“บิ๊กเด่น” ผบ.ตำรวจชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของ ๔ ตำรวจศูนย์ ควบคุมจราจร ด่วน ๒ กก.๒ บก. จร. ส่ง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. มาเป็นตัวแทนมอบเงินรางวัลเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ หลังจับกุมหนุ่มจีนก่อเหตุใช้เชือกมัดมือมัดขาสาวสวยเพื่อนร่วมชาติหวังพาไปกดเงินที่บังคับรีดเอาจากเหยื่อไว้ได้บนทางด่วน ขณะที่ ผบก.น.๑ ระบุขณะนี้ผู้ต้องหารับสารภาพทุกข้อหา ตรวจสอบไม่พบประวัติการกระทำผิด เตรียมคุมตัวไปฝากขัง ๑๖ กันยายนกรณีตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลทางด่วน ๒ จับกุมนายจ้าว วู่ หลิน อายุ ๓๖ ปี ชาวจีน พนักงานขับรถในประเทศดูไบ หลังก่อเหตุมอมเหล้ารีดทรัพย์หญิงสาวชาวจีน อายุ ๒๗ ปี ที่ทำงานเป็นเอเย่นต์พาลูกค้าไปทำศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลีใต้ เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ ๑๓ ต่อเนื่องวันที่ ๑๔ ก.ย. ก่อนถูกตำรวจจับกุมได้ขณะหน่วงเหนี่ยวกักขังเหยื่อด้วยการใช้เชือกมัดมือมัดเท้ายัดใส่เบาะหลังรถเก๋ง โตโยต้า ยาริส เพื่อให้หญิงสาวพาไปกดเงินที่ข่มขู่รีดได้จากเหยื่อ กระทั่งเกิดอุบัติเหตุนายจ้าว วู่ หลิน ขับรถไปเสยท้ายรถคันอื่นบนทางด่วน ทำให้เหยื่อแก้มัดวิ่งหนีออกจากรถมาขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดีจนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา ๑๑.๐๐ น. วันที่ ๑๕ ก.ย. พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.๑ เปิดเผยว่าคดีนี้นายจ้าว วู่ หลิน ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลมักกะสัน ดำเนินคดีฐานเรียกค่าไถ่ หน่วงเหนี่ยวกักขัง ทำให้สูญเสียอิสรภาพ ทำร้ายร่างกาย และความผิดทางเพศ ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหากระทำอนาจารไว้ก่อน หากผลตรวจของแพทย์ ระบุว่ามีการล่วงละเมิดทางเพศจะแจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราต่อไป เตรียมคุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังในวันที่ ๑๖ ก.ย. นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนจะทำเรื่องถึงพนักงานอัยการ เพื่อขอสืบพยานล่วงหน้า เนื่องจากผู้เสียหายมีอาชีพเป็นเอเย่นต์พาคนจีนไปทำศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลีใต้ มักเดินทางไปต่างประเทศบ่อยเห็นควรให้มีการสืบพยานล่วงหน้าไว้ก่อนพล.ต.ต.อัฏธพรเผยต่ออีกว่า คดีนี้ตำรวจให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ในฐานะที่เราเป็นเจ้าบ้าน ต้องดูแลตรวจสอบไม่ให้มีชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมเข้ามาก่อเหตุในประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ถือเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยและเตรียมรับนโยบายรัฐบาลที่สนับสนุนการท่องเที่ยว ตามมาตรการฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวชาวจีนและคาซัคสถานที่จะประกาศใช้ในวันที่ ๒๕ กันยายน๖๖-กุมภาพันธ์๖๗ ประชาสัมพันธ์หากพบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยให้แจ้งตำรวจเพื่อไปตรวจสอบอย่างทันท่วงทีมีรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ ๑๔ กันยายนตำรวจ บก.สส. บช.น. ตำรวจ กก.สส.บก.น.๑ และชุดสืบสวน สน. มักกะสัน คุมตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดที่ร้านหมูกระทะ ในซอยรามคำแหง ๖๕ เป็นจุดที่ผู้ต้องหาและผู้เสียหายนัดพบรับประทานอาหารกัน จากนั้นได้พาไปตรวจค้นห้องพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในซอยรามคำแหง ๘๑ เป็นห้องที่ผู้ต้องหาพักอาศัยและใช้เป็นที่กระทำความผิดครั้งนี้ และห้องพักของเหยื่อในคอนโดมิเนียม ย่านอโศกมนตรี ทุกจุดมีเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจเก็บหลักฐานไว้อย่างละเอียด เบื้องต้นยังไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใดมีรายงานว่า วันเดียวกัน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผบช.ประจำ สนง.ผบ.ตำรวจในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) เดินทางมายังศูนย์ควบคุมจราจร ด่วน ๒ กก.๒ บก.จร.(สถานีตำรวจนครบาลทางด่วน ๒) เพื่อตรวจเยี่ยม มอบสิ่งของบำรุงขวัญ มอบเงินรางวัล เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือหญิงสาวชาวจีนที่ถูกเรียกค่าไถ่ โดยสามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างทันท่วงทีให้แก่ ร.ต.ต.อาทิตย์ วรรณพราหมณ์ รอง สว.จร. ศูนย์ควบคุมจราจรด่วน ๒ กก.๒ บก.จร. ส.ต.อ.ปวรินทร์ ภูชัน ส.ต.อ.เกริกเกียรติ อุทัยคำ และ ส.ต.อ.ณัฐพงษ์ จันทร์ส่งแสง ตำรวจศูนย์ควบคุมจราจร ด่วน ๒ บก.จร. การปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่อย่างตำรวจมืออาชีพ มีทักษะ ไหวพริบ ความคล่องแคล่ว เป็นที่พึ่งและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
เรื่องที่เกี่ยวข้อง