
แกนนำราษฎร ฟันธง 13 ก.ค.หน้ารัฐสภาจะยังไม่มีม็อบ เพราะยังไม่ถึงเวลาเป็นแค่มวลชนไปลุ้นและให้กำลังใจ “พิธา” แต่ถ้าผลโหวตออกมาแล้วไม่ได้เก้าอี้นายกฯ เชื่อจะเกิดม็อบ “ออร์แกนิก” ไร้แกนนำ พรึบทุกจังหวัดเหมือนดอกเห็ด วันที่ 11 ก.ค. 2566 นายอานนท์ นำภา ทนายความศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน แกนนำม็อบราษฎร ให้สัมภาษณ์ในรายการ “เจาะลึกทั่วไทย inside thailand” ถึงข่าวการชุมนุมของมวลชน14 กลุ่มหน้ารัฐสภา ในวันที่ 13 ก.ค.ใจความสำคัญ ระบุว่า ถ้าเป็นข้อมูลจากหน่วยงานความมั่นคงจริง น่าจะเป็นการไปสอบถามส่วนตัวมากกว่า เพราะหลายกลุ่มที่ถูกระบุถึงยังไม่มีการประกาศจัดการชุมนุมเป็นทางการ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กลุ่มwevo หรือ คณะก้าวหน้า จึงยังไม่ตรงกับความจริงมากนัก ทั้งส่วนตัวเชื่อว่ายังเป็นส่วนน้อยของคนที่จะไป เพราะคนจำนวนมากที่จะไปจะไม่ได้สังกัดกลุ่มเหล่านี้ เป็นกลุ่มอิสระที่จะไปแบบ “ออร์แกนิก” ต่างคนต่างไปไม่ได้สังกัดกลุ่มใดมากกว่า โดยเฉพาะ 3 กลุ่มที่กล่าวถึง ถ้าจะไปคงไม่ได้เป็นไปในลักษณะการนำเพราะยังไม่ถึงเวลาที่จะออกมานำมวลชนตั้งเวทีปราศรัย “วันที่ 13 ก.ค. เงื่อนไขที่มวลชนจะไปให้กำลังใจนั้นมีพอ แต่การไปชุมนุมดุเดือด หรือเป็นการชุมนุมประท้วงจะยังไม่เกิดวันนั้น ทุกคนจะไปด้วยความหวังว่า ส.ว. และพรรคร่วมรัฐบาลจะโหวตให้นายพิธา เป็นนายกฯ ทั้งขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณพิเศษอะไรพิเศษที่จะคว่ำนายพิธาอย่างจริงจังมี ส.ว. ที่ออกมาบอกว่าจะคว่ำส่วนหนึ่งบอกว่าจะโหวตให้อีกส่วนหนึ่ง แต่ ส.ว.อีกส่วนหนึ่งที่ยังนิ่งๆ ยังมีอยู่ คนน่าจะไปฟังหรือไปลุ้นว่า ส.ว. ที่ยังนิ่งๆ อยู่คิดอย่างไรกับการโหวต ช่วงที่มีการโหวตและมีการประกาศชื่อผู้โหวตบรรยากาศคงยังสงบนิ่ง แต่ช่วงท้ายๆ เมื่อดูลาดเลาแล้วว่าจะได้หรือไม่บรรยากาศชุมนุมคงเปลี่ยนเล็กน้อยแต่คงไม่เปลี่ยนเป็นการชุมนุมดุดันขนาดนั้น” นายอานนท์ กล่าวว่า แต่ถ้าการโหวตไม่ผ่านแค่ครั้งเดียว ความไม่พอใจของคนจะปะทุขึ้นทันทีไม่เฉพาะใน กทม.แต่ในต่างจังหวัดด้วย การชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้เคารพเสียงประชาชนต้องมีแน่ๆ และให้ตัดแกนนำเสื้อแดงเสื้อเหลือหรือราษฎรออกไปเลย จะมีการนำกันเองแบบกลุ่มย่อยๆ ซึ่งจะยากต่อการจัดการของรัฐ ประเด็นอยู่ที่คนที่จะมาจัดการม็อบคือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯซึ่งมีประสบการณ์ในการสลายชุมนุมมาหลายครั้ง ดังนั้นเตือนว่าการชุมนุมครั้งนี้ต้องระวังด้วย ที่ได้เคยพูดคุยกับผู้ที่ทำหน้าที่จัดม็อบในช่วงการชุมนุมที่ผ่านมาประเมินว่า จะเป็นม็อบแบบที่เราคาดไม่ถึง แม้แต่หน่วยงานด้านความมั่นคงที่มาสอบถามตน ก็ยังประเมินไม่ถูก สิ่งที่ระมัดระวังคือวินาทีที่ผลโหวตออกมาว่านายพิธา ไม่ได้เป็นนายกฯ คืนนั้นทั้งคืน ในโซเชียลมีเดียต้องเดือด และวันรุ่งขึ้นต้องมีการจัดการชุมนุมแน่ๆ เพราะตรงกับช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ตนคิดว่าม็อบน่าจะผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดทั่วประเทศอีกครั้งเหมือนช่วงปี 63 โดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ๆ ที่มีมหาวิทยาลัยนายอานนท์ กล่าวอีกว่า จุดแตกหักจะใกล้เข้ามาถึงไม่ใช่เป็นฟางเส้นสุดท้าย แต่จะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ที่คนจะเห็นว่าบ้านเมืองไม่มีอนาคตแล้วต้องออกมาเรียกร้องชุมนุมแบบถอยไม่ได้ ทั้งเชื่อว่า ทหารจะไม่เลือกที่จะออกมา เพราะครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่มีคนมาใช้สิทธิมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เท่ากับจะเป็นการต่อสู้กับคนทั้งประเทศ การชุมนุมที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศจะเกิดขึ้นจากนี้หากไม่มีการเคารพเสียงประชาชน อย่างไรก็ตามจะต้องไม่สร้างเงื่อนไขให้ไปปะทะกับกลุ่มอำนาจนอกระบบที่มีอาวุธมากกว่าเราด้วย