ทสท.ไม่พอใจกระแสข่าวที่พรรค ทสท.ได้โควตาแค่ รมช.จนไม่เข้าร่วมประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลถึง 2 ครั้งว่า ตนเป็นผู้ได้รับมอบหมายประสานงานและเข้าร่วมประชุมกับพรรคร่วม 8 พรรค ขอยืนยันยังไม่เคยมีคณะเจรจามาตกลงเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีหรืออะไรเลย พรรค ทสท.ยืนยันโดยตลอดว่า ไม่ขอเป็นเงื่อนไข แต่จะเป็นกำลังสำคัญสนับสนุนจัดตั้งรัฐบาลของ 8 พรรค เลือกนายกฯจนสำเร็จก่อนแบ่งโควตารัฐมนตรี เราจะไม่นำมาเป็นเงื่อนไข การที่คุณหญิงสุดารัตน์ไม่เข้าร่วมประชุมทั้ง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกไปพักผ่อนกับครอบครัวที่ต่างประเทศ ครั้งล่าสุดมีนัดหมอตรวจสุขภาพเลื่อนไม่ได้ ดังนั้นข่าวไม่มีมูลความจริงเลยตั้งใจทำให้พรรค ทสท.เสียหาย“บิ๊กตู่” ทูลเกล้าฯ ปธ.-รอง ปธ.สภาฯเมื่อเวลา 10.00 น.ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบเงินรางวัลและแสดงความยินดีแก่นักกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 และการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 ที่ราชอาณาจักรกัมพูชา ก่อนเริ่มพิธีผู้สื่อข่าวถามถึงการนำชื่อประธานสภาผู้แทนราษฎร และ 2 รองประธานสภาฯ ขึ้นทูลเกล้าฯ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ทำแล้วจ๊ะ ทำแล้ว รอก่อนนะ”ถามการเมืองได้แต่ยิ้มไร้คำตอบต่อมาเวลา 11.05 น. พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่าได้แสดงความยินดีและขอเป็นกำลังใจ เพราะนี่คือชื่อเสียงของเรา มีคำที่ตนชอบคือ “สู้สุดใจ” ของนักกีฬา เพราะคำนี้จะเป็นพลังและการจะทำอะไรก็ตาม จะต้องทำให้ดีที่สุด ผลจะออกมาอย่างไรเราต้องนำมาพินิจพิจารณาว่าจะทำให้ดีขึ้นอย่างไรในโอกาสต่อไป แต่กีฬาเป็นสิ่งที่เชื่อมความรักความสามัคคี ชอบดูและชอบเล่นกีฬา บางอย่างเล่นเป็นเกือบหมด แต่ไม่เก่งสักอย่าง ตอนสมัยเรียนโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ามีการสอนกีฬาทุกประเภท แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ไม่ค่อยมีโอกาสมากนัก จากนั้นนายกฯได้ถามสื่อมวลชนว่า มีอะไรไหมจ๊ะ การเมืองไม่มีคำตอบ พร้อมกล่าวเพียงว่า “nothing nothing” (ไม่มีอะไร) ก่อนจะเดินออกจากโพเดียมพร้อมกับยิ้ม ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลเดิม จะเสนอชื่อนายกฯแข่งหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าวและเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันทีรทสช.ลั่นไม่คิดตั้ง รบ.เสียงข้างน้อยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงจุดยืนทางการเมืองของพรรคว่า ขอยืนยันว่าพรรค รทสช.ส่งนายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค สู้กับ ก.ก.