ยึดทรัพย์คนจีน ลงทุนเงินดิจิทัล เตรียมคืนเหยื่อ จํานวน ๑,๒๐๐ ราย ประเดิมคดีแรก

เหยื่อคดี “ไฮบริด สแกม” เฮลั่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ ปปง.เตรียมเฉลี่ยคืนทรัพย์ให้ผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงลงทุนสกุลเงินดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มปลอม BCHGLO BALLTD.com หลังพบคนร้ายเจ้าของกระเป๋าเงินตัวจริงเป็นหนุ่มชาวจีน สั่งยึดอายัดทรัพย์สิน ทั้งคอนโด บ้านหรู รถยนต์ และอื่นๆ มูลค่ากว่า ๒ พันล้านบาท เผยแค่วันแรกมีผู้เสียหายในคดีกว่า ๑,๒๐๐ ราย ทั้งทหาร หมอ พยาบาล พระสงฆ์ มาลงทะเบียนที่ บช.สอท.ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อเวลา ๑๐.๓๐ น.วันที่ ๑๘ ก.ย. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. และผู้แทนฝ่ายกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ร่วมแถลงรับคำร้องขอคุ้มครองสิทธิ์เพื่อเฉลี่ยทรัพย์คืนผู้เสียหายในคดี Hybrid Scam จากสถิติรับแจ้งความออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม๖๕ -๑๒ กันยายน๖๖ มีคดีที่แจ้งความแล้วกว่า ๓๒๖,๙๙๒ คดี มูลค่าความเสียหาย ๔๕,๒๔๕ ล้านบาท คดีที่เป็น Hybrid Scam (หลอกให้เชื่อใจไว้ใจแล้วชักชวน) ๓,๒๘๐ คดี มูลค่าความเสียหาย ๒,๗๐๐ ล้านบาทพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า คนร้ายใช้วิธีการชักชวนผู้เสียหายให้ลงทุนสกุลเงินดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มปลอม BCHGLOBALLTD. com ให้ผู้เสียหายซื้อเงินสกุล USDT และโอนไปตามเลขกระเป๋าเงินดิจิทัลตามที่คนร้ายระบุ ก่อนจะถูกโอนเข้าบัญชีของแพลตฟอร์มเทรดเงินดิจิทัล การกระทำความผิดดังกล่าวเชื่อมโยงกับคดีอื่นอีกหลายพื้นที่ได้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐอเมริกา รวมถึงหน่วยงานต่างประเทศและภายในประเทศ กระทั่งได้ข้อมูลที่เชื่อมโยงไปสู่คนร้ายตัวจริงที่ใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลคือ นายเชาเซียน ชู (Mr.Shaoxian Su) สัญชาติจีน กับพวก และยังพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงนอมินีนิติบุคคลสัญชาติไทยที่เชื่อว่าจดทะเบียนเพื่ออำพรางการทำธุรกรรมเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ และทรัพย์สินต่างๆ เพื่อเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดซุกซ่อน หรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น ภายใต้ปฏิบัติการ Trust No One EP.๑-๕เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น ๗๒ จุดทั่วประเทศจับผู้ต้องหาสัญชาติจีน ๓ ราย ยึดอายัดอสังหาริมทรัพย์ คอนโดมิเนียม หมู่บ้านหรู รถยนต์ สินค้าแบรนด์เนม เงินสด และของกลางอื่นอีกหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า ๒,๐๐๐ ล้านบาท คดีนี้ได้ร่วมสอบสวนกับพนักงานอัยการของสำนักงานอัยการสูงสุดและส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นไปยังอัยการสูงสุด และอัยการสูงสุดได้มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดในความผิดฐาน “ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง”ต่อมาสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว เบื้องต้นพบมี ๑๕ รายการ รวมมูลค่ากว่า ๖๐๐ ล้านบาท และได้ลงประกาศสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เรื่อง ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิจากการกระทำความผิดมูลฐาน คดี นายเชาเซียน ชู กับพวก มายื่นเอกสารเพื่อขอเฉลี่ยทรัพย์คืน มีขั้นตอนและวิธีการยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิสำหรับผู้เสียหาย ตั้งแต่วันที่ ๑๕ ก.