ปลัดกระทรวงแรงงานมั่นใจได้แน่เงินเยียวยาอีก ๕ หมื่นบาท เพิ่ม ให้แรงงานไทยในอิสราเอลหลังกลับไทย จะเข้าที่ประชุม คณะรัฐมนตรี๑๓ พฤศจิกายนนี้ ส่วนการจ่ายเงินจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือฯ ๑.๕ หมื่นบาท คาดจ่ายได้ครบกว่า ๗.๑ พันคน ในสัปดาห์หน้า ศพแรงงานไทยชุดล่าสุดถึงภูมิลำเนาเรียบร้อย ฮือฮางานศพหนุ่มนครพนม ผู้กำกับหนังชาวอิสราเอลโผล่ร่วมงาน เผยเหตุผู้ตายเป็นพระเอกในหนังสั้นที่กำลังถ่ายทำ เรื่องชีวิตแรงงานไทยตามแนวชายแดน ไม่คิดจะเสียชีวิตจริงตามบทหนัง บินมาถ่ายทำให้จบ ตั้งใจนำออกฉายทั่วโลก ขณะที่การสู้รบระหว่างยิวกับฮามาสยังดุเดือด ล่าสุดไอดีเอฟโต้หลังเกิดเหตุโจมตีโรงพยาบาลในเมืองกาซาซิตี้ ยันฝีมือยิงจรวดผิดพลาดของอีกฝ่ายหลังจากแรงงานไทยในอิสราเอลกว่า ๙ พันคน อพยพกลับไทยหนีภัยการสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์กลุ่มฮามาส ที่ยืดเยื้อมากว่า ๑ เดือน และมีการส่งร่างแรงงานไทยที่ตกเป็นเหยื่อการสู้รบ ถูกสังหาร กลับมาตุภูมิมาแล้ว ๓๔ ราย และมีรายงานว่าพบแรงงานไทยตายเพิ่มอีก ๕ ศพ ทำให้ยอดแรงงานไทยเสียชีวิตร่วม ๓๙ ศพ ต่อมา เมื่อวันที่ ๑๑ พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงแรงงานว่า แรงงานไทย ๕ รายที่พบเสียชีวิตเพิ่มเติม ประกอบด้วย ๑.นายเทียนชัย ยอดทองดี ภูมิลำเนาอยู่ ต.บ้านยาง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ๒.นายไชยา รักษานนท์ อยู่ ต.เชียงเพ็ง อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ๓.นายจักรพันธ์ เดี่ยวไธสง อยู่ ต.บ้านเป้า อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ๔.นายศักดิ์สิทธิ์ จำปาสิม อยู่ ต.ข้าวสาร อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ๕.นายสมชัย แซ่ย่าง อยู่ ต.ดงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย ขณะนี้ยังไม่มีกำหนดว่าจะส่งร่างกลับสู่ภูมิลำเนาเมื่อใดนายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ยังมีแรงงานไทยทำงานในอิสราเอลอีกราว ๒.๑ หมื่นคน ที่ไม่กลับมาเพราะอาจจะเห็นว่าอยู่ในที่ปลอดภัยหรือสามารถเอาตัวรอดได้ และยังทำงานส่งเงินกลับบ้านต่อไป ส่วนคนที่กลับมาแล้วกว่า ๙ พันคน ได้ยื่นขอรับสิทธิประโยชน์กองทุนเพื่อช่วยเหลือแรงงานไทยไปทำงานในต่างประเทศ ๗,๑๙๑ คน วินิจฉัยสั่งจ่ายแล้ว ๓,๒๔๒ คน ส่วนที่เหลือจะให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า รวมทั้งเงินเยียวยา ๕ หมื่นบาท ที่จะนำงบกลางมาจ่ายให้จะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ ๑๓ พฤศจิกายนนี้tt ttทั้งนี้ ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานและติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอลของกระทรวงแรงงาน ได้แจ้งตัวเลขแรงงานไทยกลับประเทศ ล่าสุดมีจำนวน ๙,๐๒๓ คน ยังเหลือทำงานในอิสราเอล ๒๐,๘๔๓ คน ถูกจับเป็นตัวประกัน ๒๕ ราย บาดเจ็บ ๑๘ ราย เสียชีวิต ๓๙ ราย มีการจ่ายเงินเยียวยาไปแล้วกว่า ๔๙ ล้านบาทส่วนบรรยากาศงานศพ ๘ แรงงานไทยชุดล่าสุด ที่ถูกส่งจากอิสราเอลกลับสู่ภูมิลำเนา เพื่อประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ตั้งแต่วันที่ ๑๐ พฤศจิกายนที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันที่ ๑๑ พ.