โหวตรองประธานสภาฯคนที่ 1 เพื่อแสดงจุดยืนไม่นำมาสู่การตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ตนและนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ในฐานะแคนดิเดตนายกฯอันดับที่ 2 ไม่เคยมีความคิดและไม่สนับสนุนตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยในสภาฯเด็ดขาด ถึงจะตั้งไปอยู่ไม่ได้ เพียงหากเราไม่ส่งนายวิทยาไปแข่งเท่ากับเราสนับสนุนให้แคนดิเดตพรรค ก.ก.เป็นรองประธานสภาฯคนที่ 1 โดยอัตโนมัติ มีคนพยายามกุข่าวลือ สร้างข่าวเพื่อให้การต่อสู้ของเราสูญเสียความชอบธรรม เข้าใจผิดคิดว่าเป็นขบวนการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ขอปฏิเสธชัดๆไปเลยว่า “เราไม่เอารัฐบาลเสียงข้างน้อย” หากจะต้องเป็นฝ่ายค้านก็เป็น นายพีระพันธุ์ ผมและเพื่อน ส.ส.ของพรรคไม่ติดใจ การจะได้เป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ไม่สำคัญไปกว่าการรักษาจุดยืน”ปัดส่ง “พีระพันธ์ุ” ลงชิงเก้าอี้นายกฯนายเอกนัฏกล่าวว่า ส่วนการโหวตนายกฯ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต มีกระแสข่าวว่า รทสช.จะส่งนายพีระพันธุ์ แข่งกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกฯนั้น ไม่เป็นความจริง และต้องยอมรับว่าพรรคเรามีเพียง 36 เสียง ไม่พอที่จะไปเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เราจะทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ สร้างความมั่นคงให้ชาติ สร้างความเข้มแข็งให้ระบบเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ สร้างโอกาสอย่างเท่าเทียม ผดุงความยุติธรรม ให้ความเป็นธรรม แต่จะไม่แก้มาตรา 112 ไม่เปลี่ยนวันชาติ ไม่แบ่งแยกดินแดน11 ก.ค.หารือวางแนวทางโหวตลงมตินายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค รทสช. กล่าวถึงการประชุมพรรคในวันที่ 11 ก.ค.ว่า จะมีการหารือถึงแนวทางการลงมติในการประชุมสภาฯ ว่าจะไปในทิศทางใด เมื่อถามว่า พรรค รทสช.จะเสนอรายชื่อชิงนายกฯหรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า รอให้มีการพูดคุยในวันที่ 11 ก.ค.ก่อน วันดังกล่าวน่าจะมีข้อสรุปเพื่อให้เป็นในทิศทางที่เข้าใจตรงกันทั้งหมด เมื่อถามว่า หากมีการเสนอชิงนายกฯจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกฯรวมไทยสร้างชาติ คนที่ 1 หรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า ต้องรอการประชุม เมื่อถามว่า การโหวตในสภาฯ กังวลท่าทีพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ในกรณีที่โหวตเสียงแตกจากขั้วรัฐบาลเดิม นายอนุชาปฏิเสธจะตอบคำถาม“หนู”ย้ำไม่โหวตนายกฯแก้ ม.112ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงจุดยืนการโหวตเลือกนายกฯของพรรค ภท.ว่า จุดยืนยังเป็นไปตามแถลงการณ์ของพรรคที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ไม่ลงมติสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯของพรรคที่มีนโยบายแก้ไขหรือยกเลิก ป.อาญา มาตรา 112 ถึงวันนี้ยังไม่เปลี่ยน มั่นใจว่าหลังจากที่มีพระบรมราช โองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯแล้ว ประธานสภาฯในฐานะประธานรัฐสภาจะเรียกประชุมเพื่อโหวตนายกฯ ทุกคนที่เป็น ส.