วันศุกร์, 29 กันยายน 2566

อีกเจ้า Sunak บิ๊กอสังหาริมทรัพย์จีน ยื่นขอคุ้มครองล้มละลายในสหรัฐฯ

20 ก.ย. 2023
17

Image
ซูแนค บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของจีน ยื่นขอคุ้มครองล้มละลายต่อศาลสหรัฐฯ แล้ว เพื่อแก้ปัญหาหนี้สิน ตามรอยบริษัท เอเวอร์แกรนด์ ที่ยื่นไปก่อนหน้านี้สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ซูแนค ไชน่า (Sunac China) หนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นของจีน ยื่นคำร้องขอคุ้มครองภาวะล้มละลายต่อศาลสหรัฐฯ แล้ว เมื่อวันอังคารที่ ๑๙ ก.ย. ๒๕๖๖ ไม่นานหลังจากพวกเขาได้รับอนุมัติจากเจ้าหนี้ให้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้มูลค่าเกือบ ๑ หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว ๓.๖ แสนล้านบาทซูแนคยื่นคำร้องภายใต้กฎหมายขอความคุ้มครองตามกฎหมายสหรัฐฯ หมวดที่ ๑๕ (Chapter ๑๕) ต่อศาลล้มละลายเขตใต้ของรัฐนิวยอร์ก ทำให้พวกเขากลายเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของจีนรายที่ ๒ ที่ทำเช่นนี้ ต่อจากบริษัท เอเวอร์แกรนด์ (Evergrande) ที่ยื่นคาร้องไปเมื่อเดือนก่อน หลังขาดทุนกว่า ๘.๑ หมื่นล้านดอลลาร์ภายในเวลา ๒ ปีกระบวนการดังกล่าวจะอนุญาตให้ศาลล้มละลายของสหรัฐฯ เข้าไปเกี่ยวข้องในคดีล้มละลายที่ข้องเกี่ยวกับประเทศอื่นได้ โดยหมวดที่ ๑๕ จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างศาลสหรัฐฯ, ลูกหนี้ กับศาลของประเทศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการล้มละลายข้ามประเทศ ซึ่งอาจช่วยให้ซูแนคเจรจากับเจ้าหนี้ต่างประเทศได้ง่ายขึ้นความเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ ซูแนคเปิดเผยในหนังสือชี้ชวนตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงว่า พวกเขาได้รับอนุมัติจากเจ้าหนี้มากกว่า ๒,๐๐๐ เจ้า ให้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้กว่า ๙.๙ พันล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่อนักลงทุนนอกประเทศจีนอนึ่ง ซูแนคเคยเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่สุดอันดับที่ ๓ ของจีน เมื่อคิดตามยอดสัญญาซื้อขาย แต่หลังจากพวกเขาผิดนัดชำระหนี้ในปี ๒๕๖๕ อันดับของพวกเขาก็ตกลงมาเรื่อยๆ จนอยู่อันดับที่ ๑๐ ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาซูแนคยังเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จีนเจ้าแรกที่บรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ต่างประเทศ ผิดกับเอเวอร์แกรนด์ที่ยังทำไม่สำเร็จเนื่องจากยังยื่นข้อเสนอไม่เป็นที่น่าพอใจทั้งนี้ ซูแนคคล้ายกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนอีกหลายเจ้า ที่กำลังเผชิญปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างหนัก เนื่องจากยอดขายตกต่ำทั่วทั้งอุตสาหกรรม ทำให้ผู้พัฒนาหลายเจ้าไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ โดยหนี้สินรวมของซูแนคแตะ ๑ ล้านล้านหยวนไปแล้วในช่วงสิ้นปี ๒๕๖๕ สวนทางกับยอดขายที่ลดลงถึง ๕๐% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านั้นที่มา : cnn