วันเสาร์, 9 ธันวาคม 2566

“ธนกร” มอง ส่อวุ่นแน่ หากก้าวไกล ยังจ้องแก้ 112 ย้ำ รทสช.ไม่โหวตให้ “พิธา”

“ธนกร” มอง ส่อวุ่น! หากก้าวไกล ยังจ้องแก้ ม.112 หวั่น จุดชนวนขัดแย้งซ้ำ ย้ำ รทสช.ไม่โหวตให้ “พิธา” แน่ มั่นใจ ส.ว.เลือกนายกฯ ยึดประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง ชี้ รัฐบาลใหม่ควรทำเพื่อคนไทยทั้งประเทศ ไม่อิงแค่บางกลุ่มวันที่ 9 ก.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นรัฐสภาเตรียมเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 ก.ค.นี้ ว่า หากพรรคก้าวไกลที่จะเสนอ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แต่ยังคงดึงดันต้องการเสนอแก้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งถือเป็นกฎหมายสำคัญ มีไว้คุ้มครองประมุขของประเทศ และสุ่มเสี่ยงขัดต่อรัฐธรรมนูญ ตนเป็นห่วงว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นชนวนความขัดแย้งขึ้นซ้ำอีก เพราะคนไทยทั้งประเทศ รวมถึงตน ก็ไม่เห็นด้วยกับการล่วงละเมิดสถาบันอันเป็นที่รัก เป็นศูนย์รวมจิตใจคนไทยมาตลอดอย่างแน่นอน ตนไม่อยากเห็นการออกมาปะทะกันของมวลชนทั้งสองฝ่ายเหมือนในอดีต บ้านเมืองเดินมาไกลมากแล้ว จึงขอย้ำว่า พรรครวมไทยสร้างชาติไม่เห็นด้วยกับการแก้มาตรา 112 ขอคัดค้านอย่างถึงที่สุด และไม่สามารถโหวตให้ นายพิธา และพรรคก้าวไกลได้เมื่อถามว่า ส.ว.หลายคนเตรียมโหวตให้ นายพิธา เห็นว่าได้เสียงครบแล้ว นายธนกร กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าสมาชิกวุฒิสภาทุกท่านมีวิจารณญาณและหลักการทำงาน ยึดประโยชน์ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนเป็นที่ตั้ง การจะเลือกบุคคลใดมาเป็นประมุขฝ่ายบริหาร ต้องเลือกคนที่ดี มีคุณสมบัติครบถ้วน ไม่มีข้อกังขาให้สงสัยต้องไปตีความกันอีก ที่สำคัญตอนนี้ นายพิธา เอง ยืนยันว่าจะเสนอแก้ไขมาตรา 112 และยังมีอีกหลายเรื่องที่ถูกร้องและกำลังถูกตรวจสอบอยู่ โดยที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลยังเคยรณรงค์ปิดสวิตช์ ส.ว.มาแล้ว เรื่องนี้คงจำกันได้นายธนกร ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนตัวเห็นว่าขณะนี้สิ่งที่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะเข้ามา ควรรีบวางนโยบายและแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างรวดเร็ว ตามแนวทางที่รัฐบาลปัจจุบันได้เดินหน้ามาแล้ว แก้ปัญหาปากท้องให้พี่น้องประชาชน การแก้ปัญหาความยากจนมาก่อนเรื่องอื่น ต้องรีบทำ ไม่ใช่ทำตามใจมวลชนแค่บางกลุ่มในเรื่องแก้ไขกฎหมายที่กระทบจิตใจคนไทยทั้งชาติแบบนี้ นอกจากนั้นนโยบายหลายอย่างที่รัฐบาลปัจจุบันได้ดำเนินการมาให้เกิดประโยชน์กับประชาชน รัฐบาลใหม่ก็ต้องรีบสานงานต่อ“ประชาธิปไตยเสียงข้างมากในสภานั้น ก็ต้องรับฟังเสียงข้างน้อยด้วย ซึ่งเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นี่คือแบบของไทยเรา การจะมาเปลี่ยนแปลง โดยอ้างคำว่าปฏิรูปสถาบัน แต่เมื่อไปดูร่างกฎหมายที่เตรียมเสนอ กลับมุ่งจะยกเลิกมาตรา 112 ลดโทษจนคนที่ทำผิดกลายเป็นแค่มาเสียค่าปรับ อีกทั้งเป็นการดึงสถาบันลงมาเป็นคู่ขัดแย้งกับประชาชน ถามหน่อย นี่คือการปกป้องตรงไหน ผมเชื่อแน่ว่าคนไทยเขารับไม่ได้หรอก รวมไปถึงอีกหลายเรื่องที่แกนนำพรรคก้าวไกลจะดำเนินการ คนไทยรับไม่ได้แน่” นายธนกร ย้ำ…