เปิดปากกับภาคภูมิ คุยกับอดีตมือปราบ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร หรือ “มือปราบขุนดง” เผยมุมมอง และถอดบทเรียน “คดีกำนันนก” แนะให้การไปตามข้อเท็จจริงเมื่อเวลา ๑๕.๓๐ น. วันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๖ ในรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ” ทางไทยรัฐทีวี ช่อง ๓๒ ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ได้พูดคุยกับแขกรับเชิญ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เจ้าของฉายา “มือปราบขุนดง” มาพูดคุยถึงประเด็นดังอย่าง “คดีกำนันนก” ซึ่งความคืบหน้าของคดีดังกล่าวพบว่า มีข้าราชการตำรวจที่เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา ๑๕๗ และให้การเท็จต่อพนักงานสอบสวน จึงต้องดำเนินคดีกับตำรวจทุกนายที่มีพฤติกรรมกระทำผิด ๑๔ นาย เป็นกลุ่มตำรวจที่ไม่ให้การช่วยเหลือสารวัตรแบงค์ และรองผู้กำกับวศิน ถูกดำเนินคดีในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา ๑๕๗ ส่วนข้อหาแจ้งความเท็จ หรือให้การเท็จนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณา รวมถึง พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ “ผกก.เบิ้ม” ก็ถูกดำเนินคดีในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วยเช่นกัน แต่เนื่องจากเสียชีวิตไปแล้ว พนักงานสอบสวนจะระบุท้ายสำนวนว่าเสียชีวิตเกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ท.เรวัช กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นคลิปจากกล้องวงจรปิด แต่การจะแจ้งข้อกล่าวหาใครว่า ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ต้องเริ่มดูตั้งแต่เสียงปืนดัง มีเหตุเกิดขึ้นว่าใครทำอย่างไร เรื่องนี้จะฟ้องด้วยภาพ ถ้าใครไม่ปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องแจ้งข้อกล่าวหา หากไม่แจ้ง พนักงานสอบสวนก็จะมีความผิดไปด้วย เมื่อเกิดเหตุสารวัตโดนยิง คนที่วิ่งเข้าไปช่วยเหลือ ถือว่าไม่ได้เข้าจับกุมคนร้ายแต่แรกเป็นการช่วยเหลือคนเจ็บส่งโรงพยาบาล คนกลุ่มนี้รอด ส่วนคนที่แตกฮือหนีไปแล้วกลับมาเยี่ยม จะมาอ้างด้วยไม่ได้พล.ต.ท.เรวัช กล่าวอีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ตนไม่รู้สึกอนาถใจ ที่ออกมาพูดเพราะมันจุกอก ตำรวจไปงานแล้วโดนยิง ถ้าไปคนเดียวแล้วโดนยิงไม่เท่าไร แต่นี่ตำรวจนั่งกันเป็นกลุ่ม แบบนี้ชาวบ้านจะพึ่งใครได้ แถมตำรวจยังพาคนร้ายหนีอีก เรื่องนี้เสื่อมเสียมาที่องค์กร เสื่อมเสียศักดิ์ศรีอย่างมาก เท่าที่ทราบ สารวัตรศิว ที่ไปร่วมงานเลี้ยงเพราะเหมือนเขาเชิญให้ไป จำเป็นต้องไป ส่วนเรื่องที่ ผบ.ตำรวจโยกคดีไปอยู่ที่ตำรวจกองปราบ มองว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นคดีใหญ่ แล้วพิจารณาว่าผู้ต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพล พล.ต.ท.เรวัช กล่าวว่า คดีกำนันนกนั้นสร้างความเดือดร้อนไปทั้งนครปฐม หลายคนที่เกี่ยวข้องก็เครียดแล้ว เพราะนายกฯ มีคำสั่งให้ทลายเครือข่ายฮั้วประมูล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนเรื่องที่ “บิ๊กโจ้ก” หรือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ไม่ได้เปิดเผยภาพกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุต่อสังคม ไม่สามารถพูดอะไรได้มาก ตนเห็นด้วย เพราะกล้องวงจรปิดถือเป็นพยานวัตถุที่สำคัญมาก สามารถนำไปหักล้างคำให้การในศาลได้เรื่องนี้ต้องสู้คดีกันยาว รวมแล้วประมาณ ๖ ปี ซึ่งศาลจะมองว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้บริสุทธิ์ไว้ก่อน ซึ่งเรื่องนี้เป็นการยิงตำรวจ แนะนำว่าสร่างเมาแล้วต้องรีบมามอบตัว ส่วนที่ถามว่า ทำไมไม่ประกันตัว เพราะอยู่ในคุกปลอดภัย หากได้ประกันตัวไม่รู้ว่าจะกลับถึงบ้านไหม แนะนำว่า ให้การไปตามข้อเท็จจริง สำนึกแล้วออกมาช่วยสังคม ไม่มีใครไม่เคยพลาด แต่กำนันนกได้พลาดในเรื่องที่ใหญ่มาก.
ถอดบทเรียน "คดีกำนันนก" สะเทือนหลายฝ่าย จากปากมือปราบขุนดง (คลิป)
เรื่องที่เกี่ยวข้อง