งานวิจัยต่างชาติชี้ มูลค่าความสุขของคนไทยอยู่ที่ ๑.๓ ล้านบาทต่อปี

งานวิจัยต่างชาติชี้ คนไทยต้องการเงินประมาณ ๑.๓ ล้านบาท เพื่อซื้อความสุขให้ตัวเองใน ๑ ปี เมื่อวันที่ ๑๔ ก.ย. ๒๕๖๖ สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน S Money ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ได้เผยแพร่งานวิจัย ว่าด้วยคนในแต่ละประเทศต้องมีเงินเท่าไหร่ เพื่อให้ตัวเองมีความสุขใน ๑ ปี โดยคนไทยต้องใช้เงินเฉลี่ย ๓๖,๗๔๕ ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ ๑.๓๒ ล้านบาท เพื่อทำให้ตัวเองมีความสุขใน ๑ ปีงานวิจัยนี้ได้สำรวจทั้งหมด ๑๗๓ ประเทศ เพื่อหาว่าประชากร ๑ คน ควรจะต้องมีรายได้ หรือมีเงินเท่าไรในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขใน ๑ ปีโดยประเทศที่ใช้เงินซื้อความสุขสูงที่สุด คือ อิหร่าน ที่ ๒๓๙,๗๐๐ ดอลลาร์ (๘.๕๘ ล้านบาท) ซึ่งเป็นผลจากการที่อัตราเงินเฟ้อของประเทศพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ ทำให้ค่าครองชีพในอิหร่านปรับตัวขึ้นถึง ๗๐% ตามมาด้วย เยเมน ๑๗๒,๑๔๐ (๖.๑๖ ล้านบาท) ออสเตรเลีย ๑๒๑,๑๙๑ ดอลลาร์ (๔.๓๓ ล้านบาท) และนอร์เวย์ ๑๑๗,๗๒๔ ดอลลาร์ (๔.๒๑ ล้านบาท)ขณะที่ประเทศที่สามารถเข้าถึงความสุขได้ถูกที่สุด คือ เซียร์ราลีโอน ที่มูลค่าความสุขอยู่ที่ ๘,๖๕๘ ดอลลาร์ (๓๑๐,๐๐๐ บาท) ต่อปี ตามมาด้วยประเทศซูรินาม ๑๐,๒๕๕ ดอลลาร์ (๓๖๗,๐๐๐ บาท) และมาดากัสการ์ ๑๑,๓๕๕ ดอลลาร์ (๔๐๗,๐๐๐ บาท) ทั้งนี้ ประเทศ ๑๐ อันดับแรกที่ใช้เงินสร้างความสุขน้อยที่สุด กระจุกตัวในทวีปแอฟริกา อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ ข้อมูลจาก WorldData ระบุ ค่าครองชีพในกลุ่มประเทศแอฟริกาตะวันตก ต่ำกว่าค่าครองชีพในสหรัฐถึง ๗๒%ในส่วนของเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิงคโปร์เป็นประเทศที่ใช้เงินซื้อความสุขมากที่สุดในภูมิภาค ที่ ๗๕,๓๒๐ (๒.๗ ล้านบาท) ดอลลาร์ต่อปี ตามมาด้วยบรูไน ๕๑,๕๐๘ ดอลลาร์ (๑.๘ ล้านบาท) และมาเลเซีย ๓๘,๗๔๙ ดอลลาร์ (๑.๓๙ ล้านบาท) ส่วนประเทศที่จำนวนเงินสำหรับสร้างความสุขให้ตัวเองน้อยสุด คือ ลาว ๒๒,๒๙๖ ดอลลาร์ (๘๐๐,๐๐๐ บาท) และเมียนมา ๒๖,๐๓๘ ดอลลาร์ (๙๓๐,๐๐๐ บาท).ติดตามข่าวต่างประเทศได้ที่ : https://www.thairath.co.th/news/foreignที่มา : Dailymail