วันเสาร์, 9 ธันวาคม 2566

เช็กเสียง ส.ว. ก่อนวันประชุมสภา จะโหวตเลือก "พิธา" เป็นนายกฯ หรือไม่

“เปิดปากกับภาคภูมิ” วิเคราะห์ต่อเนื่องการเมืองไทย แนวโน้วของ “พิธา” จะได้รับเสียงโหวตของ ส.ว.หรือไม่ ในวันประชุมสภาร่วม 13 ก.ค. ที่จะถึงนี้วันที่ 11 กรกฎาคม 2566 ในรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ” ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ได้พูดคุยกับ คุณศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระ และคุณกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา ในประเด็นโหวตเลือกนายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทยtt ttคุณศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระ เผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ตอนแรกตนคิดเหมือนกับประชาชนทั่วไป ว่าดูทรง ส.ว.น่าจะสกัดพิธาเยอะ แต่ทางก้าวไกลก็ย้ำว่าเสียงพอแน่นอน หากเขามั่นใจก็คงต้องฟังเขา เพราะในฐานะคนไทยก็เคยมีบทเรียนแล้วในตอนที่ก้าวไกลบอกว่าจะได้ ส.ส.เยอะ ซึ่งเขาก็พูดไม่ผิด คิดว่าคงจะเป็นไปได้ตามที่เขาพูดไว้ เพราะยืนยันหนักแน่นหากมีการสกัดพิธาจริง ตนคิดว่าต้องมีการเสนอนายกฯ แข่งพิธา แต่ตอนนี้ฝ่ายรัฐบาลขั้วเก่ายังไม่มีใครแสดงตัวอย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นถ้าจะสกัดพิธาต้องมีคนแข่ง ถ้าก๊อกแรกโหวตพิธาไม่ได้ จำเลยสังคมคือ ส.ว. แล้วคนที่หวังเป็นแทนก็จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ตามไปด้วย แล้วอาจจะไปต่อในก๊อกที่สอง ที่สามต่อ แต่ก็หวังว่าจะไม่ให้มันเป็นแบบนั้น เพราะมันจะกลับไปเป็นการเมืองแบบเก่า เพราะหลักการพื้นฐานคือ ประเทศต้องมีนายกฯ ที่มาจากเสียงข้างมาก ซึ่งประเทศไม่ควรถูกบริหารด้วยวิธีแบบนี้ tt ttหาก ส.ว.บอกว่าจะไม่โหวตให้ โดยยกเหตุผลต่างๆ ซึ่งตนว่า ส.ว. ไม่ควรเอาความคิดที่อยู่ในหัวของตัวเองมาตัดสิน เพราะเรื่องของกฎหมายต้องตัดสินและวิเคราะห์เอาตามกฎหมาย แล้วจะต้องโหวตตามหลักการ หาก ส.ว.งดออกเสียง อ้างรอศาลรับธรรมนูญพิจารณาคุณสมบัติ คือจะเอาเรื่องของการเลือกผู้นำประเทศไปขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญที่ยังไม่รู้ว่าจะพิจารณาหรือไม่นั้นไม่ได้ แต่ต้องยึดหลักการเอาไว้ว่า การเลือกนายกฯ ต้องเกิดขึ้น หาก ส.ว.ยืดเวลาออกไปเรื่อยๆ ก็แสดงว่าจะให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ไปเรื่อยๆ ซึ่งตนไม่เห็นด้วย หากจะโหวตต้องโหวตเลย หากมีปัญหาก็ไปตรวจสอบ เข้าตามกระบวนการปกติ จะเอามาเป็นข้ออ้างไม่ได้tt ttด้านคุณกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา เผยว่า จุดยืนของตน ไม่เปลี่ยนมีเหตุผลว่าคุณพิธาไม่เหมาะที่จะเป็นนายกฯ ของประเทศไทย เพราะตนเชื่อว่าคุณพิธา และพรรคก้าวไกล จะต้องมีคนสั่งการอยู่เบื้องหลัง สร้างความแตกแยกให้กับประเทศ และมีนโยบายสร้างความร้าวฉานให้กับประเทศ ตนเห็นว่าพรรคการเมืองที่สร้างความแตกแยก ไม่มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง การที่ได้คะแนนเลือกตั้งได้เยอะกว่า ตนไม่เถียง เพราะเป็นกระบวนการเลือกตั้ง แต่นักการเมืองควรรู้ว่าหลังจากการเลือกตั้งต้องมาเจอ ส.ว. ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้พิจารณาด้วย แล้วจะมาโทษกติกาที่เขียนไว้ก่อนแล้วไม่ได้ เพราะมี ส.ว.ไว้ตรงนี้ คือมีหน้าที่ไว้คัดกรองtt ttตนยืนยันว่าไม่เห็นชอบตามมาตรา 272 หากพรรคก้าวไกลจะประกาศว่าจะไม่มีการแก้กฎหมาย ม.112 แล้ว ตนก็ไม่โหวตให้แน่นอน เพราะไม่เชื่อ ส่วน ส.ว.ท่านอื่นตอนนี้ก็คงมีการตกผลึกและตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว จากที่ถามตอนนี้ร้อยละ 90 งดออกเสียง ส่วนฝ่ายที่หนุน ตนคิดว่ามี 5 คนแบบบวกลบ ฝากถึงประชาชนว่าจะเชียร์ใครก็เป็นตามระบบประชาธิปไตย และขอให้ดูการตัดสินใจของ ส.ว. ว่าจะติดสินใจถูกหรือตัดสินใจผิด ในวันที่ 13 ก.ค.ที่จะถึงนี้อย่างไรก็ตาม สามารถติดตามรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ” พร้อมกันได้ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 15.30 น. เป็นต้นไป ได้ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32.