วันเสาร์, 9 ธันวาคม 2566

"เศรษฐา" ฟาดกลับ "ศิริกัญญา" ฉะเดือดด้อยค่า ๑ หมื่น "ไหม" ตอบโต้ "ตรรกะวิบัติ"

ImageImageImageImageImage
“เศรษฐา” ฟาดกลับ “ศิริกัญญา” ถล่มดิจิทัลวอลเล็ต โต้เดือดอย่าเอามาตรฐานความคิดตัวเองมาตีตราคนอื่น มองเป็นมุมการเมือง คนเพื่อไทยพาเหรดตอบโต้ “พิชิต” ตอกคนหนึ่งเห็นโคลน อีกคนเห็นดาว ยันชง พระราชบัญญัติเงินกู้เข้าสภาฯ ท้าให้ตรวจสอบ “ลิณธิภรณ์” อัดอย่ายัดเยียดความกลัวให้ประชาชน “ดนุพร” โวยไม่คิดหาทางลง แต่ดันเต็มสูบ กระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วน หวังดันจีดีพี ๔ ปีข้างหน้าโต ๕% ต่อปี “ไหม” รีทวีตหวดใส่นายกฯตรรกะวิบัติ ตีความผิดๆว่าใคร ทุ่มเทแรงกายใจทำอะไรสักอย่างย่อมถูกต้อง ดีงาม ปชป.ขย่มหว่านเงินฉาบฉวย “สมชาย” งัดเอกสารนโยบาย พท.แจง กกต. แหล่งที่มาเงินที่ใช้ไม่ตรงปก จี้สอบเข้าข่ายผิด ก.ม.หรือสัญญาว่าจะให้หรือไม่ เหน็บรู้แกวยืมมือสภาฯ-ศาล รธน.ช่วยคว่ำ “สมชัย” ขยี้ซ้ำ พระราชบัญญัติกู้เงินคือทางลงหนีคุก ป.ป.ช.บี้ขอรายละเอียดสแกนยิบแจกเงินหมื่นจากกรณีที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชี รายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) และรองหัวหน้าพรรค ก.ก. ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การออก พระราชบัญญัติเงินกู้ ๕ แสนล้าน ขับเคลื่อนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไม่สามารถทำได้ เพราะเสี่ยงขัดรัฐธรรมนูญและ พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง เป็นการหาทางลงของรัฐบาลมากกว่า ล่าสุดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง รวมทั้งคนของพรรคเพื่อไทยต่างออกมาตอบโต้กลับ อย่าเอาความคิดของตนเองมาเป็นหลักและมองแต่มุมการเมือง“เศรษฐา” ฟาดกลับ “ไหม” ปมเงินดิจิทัลเมื่อเวลา ๐๗.๓๐ น. วันที่ ๑๑ พฤศจิกายนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ทวีตผ่าน X ตอบโต้กรณี น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ว่า โครงการเติมเงิน ๑ หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ชัดเจนที่ไม่มีเรื่องแหล่งที่มาของเงิน และฟันธงว่าไม่มีใครได้เงินดิจิทัล เป็นแค่การหาทางลงของรัฐบาลว่า “อย่าเอามาตรฐานความคิดของตัวเองมาหวังว่าคนอื่นเค้าจะเป็นเหมือนกัน อย่ามองความตั้งใจที่บริสุทธิ์ และความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนมาเป็นมุมการเมืองที่สร้างความสับสนให้กับประชาชนเลยครับ”บินสหรัฐฯร่วมเวทีผู้นำเอเปกนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันที่ ๑๒ พฤศจิกายนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการคลัง จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ ๓๐ (๒๐๒๓ APEC Economic Leaders’ Meeting) และกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๙ พฤศจิกายนที่นครซานฟราน ซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เป็นโอกาสนำเสนอนโยบาย สร้างความเชื่อมั่น สานต่อผลลัพธ์ของการเป็นเจ้าภาพเอเปกของไทยในปี ๒๕๖๕ และได้พบหารือเพื่อสร้างความร่วมมือกับเขตเศรษฐกิจเอเปกและภาคเอกชนเอเปกโดยประเด็นที่ไทยผลักดัน อาทิ การค้าการลงทุน ย้ำความมุ่งมั่นต่อระบบการค้า พหุภาคีที่มีองค์การการค้าโลกเป็นแกนกลาง ความเชื่อมโยงผ่านการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเป็นศูนย์กลางขนส่งในภูมิภาค เชื่อมโยงมหาสมุทรแปซิฟิกกับมหาสมุทรอินเดียผ่านโครงการ Landbridge ความยั่งยืน ผลักดันการสานต่อเป้าหมายกรุงเทพฯ เศรษฐกิจดิจิทัล และความครอบคลุมและความเท่าเทียมtt tt“พิชิต”ชี้เจตนาให้รัฐสภาตรวจสอบเงินกู้นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกฯ กล่าวถึง เสียงวิพากษ์วิจารณ์การออก พระราชบัญญัติเงินกู้ ไม่สามารถทำได้ เพราะเสี่ยงขัดรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๔๐ และขัด พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังว่า พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.