วันอาทิตย์, 3 ธันวาคม 2566

“ประเสริฐ” เชื่อคำก้าวไกล มีเสียง ส.ว.พอ เพื่อไทยชัด ไม่เอา แก้ ม.112

“ประเสริฐ” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เชื่อคำก้าวไกล มีเสียง ส.ว.พอ ย้ำ เพื่อไทย ไม่มีแผนสำรอง จุดยืนชัดไม่เอาด้วย แก้ มาตรา 112 เชื่อ “พิธา” แจงหุ้นสื่อไอทีวีได้ ด้าน “ชลน่าน” ไม่ตอบปม กกต.จ่อส่งเรื่องหุ้นสื่อเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 10 ก.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแปดพรรคร่วมนัดหารือในวันที่ 11 ก.ค. ว่า จะพูดคุยเตรียมความพร้อมในการโหวตเลือกนายกฯ และอาจจะมีประเด็นที่เกี่ยวเนื่องของคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านบ้าง จากนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ได้นัดหมายประชุมวิปสามฝ่าย เวลา 11.00 น. เพื่อกำหนดแนวทางในการประชุมวันที่ 13 ก.ค. ว่าการโหวตเลือกนายกฯ จะต้องอาศัยข้อบังคับข้อใดบ้าง ก่อนโหวตควรจะมีการแสดงวิสัยทัศน์ก่อนหรือไม่ ซึ่งแนวทางการโหวตของแปดพรรคร่วมฯ มีความชัดเจน เป็นเอกภาพ และเป็นไปตามเอ็มโอยูที่จะสนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อถามถึงความคืบหน้าเสียงของ ส.ว. ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ กล่าวว่า เท่าที่สอบถามทางพรรคก้าวไกลเขา ก็ยืนยันว่าสามารถหาเสียง ส.ว.ได้เพียงพอ ตนเข้าใจพรรคก้าวไกลเป็นอย่างดี ว่าคงไม่เปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากการโหวตครั้งนี้มีความสำคัญ แต่ก็ได้รับการยืนยันจากแกนนำพรรค ก.ก.เสมอว่าได้รับเสียงที่เพียงพอ ฉะนั้น ก็เป็นไปตามนี้ก่อน เมื่อถามว่า จำเป็นต้องมีการถามพรรคก้าวไกลหรือไม่ เพราะพรรคเพื่อไทยจะได้ช่วยพูดคุยกับ ส.ว.ด้วย นายประเสริฐ กล่าวว่า มีการสอบถามกันอยู่บ้าง แต่หลักๆ จะอยู่ที่พรรคก้าวไกล เนื่องจากพรรคก้าวไกลอาจจะยังไม่อยากเปิดเผยอะไรมากนัก เพราะอาจส่งผลกระทบต่อคะแนนโหวต และเราเข้าใจดีว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงถามเท่าที่ทำได้เมื่อถามว่า ต้องพูดคุยกันหรือไม่ว่า หากโหวตครั้งแรกไม่ผ่าน พรรคร่วมรัฐบาลเดิมอาจจะเสนอชื่อคนแข่ง นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนคิดว่าวันพรุ่งนี้อาจจะมีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้อยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะได้รายละเอียดมากน้อยแค่ไหน ฉะนั้นหากจะไปถามบ่อยๆ ก็จะดูอย่างไรอยู่ จึงต้องให้เกียรติเขาในฐานะที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเป็นพรรคหลักที่ไปประสานงานกับ ส.ว. เมื่อถามถึงกระแสที่ออกมา ค่อนข้างมองว่าพรรคก้าวไกลจะโหวตไม่ผ่านในรอบแรก พรรคเพื่อไทยมองว่าจะโหวตอีกกี่ครั้ง นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ จะต้องนำเรื่องนี้มาหารือกับแกนนำจัดตั้งรัฐบาลทั้ง 8 พรรค ว่าหากโหวตครั้งแรกไม่ผ่านจะมีแนวทางอย่างไรในครั้งต่อไป จึงยังไม่อยากสรุปไปก่อนว่าจะออกมาทิศทางใด เมื่อถามว่า หาก นายพิธา ไม่ได้เสียงในครั้งแรก พรรคเพื่อไทยมองแผนสำรองไว้อย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า ยังไม่มองไปไกล และไม่มีแผนสำรอง เพราะวันนี้เราจะต้องให้เกียรติพรรคก้าวไกลก่อน พรรคเพื่อไทยจึงยังไม่สมควรที่จะมาพูดเรื่องนี้ ให้ดูกันวันที่ 13 กรกฎาคมก่อน ค่อยมาพูดคุยกันอีกครั้งเมื่อถามถึงประเด็นและเงื่อนไขหลักที่ ส.