กลุ่มผู้เสียหายที่ซื้อทุเรียนในเพจ ร้องตำรวจไซเบอร์ถูกหลอกเสียเงินหลักร้อนถึงหลักพันรวมแล้วเป็นหลักล้าน หลังหลงเชื่อซื้อทุเรียนที่โพสต์ขายแจ้งความแล้วก็เงียบทำให้มิจฉาชีพได้ใจ สร้างเพจปลอมหลอกประชาชนนับ ๑๐ เพจ เผยอยากช่วยเหลือเกษตรกร แต่พอถูกหลอกก็ไม่กล้าซื้ออีกเวลา ๐๙.๓๐ น. วันที่ ๑๕ ก.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นางลักษณะพรรณ เจริญวิศาล อายุ ๗๐ ปี อยู่ซอยรามอินทรา๑๔ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. พร้อมด้วยนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม และกลุ่มผู้เสียหายอีก ๕ คน เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. เพื่อให้เร่งรัดคดีจากกรณีถูกมิจฉาชีพเปิดเพจขายทุเรียนผ่านเฟซบุ๊ก หลังจากโอนเงินไปแล้วกลับไม่ได้รับทุเรียน ซึ่งมีผู้เสียหายนับร้อยรายหลงเชื่อ และยังมีผู้เสียหายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง มูลค่าความเสียหายนับล้านบาท โดยมี พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ตอท.) เป็นตัวแทนรับเรื่องนางลักษณะพรรณ ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหาย กล่าวว่า ได้สั่งซื้อทุเรียนจากเพจ Shark Chanthaboon จำนวนเงิน ๘๙๕ บาท แต่ไม่ได้รับทุเรียน จึงแจ้งความไว้ที่ สถานีตำรวจนครบาลบางเขน เมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคมที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้า จากการตรวจสอบเพจของกลุ่มมิจฉาชีพพบว่าเปิดมานานกว่า ๒ ปี มีการลงขายทุเรียนแล้วยังมีการลงขายสินค้าอีกหลายอย่าง ที่ผ่านมามีการตรวจสอบทั้งยอดไลฟ์ ยอดวิว คอมเมนต์ต่างๆ รวมถึงเลขบัญชีที่จะโอนติดแบล็กลิสต์หรือไม่แต่ก็ไม่พบว่าติดแบล็กลิสต์ จึงทำให้มั่นใจและตัดสินใจซื้อ แต่เมื่อโอนเงินไปคนร้ายกลับบล็อกเฟซบุ๊ก และติดต่อไม่ได้อีกเลย ทราบว่ามีผู้เสียหายนับร้อยรายในการติดต่อสั่งซื้อส่วนเพจอื่นๆ ที่มีการขายในลักษณะเดียวกันจากการตรวจสอบเชื่อว่าเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกันเนื่องจากข้อมูลการลงขายคล้ายๆ กัน รูปที่เอามาลงคล้ายๆ กัน ที่ผ่านมาตนก็ซื้อสินค้าทางการเกษตรผ่านช่องทางออนไลน์บ่อยครั้ง เพราะถือว่าเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรไทยอีกทาง แต่พอมีการมาหลอกขายแบบนี้จะทำให้คนไม่กล้าซื้อสินค้าทางการเกษตรอีกเลยด้านนายรณณรงค์ กล่าวว่า ตอนนี้มีเพจเฟซบุ๊กปลอมเกี่ยวกับการซื้อขายทุเรียนออนไลน์ระบาดหนักมากมีผู้เสียหายเป็นพันราย เฉพาะผู้เสียหายที่รวมตัวกันได้ก็หลายร้อยคน หลังมีการเผยแพร่ทางสื่อมวลชนออกไปก็มีผู้เสียหายแจ้งเข้ามาเรื่อยๆ มูลค่าความเสียหายตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพันบาท ทำให้คนร้ายย่ามใจก่อเหตุซ้ำๆ พอไปแจ้งความก็ไม่มีความคืบหน้า จนมิจฉาชีพกลุ่มนี้มีการไปสร้างเพจปลอมขึ้นมาหลอกประชาชนเป็น ๑๐ เพจ วันนี้จึงอยากให้ทางตำรวจไซเบอร์รวบรวมคดีที่เคยมายื่นก่อนหน้านี้แล้วจับกุมคนร้ายรายนี้ให้ได้ เพราะเชื่อว่าเพจที่มีการหลอกในลักษณะนี้เป็นกลุ่มเดียวกัน ซึ่งหากมีการจับกุมแล้วก็จะทำให้ประชาชนถูกหลอกน้อยลง จึงอยากให้ทางตำรวจไซเบอร์ทำการขยายผลจับกุมกลุ่มคนร้ายรายนี้เพราะเราไม่ต้องการให้มีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นรายวัน ข้อสังเกตที่ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อคือการลงขายในราคาปกติทำให้ไม่มีข้อสงสัยด้าน พล.ต.ต.ชูศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะนำคดีทั้งหมดมาวิเคราะห์ว่ามีความเชื่อมโยงกันอย่างไร ที่ผ่านมาก็มีเพจขายทุเรียนปลอมเกิดขึ้นมาหลายเพจ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นการปลอมขายทุเรียนระยอง จันทบุรี แต่ตอนนี้หันมาปลอมเพจทุเรียนทางใต้ หรือปลอมมาขายตามฤดูกาล อยากฝากเตือนไปยังประชาชนทั่วไปการจะซื้อสินค้าทางเฟซบุ๊กให้ตรวจสอบจุดสีน้ำเงิน หรือบลูเช็กที่หน้าเพจ ซึ่งเป็นการยืนยันตัวตนจากเฟซบุ๊ก หรือตรวจสอบดูความโปร่งใสว่าเพจมีการเปิดมานานมากน้อยเพียงใด มีรายละเอียดเบอร์โทรติดต่อและที่ตั้ง เป็นหลักแหล่งหรือไม่ เพื่อป้องกันการถูกหลอก ส่วนรายชื่อบัญชีม้าที่นำมาให้ก็จะนำไปตรวจสอบ ซึ่งการเป็นบัญชีม้าก็จะมีความผิดเช่นกัน
ผู้เสียหายแห่ร้อง ตำรวจไซเบอร์ มิจฉาชีพทำเพจปลอม หลอกขายทุเรียน
เรื่องที่เกี่ยวข้อง