ส.ต้องไปร่วมประชุมสภาฯ พรรค ภท.คงไม่จำเป็นต้องมีวิปเข้าไปประสานอะไร แต่ละพรรคมีแนวทางตัดสินใจอยู่แล้วtt tt“ชวน” ป้อง “บิ๊กป้อม” อย่าจับผิดนั่งหลับเมื่อเวลา 11.00 น.ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีโลกโซเชียลวิจารณ์ภาพ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นั่งหลับในห้องประชุมสภาฯวันเลือกประธานสภาฯว่า อย่าไปจับผิดเรื่องแค่นี้ พล.อ.ประวิตรกรุณามาประชุมด้วยตัวเองต้องขอบคุณ ทุกคนเมื่อนั่งนานๆมีสิทธิ์ ส.ส.เลยกลัวสื่อจะไปจับผิด บางคนจึงไม่เข้าห้องประชุม พอกดบัตรเสร็จรีบออกนอกห้อง กลัวสื่อจะคอยจับตอนหลับ อย่าไปนั่งเป็นเหยื่อ สื่ออย่าไปจับเรื่องนี้มาเป็นสาระ การที่ ส.ส.บางคนเผลอหลับตาบ้าง ไม่มีผลกระทบอะไร สำคัญคือคนที่มาประชุม ส่วนการเปิดประชุมสภาฯเพื่อลงมติเลือกประธานสภาฯเมี่อวันที่ 4 ก.ค.เสียเวลาไปกับการขานคำว่าบัตรดี 500 ครั้ง ความจริงไม่ต้องใช้คำว่าบัตรดี อ่านชื่อได้เลย เช่น “วิทยา” “ปดิพัทธ์” ทำให้ประหยัดเวลาได้ ส่วนการโหวตนายกฯจะโหวตได้กี่ครั้งไม่มีกฎหมายห้าม ขอให้ถามนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา จะดีกว่าเชื่อปัญหาองค์ประชุมล่มจะหมดไปนายชวนกล่าวอีกว่า ได้ยินดีกับนายวันมูหะ มัดนอร์ มะทา ตั้งแต่วันที่ได้รับเลือก ได้บอกลูกน้องท่าน ขอให้ดูแลสุขภาพท่าน เพราะเป็นวัยสูงอายุ ถ้าไม่ค่อยแข็งแรงจะมีปัญหา ต้องนั่งบนบัลลังก์ 3-4 ชั่วโมง เหนื่อยที่สุดคือเงยหัวต้องฟังว่าใครพูดอะไร จะให้ถอนคำพูดหรือไม่ เมื่อให้รองประธานขึ้นทำหน้าที่ต้องตามต่อจะได้รู้เวรต่อไป ใครพูดอะไรไว้ ถือเป็นงานหนัก ขอให้ท่านดูแลสุขภาพ เมื่อถามว่าเชื่อว่านายวันนอร์จะทำงานกับรองประธานทั้ง 2 คน ได้หรือไม่ นายชวนตอบว่า นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่ 2 บอกจะทำตามพระบรมราโชวาทและตามที่ประธานมอบหมาย แต่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่ 1 แถลงเหมือนเป็นประธานเอง เพราะรองประธานมีหน้าที่รับมอบหมายจากประธานสภาฯจะให้ทำอะไร ถ้าจะทำอะไรใหม่ ต้องขออนุมัติจากประธาน ยึดประธานเป็นหลัก ขณะนี้มีประธานมุสลิม รองประธานคนที่ 1 เป็นคริสต์ คนที่ 2 เป็นพุทธ มี 3 ศาสนา จึงบอกเลขาธิการสภาฯ ต้องรักษามาตรฐานศาสนาไว้อย่างเดิม ปัญหาองค์ประชุมล่มยุคนี้น่าจะหมดไปเหน็บตัวปัญหาไปเป็นรัฐบาลแล้ว“นายพิเชษฐ์ในฐานะรองประธานคนที่ 2 สมัยที่แล้วประท้วงเยอะ หลังได้ตำแหน่งรองประธานมาสวัสดี จึงล้อเล่นว่าถึงเวลาทำนาใครจะมาหว่านข้าวในสภาฯ เชื่อว่าปัญหาต่างๆจะลดลง เพราะตัวปัญหาไปเป็นรัฐบาลคนไม่กดบัตร ทำให้องค์ประชุมไม่ครบต้องมาร่วมประชุม สมัยที่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯไม่ได้เป็น ส.