ย.-๑๓ ธันวาคม๖๖ เวลา ๐๘.๓๐-๑๖.๓๐ น. (ยกเว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์) ผู้เสียหายต้องเตรียมเอกสารมาลงทะเบียนได้ที่ บช.สอท. หรือหากใครไม่สะดวกมาลงทะเบียนด้วยตัวเอง สามารถส่งหลักฐานเอกสารผ่านทางไปรษณีย์ได้เหมือนกันผบ.ตำรวจกล่าวอีกว่า ครั้งนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการยึดทรัพย์ผู้กระทำความผิด Hybrid Scam หรือหลอกลวงให้ผู้เสียหายร่วมลงทุน นับว่ามีมูลค่ามากที่สุดในบรรดาคดีอาชญากรรมไซเบอร์ เพราะมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่ารายละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ถือเป็นปัญหาใหญ่ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตนถือเป็นนโยบายหลัก และจะมอบหมายให้ ผบ.ตำรวจคนใหม่ สานต่อเพื่อคืนความสุขให้กับประชาชน นอกเหนือจากคดีการหลอกให้ลงทุนแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีนโยบายนำคดีอื่น เช่น คดีการดูดเงิน ที่มีผู้เสียหายหลงเชื่อจนทำให้เสียทรัพย์จำนวนมาก เฉลี่ยทรัพย์คืนให้กับประชาชนอีกด้วยนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า จะรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อคืนทรัพย์ให้กับประชาชนให้เร็วที่สุด ขั้นตอน ปปง.ต้องดำเนินการผ่านคณะกรรมการธุรกรรมการเงิน ส่งสำนวนให้อัยการ ก่อนจะส่งเรื่องไปให้ศาลแพ่งพิจารณาคำพิพากษา เพื่อเฉลี่ยทรัพย์ให้กับผู้เสียหาย อยากฝากถึงประชาชนว่า ให้เข้ามายื่นคำร้องตามวันเวลาที่กำหนด การแบ่งทรัพย์อาจจะไม่ได้ตามจำนวนที่เสียหายจริง เพราะมีผู้เสียหายจำนวนมาก ทรัพย์อาจจะไม่เพียงพอ ดังนั้น ขอให้ผู้เสียหายแจ้งความเสียหายตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ส่วนทรัพย์สินที่ถูกยึดอายัดไว้อีกหลายรายการ รวมมูลค่าประมาณ ๑,๓๐๐ ล้านบาท ขณะนี้ ปปง.อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานออกคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดดังกล่าว เพื่อนำมาเฉลี่ยทรัพย์คืนให้กับผู้เสียหายต่อไปผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับผู้เสียหายลอตแรกที่เดินทางมาลงทะเบียนเพื่อยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิสำหรับผู้เสียหายในคดีในวันนี้ มีมากกว่า ๑,๒๐๐ ราย ในจำนวนนี้มีทั้งทหาร หมอ พยาบาล พระสงฆ์ รวมอยู่ด้วย หลังจากวันนี้ บช.สอท. จะใช้ห้องรับเรื่องราวร้องทุกข์ ภายในอาคารที่ทำการ ๓๐ ชั้น เป็นวอร์รูมรับลงทะเบียนต่อไป จากการสอบถามกลุ่มผู้เสียหายที่เดินทางมาลงทะเบียน ทุกคนรู้สึกดีใจที่จะได้เฉลี่ยทรัพย์คืน และฝากขอบคุณตำรวจไซเบอร์และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ดำเนินการติดตามจับกุมกลุ่มขบวนการคนร้ายและใช้มาตรการยึดทรัพย์จนนำมาสู่การเฉลี่ยทรัพย์คืนให้กับผู้เสียหายในที่สุด