ย. ที่บ้านเลขที่ ๑๐ หมู่ ๒๓ บ้านหนองเดิ่นพัฒนา ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม สถานที่จัดงานศพนายเศรษฐา หรือต้อม โฮมสร อายุ ๓๖ ปี แรงงานไทยในอิสราเอลที่ถูกกลุ่มติดอาวุธฮามาสทำร้ายจนเสียชีวิต ในการบุกฉนวนกาซา เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคมที่ผ่านมา นับเป็นแรงงานไทยชาวนครพนม รายที่ ๒ ที่เสียชีวิต นายเศรษฐาเป็นแฝดคนน้อง ที่ไปทำงานที่อิสราเอลพร้อมแฝดคนพี่คือ นายเจษฎา หรือตั้ม โฮมสร อายุ ๓๖ ปี ที่รอดชีวิตกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยระหว่างพิธีศพนายเศรษฐา ปรากฏเป็นที่ฮือฮาเมื่อนายโจนาธาน หรือทอม อายุ ๓๐ ปี ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอิสราเอล ได้เดินทางมาร่วมงานศพ พร้อมเปิดเผยข้อมูลผ่านล่ามว่า เป็นผู้กำกับหนังสั้นแนวสารคดี กำลังสร้างหนังสั้น ๑ เรื่อง แต่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ เนื้อเรื่องต้องการนำเสนอเกี่ยวกับชีวิตของแรงงานไทยตามแนวชายแดน และมีโอกาสได้รู้จักกับนายเศรษฐา หรือต้อม ได้ทาบทามให้มาเป็นพระเอกหนังสั้นถ่ายทำมากว่า ๒ ปีแล้ว เพราะจะต้องเก็บรายละเอียดในการทำงานของแรงงานไทย ทุกขั้นตอน รวมทั้งตัวแสดงต้องวิ่งหนีระเบิดที่ยิงมาจากฝั่งปาเลสไตน์ และบทสุดท้ายของเรื่องพระเอกจะต้องถูกยิงตายนายโจนาธานกล่าวด้วยความเสียใจอีกว่า ไม่คิดเลยว่าพล็อตหนังสั้นของตนจะกลายเป็นเรื่องจริง เพราะนายเศรษฐา พระเอกในเรื่องเขียนบทไว้จะต้องถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของกลุ่มฮามาส ตนในฐานะผู้กำกับรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว และเพื่อให้หนังสั้นจบบริบูรณ์ จึงเดินทางมาถ่ายทำตอนที่มีการฌาปนกิจศพ และจะอยู่กับครอบครัวของนายเศรษฐาประมาณ ๑ สัปดาห์ จากนั้นจะไปตัดต่อภาพ เมื่อทำเสร็จสมบูรณ์ มีความตั้งใจว่าจะส่งฉายทั่วโลก และได้มีโอกาสมาแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยด้านนายเจษฎา โฮมสร พี่ชายฝาแฝดของนายเศรษฐา เปิดเผยว่า ต้อมเป็นแฝดน้อง ส่วนตนเป็นแฝดพี่ ไปทำงานที่อิสราเอลได้ประมาณ ๔ ปี และมีน้องชายคนสุดท้องอีกคนคือนายป้อม อายุ ๓๒ ปี เดินทางไปทำงานด้วยกัน รวม ๓ คน เพราะมีรายได้ดี ชักชวนกันไปทำงานในฟาร์มเกษตรถึงรู้ว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงสงคราม แต่ไม่เคยเกิดความรุนแรง กระทั่งวันเกิดเหตุทหารฮามาสบุกเข้ามาจับแฝดคนน้องไปทำร้ายจนเสียชีวิต แต่ตนอยู่คนละแคมป์คนงาน หนีเอาตัวรอดทัน มาทราบภายหลังว่าแฝดคนน้องเสียชีวิตและประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์อัตลักษณ์ นำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดยอมรับเสียใจมากที่ต้องสูญเสียคนในครอบครัว แต่หากสงครามสงบอยากกลับไปทำงานอีก เพราะเชื่อมั่นว่าเป็นทางเดียวที่จะสามารถสร้างฐานะให้ดีขึ้นได้ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน มีพิธีเคลื่อนศพนายเกียรติศักดิ์ หรือท็อป พาที แรงงานไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคมที่ผ่านมา จากบ้านใน ต.