ว.จะไม่ยกมือให้ นายพิธา คือ เรื่องการแก้ไข ม.112 จุดยืนของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า วันที่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลแถลงข่าวในวันที่ 2 ก.ค. เราได้พูดคุยเรื่องข้อตกลงเอ็มโอยูกันแล้วว่า พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 และขอสงวนความเห็น หากจะหยิบยกเรื่องนี้มาพิจารณา ดังนั้น จุดยืนของพรรคเพื่อไทยมีความชัดเจนอยู่แล้ว เมื่อถามว่า มี ส.ว.ออกมาเตือนว่า หาก 8 พรรคร่วมฯ โหวตบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติจะเข้าข่ายผิดกฎหมายได้ พรรคเพื่อไทยมีความกังวลหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นดุลยพินิจของ ส.ว.แต่ละคน ซึ่งตนมองว่าเป็นเพียงการส่งสัญญาณออกมา และท้ายที่สุดแล้วเชื่อว่า ไม่ว่า ส.ส.หรือ ส.ว.ทุกคนมีวุฒิภาวะและดุลยพินิจที่จะตัดสินใจเองได้ เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าอาจจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นในวันโหวตนายกรัฐมนตรี หากครั้งแรกไม่ผ่าน เพราะจะมีมวลชนมาให้กำลังใจด้วย นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่กังวล ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย สามารถชี้แจงกับทุกฝ่ายได้ถึงที่มาที่ไปเมื่อถามถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมประชุมส่งเรื่องหุ้นไอทีวีของ นายพิธา ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 13 ก.ค. 8 พรรคร่วมฯ จะนำเรื่องนี้มาพูดคุยหรือไม่ หาก นายพิธา ถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้อยู่ในหัวข้อการพูดคุยในวันพรุ่งนี้ แต่หากดูจากข่าวคำร้องที่ กกต.จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงคำร้องที่ นายพิธา ยื่นไปยัง กกต. ขอให้มีการไต่สวนข้อเท็จจริงก่อนส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ตนเชื่อว่าเรื่องนี้ กกต.จะให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกร้องคือ นายพิธา และเชื่อว่าหากมีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา นายพิธา และพรรคก้าวไกลจะสามารถตอบคำถามและชี้แจงเรื่องนี้ได้ ตนจึงมั่นใจว่า ไม่กระทบกับวันที่ 13 กรกฎาคม การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจะยังคงดำเนินต่อไป ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลา 13.25 น. วันที่ 10 กรกฎาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าพรรคเพื่อร่วมประชุมวงเล็กถึงการรีแบรนด์พรรคเพื่อไทย พร้อมกล่าวว่า ไม่ขอออกความคิดเห็นถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมพิจารณาส่งเรื่องหุ้นไอทีวีของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และกรณีที่ กกต.เรียก นายพิธา เข้าชี้แจงแล้ววันนี้ ส่วนเรื่องอื่นขอให้รอฟังจากวงประชุมของ 8 พรรคร่วมฯ ในวันพรุ่งนี้ (11 กรกฎาคม).