ส. จึงไม่ได้อยู่ในสภาฯ หัวหน้าพรรคที่ตั้งรัฐบาลคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ได้อยู่ในสภาฯ เมื่อมีปัญหาไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร แม้มีตัวแทนพรรคแต่ไม่ยอมรับกัน แต่สมัยนี้ปัญหาเหล่านี้น่าจะหายไป ความร่วมมือจะดีขึ้น การพูดมากจะลดลง” นายชวนกล่าวปรามพวกชอบออกสื่อตอกลิ่มแตกแยกผู้สื่อข่าวถามถึงการเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่วันที่ 9 ก.ค. นายชวนตอบว่า เอาไว้ถามช่วงใกล้ๆ พยายามจะหลีกเลี่ยง เพราะเห็นคนชอบพยายามมาออกสื่อและให้สัมภาษณ์ ทำให้มีข้อขัดแย้งโดยไม่จำเป็น จึงพยายามลดความขัดแย้งและให้เกียรติทุกคน บางคนพยายามมาสมัครเป็นหัวหน้าพรรค เช่น พ.ท.หญิง ฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล สมาชิกพรรคที่มาหาตนและ กก.บห.ที่พรรคหรือหลายคนเขียนจดหมายมาบอกว่าอยากเป็นหัวหน้าพรรค ข้อที่ได้เห็นชัดคือประชาชนส่งไลน์มาแสดงความห่วงใย ผู้พร้อมและต้องการสมัคร จึงไม่อยากออกมาพูดล่วงหน้า ยกเว้นนายอลงกรณ์ พลบุตร รักษาการรองหัวหน้าพรรค ที่แสดงจุดยืนลงสมัครชัดเจน เคยลงสมัครมาแล้ว 2 ครั้ง ให้ไปรอดูวันเลือกหัวหน้าพรรค ไม่ขอไปล่วงล้ำมากกว่านี้ ไม่ขอกล่าวถึงข้อเสนอการแก้ไขข้อบังคับพรรค ให้มีการเลือกหัวหน้าคนใหม่สอนมีแค่ 25 เสียงต้องเจียมตัวเมื่อถามว่ากรณีลูกพรรค ปชป.แสดงความเห็นในพื้นที่ส่วนตัว ประเด็นเรื่องหัวหน้าพรรคยิ่งทำให้เกิดปัญหาหรือไม่ นายชวนตอบว่า พรรคปชป.มี 25 เสียง ส.ส.บัญชีรายชื่อมีเพียง 3 คนเท่านั้น ควรจะเจียมเนื้อเจียมตัว ได้มาโดยคะแนนบริสุทธิ์ 900,000 กว่าเสียงเท่านั้นเอง แม้กระทั่งในพื้นที่ภาคใต้ยังแพ้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรค รทสช. เราต้องประมาณตัวเอง รู้ตัวว่าคนเลือกเราน้อยแค่ไหน ถ้ารู้สถานการณ์รู้ความจริงอย่างนี้ ต้องคิดทางบวกว่าพรรคต้องได้คนประเภทใดมาแก้ปัญหา “เหนือสิ่งอื่นใด พรรคปชป.ก่อตั้งมา 77 ปี ย่างเข้าสู่ปีที่ 78 ความเชื่อเรื่องเลือกตั้งสุจริต ความเชื่อไม่ซื้อเสียงไม่ควรจะเลือนหายไป แม้สื่อจะมองเรื่องนี้น้อยลงแล้ว มีคนส่งไลน์มาให้ ถึงขั้นสื่อบอกว่าถ้ามัวแต่คิดไม่โกงไม่กิน ไม่สิ้นชาติ มันหมดยุคแล้ว พูดง่ายๆยุคนี้เขาไม่สนใจเรื่องแบบนี้แล้ว ใครชนะเลือกตั้งจบ ไม่ต้องสนใจว่าจะซื้อเลือกตั้งมาหรือเลือกตั้งมาสุจริตหรือไม่ ถ้าความเชื่อเหล่านี้ยังมีอยู่ประชาธิปไตย 91 ปีที่ผ่านมาเกือบจะพูดได้ว่าเราไม่ได้ไปสู่เป้าหมายของอุดมคติ เหนือสิ่งอื่นใดพรรค ปชป.ดำรงสิ่งนี้มายาวนานถึง 77 ปี จึงควรรักษาไว้อย่างนี้ต่อไป เพราะฉะนั้นผู้นำพรรคที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เราหวังว่าเขาจะทบทวนอุดมคติของพรรคที่ได้ประกาศไว้ในอดีต”จี้สำนึกควรเลือกใครกอบกู้ ปชป.