เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธทิ้งตัวไม่ทราบประเภทตกในทะเลตะวันออกในวันนี้ หลังจากเกาหลีเหนือกล่าวหาสหรัฐฯ ว่าส่งเครื่องบินสอดแนมเมื่อไม่กี่วันก่อนเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยไกลนอกชายฝั่งตะวันออกเมื่อวันพุธ ขณะที่ผู้นำเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเตรียมหารือนอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำนาโตในลิทัวเนีย เพื่อหารือเกี่ยวกับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงเกาหลีเหนือที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์การยิงครั้งล่าสุดมีขึ้นหลังจากเกาหลีเหนือกล่าวตำหนิอย่างรุนแรงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่าเครื่องบินสอดแนมของสหรัฐฯ ละเมิดน่านฟ้าในเขตเศรษฐกิจของตน และประณามสหรัฐฯ ที่ส่งเรือดำน้ำติดขีปนาวุธร่อนพลังงานนิวเคลียร์มายังเกาหลีใต้ครั้งล่าสุดหน่วยยามฝั่งของญี่ปุ่นกล่าวว่า สิ่งที่เชื่อว่าเป็นขีปนาวุธดูเหมือนจะตกในช่วงเช้าตรู่ ก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่ากระสุนปืนจะตกนอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น และห่างจากคาบสมุทรเกาหลีไปทางตะวันออกประมาณ 550 กม. สถานีโทรทัศน์อาซาฮี รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่กลาโหมของญี่ปุ่นว่า ขีปนาวุธดังกล่าวบินเป็นเวลา 74 นาที ที่ระดับความสูง 6,000 กม. และพิสัย 1,000 กม. ซึ่งเป็นระยะเวลาการบินที่ยาวนานที่สุดสำหรับขีปนาวุธของเกาหลีเหนือนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ ซึ่งอยู่ในลิทัวเนียเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มนาโต ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลและเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด และคาดว่าผู้นำญี่ปุ่นจะพบกับประธานาธิบดียูน ซุก ยอลของเกาหลีใต้ในวันนี้ (12 ก.ค. 66) และนายฮิโรคาสุ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่น กล่าวว่า มีการวางแผนการประชุมสุดยอดร่วมกับเกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เขากล่าวว่า การยิงดังกล่าวคุกคามสันติภาพและเสถียรภาพของทั้งภูมิภาคและประชาคมระหว่างประเทศ และญี่ปุ่นได้ยื่นประท้วงผ่านช่องทางการทูตในกรุงปักกิ่งในปีนี้ เกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปเชื้อเพลิงแข็ง (ICBM) เป็นครั้งแรก และประสบความล้มเหลวในการส่งดาวเทียมสอดแนมดวงแรก มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติห้ามเกาหลีเหนือใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธ รวมถึงการยิงดาวเทียม โดยคณะมนตรีความมั่นคงและหลายประเทศได้กำหนดบทลงโทษเกาหลีเหนือสำหรับโครงการขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์นักวิเคราะห์กล่าวว่า ภาพถ่ายเชิงพาณิชย์จากดาวเทียมแสดงให้เห็นว่า เกาหลีเหนืออาจจะจัดการแสดงแสนยานุภาพทางทหาร รวมถึงขบวนพาเหรดขนาดใหญ่ ในวันที่ 27 กรกฎาคม ซึ่งเป็นการรำลึกถึงการอ้างชัยชนะในสงครามเกาหลีระหว่างสหรัฐฯ เกาหลีใต้ ปี 2493-2496 และพันธมิตรของพวกเขาสำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า คิม โย จอง น้องสาวของนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเนือ กล่าวหาว่า เครื่องบินสอดแนมของกองทัพสหรัฐฯ เข้าเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศถึง 8 ครั้งเมื่อวันอังคาร ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า คำแถลงคัดค้านของคิม โย จอง ต่อเครื่องบินตรวจการณ์ของสหรัฐฯ เป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบที่เกาหลีเหนือใช้ในการขยายภัยคุกคามจากภายนอก เพื่อระดมการสนับสนุนภายในประเทศและสร้างความชอบธรรมให้กับการทดสอบอาวุธ.