
รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก ไขข้อข้องใจ หาก “พิธา” ต้องยุติปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. จากปมถือหุ้นสื่อ “ไอทีวี” สภา ยังโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกหรือไม่ จับตา ม็อบล้อมสภา พรุ่งนี้ อาจมีการยกระดับวันที่ 12 ก.ค. รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก อดีตกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวกับทีมข่าวการเมืองไทยรัฐออนไลน์ ถึงกรณี สมมติหาก ศาลรธน.สั่งยุติปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ คนที่ 30 จริง แล้ววันพรุ่งนี้ (13 ก.ค.) สภาโหวตเลือกนายพิธาผ่าน 376 เสียงได้เป็นนายกฯ ถือว่า ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วใช่หรือไม่ว่า สมมติถ้าวันพรุ่งนี้สภาเกิดโหวตเลือกคุณพิธาเป็นนายกฯ จริง ก็ต้องถือว่า คุณพิธา “เป็นนายกรัฐมนตรีที่ถูกเลือกโดยสภา” แต่ยังต้องผ่านขั้นตอนอื่นๆ อีก อาทิ ประธานสภาจะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ และก็ต้องมีโปรดเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีลงมา และยังต้องทำการถวายสัตย์ปฏิญาณอีก ถึงจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้โดยสมบูรณ์ ดังนั้น หากวันพรุ่งนี้ สภามีมติเลือกคุณพิธาเป็นนายกฯ จริง จึงต้องใช้ชื่อ “เป็นผู้ถูกเลือกเป็นนายกฯ โดยสภาก่อน”อย่างไรก็ตาม หากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นจริง รศ.ดร.เจษฎ์ กล่าวว่า ทางสภาเองก็ต้องกลับมาคิด จะเสนอชื่อคุณพิธา เป็นนายกฯ หรือไม่ และอาจเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทหรือไม่ส่วนหากศาล รธน.มีมติ นายพิธา ขาดคุณสมบัติเป็น ส.ส. ในภายหลัง (หลังพิธาได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว) ก็จะกลายเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ หลุดจากความเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องรอให้ไปถึงกระบวนการนั้นเสียก่อน ส่วนตัวเชื่อว่า ศาล รธน. ท่านก็ทราบดี คิดว่า คดีนี้จึงต้องตัดสินเร็วส่วนคำถามว่า เมื่อมติ กกต.ส่งศาล รธน. ปมถือหุ้น ไอทีวี “พิธา” ไปแล้ว พรุ่งนี้ม็อบจะรุนแรงหรือไม่ รศ.ดร.เจษฎ์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่า ม็อบอาจจะมีการยกระดับก็เป็นไปได้ และอาจไม่ได้มาล้อมสภาไว้เฉยๆเหมือนที่เป็นข่าวตอนแรก อาจจะยกระดับเป็นม็อบ ต่อต้าน ประท้วง ก็เป็นไปได้ พรุ่งนี้จึงต้องรอดู