นายชวนกล่าวต่อว่า อยากให้หัวหน้าพรรคคนใหม่สร้างความเป็นหนึ่งเดียว หลอมรวมและกอบกู้ความเป็นพรรค ปชป. อย่าไปคิดว่าต้องรุ่นนั้นรุ่นนี้ บางเรื่องของใหม่ดีกว่า แต่บางเรื่องของเก่าที่ดี ต้องเก็บรักษาไว้ เคยใช้คำว่าประเทศรุ่งเรือง เมื่อบ้านเมืองสุจริต สิ่งเหล่านี้จะเป็นอมตะ แต่บางช่วงที่เปลี่ยนแปลงและน่าตกใจเหมือนช่วงที่ผ่านมา เราจะรักษาอะไรไว้หรือเปลี่ยนแปลงอะไร ผู้บริหารชุดใหม่ของพรรคต้องทำต่อไป แต่ชุดใหม่ควรประกอบไปด้วยคนทุกรุ่น ทั้งอดีตปัจจุบันและอนาคต อดีตมีความดีงามปรากฏไว้ ไม่มีสิ่งดีงามก็อยู่ไม่ได้ถึง 77 ปี ต้องยอมรับว่าพรรคที่เกิดมาพร้อมกันล้มหายตายจาก แล้วมีอันเป็นไปกันหมด ถูกยุบ แต่เราอยู่ได้ทั้งที่ถูกร้องมา 2 ครั้ง มีการจ่ายสินบนผู้พิพากษาให้ตั้ง 30 ล้าน แต่ท่านไม่รับเพราะเป็นคนตรง กรณีอย่างน้อยต้องจ่าย 150 ล้านบาท เพื่อผลที่จะยุบหรือไม่ยุบพรรคการเมือง ถ้าอยากให้เห็นว่าฝ่ายการเมืองส่วนหนึ่งมีพฤติกรรมฉ้อฉล ขณะที่อีกฝ่ายพยายามยึดความเที่ยงตรงอันตรายตั้ง รบ.กับพรรคยึดมั่นคนโกงเมื่อถามว่าหากในอนาคตพรรค ปชป.ไปร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน อนาคตทางการเมืองของนายชวนจะเป็นอย่างไร นายชวนกล่าวว่า เป็นห่วงว่าสมาชิกบางส่วนไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้ อาจจะเป็นเพราะไม่รู้อดีตว่าเป็นอย่างไร ทำให้มองข้ามเรื่องนี้ไป แต่เห็นด้วยว่าถ้าพรรคตั้งใจ แต่ทุกพรรคก็มีคนดีอยู่ จะไปเหมาทั้งหมดไม่ได้ และหากบางพรรคยังคงยึดมั่นและเชื่อคนโกงอยู่ไปร่วมก็อันตราย แต่ทั้งนี้ ยืนยันว่ายังไม่มีแนวโน้มว่าจะเป็นอย่างนั้นtt tt“ศรีฯ” สอยจริยธรรม “ศิริกัญญา”วันเดียวกัน นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน กล่าวว่า วันที่ 7 ก.ค. เวลา 10.00 น. เตรียมยื่นข้อมูลให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบจริยธรรม น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค ก.ก.กรณีไม่กล่าวคำปฏิญาณตนตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 115 เนื่องจากระหว่างที่ประธานสภาฯนำ ส.ส.กล่าวปฏิญาณตนในรัฐสภา น.ส.ศิริกัญญาดูเหมือนจะไม่ปฏิญาณตน มีแต่แสยะยิ้ม หันไปเล่นกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก.ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรต้องให้ ป.ป.ช.ไปพิสูจน์กัน“ศิริกัญญา” โต้ปฏิญาณครบทุกคำน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ก.ก.กล่าวว่า กรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เตรียมยื่นร้อง ป.ป.ช.ให้สอบจริยธรรมกรณีไม่กล่าวคำปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ในวันเปิดประชุมสภาฯเมื่อวันที่ 3 ก.ค.นั้น ปกติการปฏิญาณตนต้องให้ประธานกล่าวนำ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นเจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณให้หยุด เพื่อให้ประธานกล่าวนำทีละบรรทัด เลยชะงักและหันไปสะกิดแจ้งนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก.ที่ยืนอยู่ใกล้ๆกัน ยืนยันว่าได้พูดทวนและปฏิญาณไปจนจบตามขั้นตอนของสภาฯ“Respect MyVote 66” ลุยกดดัน ส.ว.เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ห้องริมน้ำ คณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ (มธ.) ท่าพระจันทร์ เครือข่าย Respect MyVote 66 ประกอบด้วย นายอานนท์ ชวาลาวัณย์ เจ้าหน้าที่อาวุโส โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือไอลอว์ นายกรกต แสงเย็นพันธุ์ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล กลุ่ม call น.ส.ภาวิณี สมรรคบุตร กลุ่มศิลปะปลดแอก พร้อมตัวแทนกลุ่มคณะรณรงค์รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ร่วมกันเปิดตัว แคมเปญ “Respect MyVote 66 ยืนยันหลักการเคารพผลเลือกตั้ง ฟังเสียงประชาชน” ขณะที่นายอานนท์กล่าวว่า ขอเชิญชวนทุกคนที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ร่วมกันติดแฮชแท็กส่งความในใจถึง ส.ว.ร่วมกันชวนให้ ส.ว. โหวตนายกฯตามมติมหาชนว่า หาก ส.ว.เลือกนายกฯตามผลการเลือกตั้งเราจะ…..ช่วงต่อท้ายแฮชแท็กนั้น จะเขียนอะไรก็ได้ เช่น ประเทศจะเป็นอย่างไร หรือจะให้ของขวัญ ส.ว.เป็นอะไร แคมเปญนี้จะเริ่มหลังเที่ยงคืนวันที่ 12 ก.ค.วันสุกดิบจนถึง เที่ยงคืนวันที่ 13 ก.ค.วันโหวตนายกฯ นอกจากนี้ในวันโหวตนายกฯ เราประสานกับรัฐสภาแล้วว่าจะขอพา ตัวแทนประชาชน 20-30 คน เข้าไปร่วมฟังการประชุมสภาฯตร.พร้อมรับมือวันโหวตนายกฯสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยในวันประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีวันที่ 13 ก.ค.ว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.มอบหมายให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ดูแลภาพรวมและสั่งการให้ บช.น.ดูแลแผนความปลอดภัย การบริหารจราจรและการบริหารพื้นที่ของรัฐสภา ให้จัดเตรียมกำลังพล อุปกรณ์และยานพาหนะขับเคลื่อนการปฏิบัติงาน สั่งห้ามไม่ให้จัดชุมนุม ในรัศมีไม่เกิน 50 เมตรรอบรัฐสภา ตามมาตรา 7 พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ แต่หากจะจัดชุมนุมขอให้ผู้จัดทำหนังสือแจ้งเจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่ล่วงหน้าก่อน 24 ชั่วโมง ข้อมูล เบื้องต้นของพื้นที่ สน.บางโพ ยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งการ ชุมนุม อย่างไรก็ตาม ตร.ได้ให้ทุกหน่วยเตรียมพร้อมทุกสถานการณ์และเตรียมแผนรองรับไว้เรียบร้อยแล้วคุก 1 ปี “เอกชัย” โพสต์ลามกในเรือนจำที่ศาลอาญา ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่อัยการสำนักงานคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเอกชัย หงส์กังวาน อายุ 48 ปี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นจำเลย ฐานกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (4) กรณีเมื่อวันที่ 23 เม.ย.60 จำเลยโพสต์เฟซบุ๊ก ข้อความลามกอนาจารเกี่ยวกับประสบการณ์การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำ ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 1 ปีโดยไม่รอการลงโทษ ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า ไม่เห็นแย้งที่ศาล อุทธรณ์วินิจฉัยลงโทษเหมาะสมแล้ว พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา