วันเสาร์, 9 ธันวาคม 2566

วิเคราะห์การเมือง : ยกแรกคู่แข่งหลบหมด

พีกสุดๆ เรตติ้งกระฉูด ทุบสถิติละครน้ำเน่า นาทีนี้ไม่มีใครฮอตเท่า “หนุ่มทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่กำลังร้อนแรงยิ่งกว่าใครในทุกวงการจากปฏิบัติการเดินสายแห่กระแส “ด้อมส้ม” ไปตามหัวเมือง จัดคิวถี่ยิบแบบวันต่อวัน แถมยังแทรกโปรแกรมกลับมาออกรายการทีวีดัง ตามสคริปต์ปั่น “คู่จิ้น” กับดาราม่ายสาว “แอฟ ทักษอร”ทำ “ด้อมส้ม” แฟนคลับ “จิกหมอน” อินไปกับละครนอกจอทีมหามแห่ “พิธา” ดันคะแนนนิยมนอกสภา ขึ้นไปจุดสูงลิบลิ่ว ในจังหวะสอดรับกันพอดีกับคิวโหวต “นายกรัฐมนตรี” ในที่ประชุมร่วมรัฐสภา วันที่ 13 กรกฎาคมนี้tt ttตามยุทธการท้าวัดใจ บีบกดดัน ส.ส.และ ส.ว.ด้วยกระแสสังคมที่แน่ๆมาถึงตรงนี้ ยังไม่เห็นคู่ประกบมวยกับ “พิธา” ในเกมโหวตนายกรัฐมนตรีโฟกัส “ขั้วตรงข้าม” ยังไม่มีใครส่งสัญญาณท้าชิงแชมป์ ตรงกันข้าม มีแต่พวกที่ “โยนผ้า” ขอยอมแพ้ตั้งแต่หัวบันไดบ้าน อาการของค่ายรวมไทยสร้างชาติ คู่ต่อสู้หลักของพรรคก้าวไกล ไล่ตั้งแต่ “เสี่ยตุ๋ย” นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค “เสี่ยขิง” นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรคดาหน้าป่าวประกาศชัดๆ ย้ำแล้วย้ำอีกเป็นรอบที่เก้ารอบที่สิบไม่ส่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ทั้ง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายพีระพันธุ์ โหวตชิงเก้าอี้นายกฯแข่งกับนายพิธานั่นก็เพราะรู้ตัวดี แต้มหน้าตักมีอยู่แค่ 35 เสียงเท่านั้นที่สำคัญตัวอย่างมีให้เห็นแล้วจากคิวของนายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เสนอตัวลงชิงเก้าอี้รองประธานสภา แข่งกับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ของพรรคก้าวไกล ปรากฏคะแนนแพ้กันขาดแบบไม่เห็นฝุ่นไม่ใช่แค่ไม่ได้ลุ้นเท่านั้น แต่มันยังเหมือนประจานตัวเอง จากแต้มของอดีตพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันหายไปกว่า 70 เสียง สะท้อนสายสัมพันธ์ที่เปราะบางในหมู่แนวร่วมฝ่ายเดียวกันทีมเก่าของขั้ว 3 ป. ยังไม่เอาด้วยกับทีมของนายพีระพันธุ์นั่นไม่เท่ากับข่าววงในตรงกันทุกสาย ภายในค่ายรวมไทยสร้างชาติเองก็แตกกันเละ อารมณ์หมั่นไส้ของแก๊งนักเลือกตั้งอาชีพที่ไม่พอใจก๊วน กปปส.กุมสภาพการบริหารพรรคทั้งหมดแตกเป็นกองกำลังชนกลุ่มน้อย พร้อมกบฏมติพรรคตามธรรมชาตินักเลือกตั้งอาชีพที่ต้องวิ่งหาเกาะเกี่ยวฝ่ายคุมเกมอำนาจ ค่ายรวมไทยสร้างชาติ มีแววแตกเป็นเสี่ยงๆ ทางใคร ทางมันtt ttรอวันแยกย้าย ภายหลังส่ง “บิ๊กตู่” กลับบ้านในสถานการณ์ที่ก๊วน กปปส.เอง ยังจบไม่ได้ ตามผลแห่งคดีการชุมนุมโค่นกระดานอำนาจรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ปูทางให้ “ประยุทธ์” ทำรัฐประหาร ที่ทำให้ “ลุงกำนัน” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ หัวขบวนใหญ่ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีต “พุทธะอิสระ” นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายถาวร เสนเนียม นายชุมพล จุลใส ฯลฯ โดนศาลอาญาพิพากษาจำคุกถูกนำตัวเข้าไปขังในเรือนจำแล้ว 2 คืน ก่อนอนุญาตให้ประกันตัวสู้คดีถึงตรงนี้ อาการยังลูกผีลูกคน แนวโน้มจากคำตัดสินของศาลชั้นต้น เซียนกฎหมายประเมินตรงกัน ท้าวางเดิมพันชะตากรรม “ขาใหญ่ก๊วน กปปส.” ขายังก้าวไม่พ้นลูกกรงสภาพต้อง “ลุ้นกันฉี่เหนียว” สังเกตเลยว่า เฮี้ยวไม่ออก นอกจากตัวจี๊ดอย่าง “พุทธะอิสระ” ที่ยังเปิดหน้ามาล่อเป้าด้อมส้ม นอกนั้น อารมณ์แกนนำ กปปส. ส่วนใหญ่เลือกเก็บตัว ซุ่มเงียบ ไม่หือไม่อือทางการเมืองแต่ลึกๆต้องดิ้นสู้คดีกันสุดกำลัง ดิ้นหนีคุกกันสุดแรงเกิดตามท้องเรื่อง การหักล้างข้อกฎหมายก็เหนื่อยแล้ว ยังส่อแวว “ตกม้าตาย” ได้ โดยที่ระดมทีมทนายความทั่วฟ้าเมืองไทยมาช่วยกันสู้คดี มีหวังพังหมดกับปมปริศนา “ความรักของแม่” ส่อทำลูกตายยกแก๊งเหมือนรู้ชะตา แข้งขาอ่อนหมดแรงไปตามๆกัน.ทีมข่าวการเมือง