วันศุกร์, 29 กันยายน 2566

ด.ช.ม.๑ จยย.ชนเสาป้ายสัญญาณดับ เผยพระเคยทัก จะอยู่ไม่ถึงอายุ ๒๐

19 ก.ย. 2023
14

Image
เด็กชายวัย ๑๓ ปี นักเรียน ม.๑ ที่ราชบุรี ขี่จยย.กลับบ้าน แหกโค้งพุ่งชนเสาป้ายบอกสัญญาณ เสียชีวิตคาที่ มีหมวกกันน็อกตกอยู่ข้างๆ พ่อบอกพระเคยทัก ลูกชายจะอยู่ไม่ถึงอายุ ๒๐ ปี แต่ไม่คิดว่าจะไปเร็วขนาดนี้  เวลา ๑๖.๔๕ น. วันที่ ๑๙ ก.ย. ๖๖ ร.ต.อ.ณัฐพล เพียรพิทักษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถ จยย.ล้มเอง จนมีนักเรียนชายชั้น ม.๑ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ๑ ราย บริเวณโค้งซอยบ้านเตาปูน ๘ หมู่ ๔ ต.บ้านไร่ อ.เมือง จ.ราชบุรี หลังรับแจ้งเหตุจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวร รพ.ราชบุรี และจนท.มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ ราชบุรีที่เกิดเหตุพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟไอ สีแดง ทะเบียน ๑ กฮ ๓๕๒ ราชบุรี ล้มคว่ำ ชิ้นส่วนรถกระจัดกระจายไปคนละทิศทาง ใกล้กันบนเกาะกลางถนนพบร่างเด็กนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนในเขตเทศบาลเมืองราชบุรี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตในสภาพสวมใส่เสื้อนักเรียน ทราบชื่อต่อมาคือ ด.ช.ชนาธิป อายุ ๑๓ ปี ชาว ต.คุ้งกระถิน อ.เมือง จ.ราชบุรี สภาพศพกระดูกหักผิดรูปทั่วทั้งตัว และมีบาดแผลฉกรรจ์ตามร่างกายหลายแห่ง นอกจากนี้ยังพบหมวกกันน็อกและกระเป๋านักเรียนตกอยู่ที่พื้นถนน ใกล้ศพมีเสาปูนบอกสัญญาณทางเลี้ยว และเสาไฟแตกหักงอพังเสียหาย ต่อมาพ่อและแม่ของเด็กที่เสียชีวิตได้เดินทางมาดูศพ เมื่อเห็นได้กอดศพลูกจนเป็นลม โดยพ่อให้ข้อมูลว่า ลูกชายขี่รถ จยย.ไปกลับโรงเรียน โดยใช้เส้นทางบ้านคุ้งกระถิน แต่วันนี้ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมลูกชายขับรถมาเส้นทางนี้ ลูกชายเป็นเด็กขยัน ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์จะทำงานพิเศษ ช่วยตนทำงาน เอารายได้ที่ได้จากการทำงานเป็นค่าใช้จ่ายที่โรงเรียน โดยไม่เคยขอเงินจากพ่อแม่ ที่ผ่านมาเคยมีพระทักไว้ว่า “น้องจะมีอายุไม่ถึง ๒๐ ปี ให้ไปทำบุญเยอะๆ” ตนก็พยายามพาไปทำบุญ และไม่คิดว่าน้องจะไปเร็วขนาดนี้ขณะที่เพื่อนรุ่นพี่ให้ข้อมูลว่า หลังเลิกเรียนได้ชวนกับไปหาเพื่อนที่เรียนอยู่ใน อ.วัดเพลง ซึ่งเป็นเขตรอยต่อ โดยน้องที่เสียชีวิตได้ขับรถนำหน้ามาคนเดียว จนมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง ก็พบร่างของน้องนอนอยู่เกาะกลางถนน จึงรีบลงไปช่วยเหลือ โดยมีชาวบ้านในพื้นที่โทรแจ้งตำรวจ แต่พบว่าน้องเสียชีวิตแล้วเบื้องต้นตำรวจได้ทำบันทึกที่เกิดเหตุ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่ศูนย์นิติเวช รพ.ราชบุรี พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อถึงผู้ปกครองให้หมั่นเตือนน้องๆ นักเรียนไม่ให้ขับขี่รถเร็ว เพราะที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่พยายามกวดขันบังคับให้สวมใส่หมวกกันน็อก แต่ยังพบอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนจนถึงขั้นเสียชีวิตแม้สวมหมวกกันน็อก เนื่องจากส่วนใหญ่ชอบขับขี่รถเร็ว และชอบแข่งกัน.