บ้านแดง อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี ไปยังฌาปนกิจสถาน วัดป่าสามัคคีสันติธรรม ท่ามกลางญาติ ชาวบ้าน และหัวหน้าหน่วยราชการต่างๆร่วมงานจำนวนมาก มีนายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานทอดผ้ามหาบังสุกุลและวางดอกไม้จันทน์ หลังจากนั้นชาวบ้านที่มาร่วมส่งดวงวิญญาณได้ขึ้นวางดอกไม้จันทน์จนแน่นเมรุ แทบไม่มีที่ยืน ด้านนายคำสี บิดาของนายท็อปผู้เสียชีวิต กล่าวก่อนมีพิธีฌาปนกิจร่างลูกชายว่า ตั้งแต่ศพลูกชายมาถึงบ้านรู้สึกขนลุกตลอดเวลาเหมือนว่าวิญญาณลูกชายตามมาด้วยtt ttสำหรับสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์กลุ่มฮามาส สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าเมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายนว่า กองทัพอิสราเอล (IDF) ปฏิเสธไม่ได้เป็นฝ่ายโจมตีในบริเวณโรงพยาบาลอัล-ชิฟา โรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองกาซาซิตี้ ทางเหนือของฉนวนกาซา โดยอ้างภาพจากเรดาร์ของกองทัพเผยให้เห็นวิถีของจรวดถูกยิงมาจากภายนอกอาณาเขตของฉนวนกาซาและมาตกบริเวณโรงพยาบาลอัล-ชิฟา บ่งชี้เป็นการยิงจรวดผิดพลาดของผู้ก่อการร้ายในฉนวนกาซา ที่ต้องการโจมตีกองทัพอิสราเอลขณะปฏิบัติการในบริเวณโรงพยาบาลดังกล่าว อิสราเอลทราบดีว่าโรงพยาบาลเป็นพื้นที่อ่อนไหว อย่างไรก็ตาม หากกองทัพพบกลุ่มก่อการร้ายฮามาสโจมตีออกมาจากโรงพยาบาล อิสราเอลก็จะทำในสิ่งที่ควรทำคือการสังหารกลุ่มฮามาส ก่อนหน้านี้มีรายงานว่ากองทัพอิสราเอลทิ้งระเบิดบริเวณโรงพยาบาลอัล-ชิฟาเมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายนจนทำให้มีผู้เสียชีวิต ๑๓ ศพ ด้านกลุ่มฮามาส กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลอัล-ชิฟายืนยันว่าไม่มีฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาสอยู่ใต้โรงพยาบาล รวมถึงยินดีให้นานาชาติเข้ามาตรวจสอบวันเดียวกัน นสพ.เดอะนิวยอร์ก ไทม์สของสหรัฐฯยังรายงานอ้างทางการอิสราเอลไม่เปิดเผยองค์กรว่า อิสราเอลหารือกับกลุ่มฮามาสเพื่อปล่อยตัวประกันที่ถูกลักพาตัวในฉนวนกาซาที่มีกาตาร์และสหรัฐฯเป็นตัวกลางในการเจรจา โดย ๑ ในข้อเรียกร้องที่อยู่ในการเจรจาคือ กลุ่มฮามาสต้องปล่อยตัวประกันทั้งเด็กและสตรีชาวอิสราเอลรวมถึงชาวต่างชาติอย่างชาวอเมริกันจำนวน ๑๐-๑๕ คน เพื่อแลกกับการหยุดการโจมตีชั่วคราว ซึ่งอาจทำให้มีการปล่อยตัวประกันเพิ่มขึ้นราว ๑๐๐ คน หากทั้ง ๒ ฝ่ายเห็นตรงกัน ส่วนกลุ่มฮามาสต้องการให้หยุดการสู้รบชั่วคราวเพื่อเปิดทางความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม การขนส่งเชื้อเพลิงให้แก่โรงพยาบาล รวมถึงการปล่อยสตรีและเด็กชาวปาเลสไตน์ที่ถูกจับกุมในที่คุมขังของอิสราเอล อย่างไรก็ตาม อิสราเอลมีท่าทีไม่ชัดเจนต่อประเด็นการปล่อยผู้ถูกคุมขังส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตจากการสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์เผยว่า มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตในฉนวนกาซา ๑๑,๐๗๘ ศพ ในจำนวนนี้เป็นเด็ก ๔,๕๐๖ ศพ บาดเจ็บอีก ๒๗,๔๙๐ คน ขณะที่กระทรวงต่างประเทศของอิสราเอลแถลงปรับยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลเป็น ๑,๒๐๐ ศพ จากที่ก่อนหน้านี้สรุปตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ ๑,๔๐๐ ศพ เนื่องจากในการตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิต มีเหยื่อจำนวนมากที่ระบุตัวตนไม่ได้ คาดว่าเป็นร่างของผู้ก่อการร้าย ไม่ใช่ของชาวอิสราเอลอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
หนังยิวถ่าย ฉากจบพระเอก เผาหนุ่มไทย ถูกฮามาสฆ่า
เรื่องที่เกี่ยวข้อง