๒๕๖๑ กำหนดหลักการเกี่ยวกับวินัยการเงินการคลัง เพื่อช่วยให้หน่วยงานของรัฐ รักษาวินัยการเงินการคลังและดำเนินนโยบายด้านการคลังตามกรอบที่กฎหมายกำหนด โดยเงินที่กู้กระทรวงการคลังจะเก็บไว้เพื่อจ่ายออกตามโครงการ ไม่ต้องนำส่งคลังเพื่อเข้าบัญชีเงินคงคลัง ทำให้รัฐบาลตรากฎหมายพิเศษ เพื่อกู้เงินและจ่ายเงินแผ่นดินตาม พระราชบัญญัติวินัยการเงินฯได้ รูปแบบกฎหมายเฉพาะเพื่อกู้เงินตามมาตรา ๕๓ กระทำได้ ๒ รูปแบบ คือ พ.ร.บ. และ พ.ร.ก. ถ้อยคำใน พ.ร.บ. วินัยการเงินฯกำหนดเพียงว่ามีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนและอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศ รัฐบาลเลือก พระราชบัญญัติเพราะมี เจตนาให้ผ่านการตรวจสอบของรัฐสภา ให้ร่วมพิจารณาทบทวนเหตุผลความจำเป็น วัตถุประสงค์ ระยะเวลา และแผนงานหรือโครงการ และเปิดโอกาส ให้สมาชิกรัฐสภาที่อาจมีความเห็นประเด็นต่างๆ ส่งเสนอความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตรวจสอบร่าง พระราชบัญญัติได้อีกทางหนึ่ง เป็นเครื่องยืนยันว่าการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอยู่บนพื้นฐานโดยสุจริต มิได้ใช้ดุลพินิจบิดเบือนหลักการของรัฐธรรมนูญ ไม่มีเจตนาซ่อนเร้นหรือแอบแฝง เพื่อหาทางลงตามที่มีหลายฝ่ายวิจารณ์ รัฐบาลต้องการเดินหน้าโครงการดังกล่าว เพราะมีประชาชนรออยู่จำนวนมากตอกคนหนึ่งเห็นโคลนอีกคนเห็นดาวนายพิชิตกล่าวอีกว่า ที่วิจารณ์ว่าโครงการไม่ตรงปก เป็นการกู้มาแจก ๑๐๐% ไม่เหมือนตอนยื่นนโยบายต่อ กกต. ตอนที่พรรค พท. ได้ชี้แจงกกต.ระบุเงื่อนไขชัดเจนว่า ที่มาของวงเงินที่จะใช้ดำเนินการสามารถปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมตามสถานการณ์ด้านการคลังของประเทศ เมื่อรัฐบาลหาข้อสรุปจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนแล้ว เห็นว่าการกระตุ้นและสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ต้องเติมเงินลงไปในระบบเศรษฐกิจมูลค่า ๖ แสนล้านบาท โดยต้องออกเป็น พระราชบัญญัติกู้เงิน ๕ แสนล้านบาทและมาจากเงินงบฯปี ๒๕๖๗ อีก ๑ แสนล้านบาท จึงเป็นการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมตามสถานการณ์ด้านการคลังของประเทศตามที่ได้แจ้งต่อ กกต. แม้อาจมีหลายฝ่ายกังวลการออก พ.ร.บ. กู้เงินอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่การตีความกฎหมายเหมือนสุภาษิตที่ว่า “สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม คนหนึ่งตาแหลมคม มองเห็นดาวอยู่พราวพราย” มั่นใจนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง จะนำพาประเทศไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ เสียงที่เห็นต่างจึงเป็นเรื่องสองคนย่อมเห็นต่างกันได้อย่างสร้างสรรค์ แต่ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ เห็นข่าวยายอายุ ๗๑ ปี ที่กระโดดลงไปในน้ำเพื่อตามธนบัตรใบหนึ่งพันบาทเพียงใบเดียว สุดท้ายตกลงไปในน้ำโดยไม่ห่วงชีวิต จึงอยากสะท้อนให้เห็นปัญหาความเหลื่อมล้ำของประเทศ หากเรามองปัญหาจากหอคอยงาช้าง ย่อมไม่อาจเห็นปัญหาที่อยู่จุดข้างล่างได้ ท้ายสุดหากไปอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดประเด็นนี้เองพท.อัดอย่ายัดเยียดความกลัวให้ ปชช.น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อและรองเลขาธิการ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า เข้าใจดีว่าเป็นบทบาทของฝ่ายค้านต้องการตรวจสอบ แต่ต้องไม่ลืมว่ารัฐบาลได้พิจารณาอย่างรอบคอบและถี่ถ้วนศึกษาทั้งทางกฎหมายและการเงิน ยังคงมุ่งรักษาวินัยทางการเงินและการคลัง การวิจารณ์ดังกล่าวนอกจากสะท้อนว่าผู้พูดไม่ได้ศึกษารายละเอียดคำแถลงอย่างถ่องแท้แล้ว ยังสะท้อนว่ามองแต่มุมของตนเอง ไม่ได้มองเห็นถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง หากมองโดยปราศจากอคติ มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกกำลังถดถอย สภาวะสงครามที่เกิดขึ้นล้วนเป็นปัจจัยทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโตยาก รัฐบาลทำวันนี้จึงเป็นทางเลือกที่จำเป็นและเป็นสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่เรียกร้อง ถือเป็นมิติใหม่ที่รัฐบาลให้อำนาจประชาชน เป็นผู้ร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อกระตุ้นภาคการผลิตภายในประเทศ ควบคู่กันไปกับแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งระยะกลางและระยะยาว หากเป็นไปตามเป้าหมาย จีดีพีของประเทศจะสูงขึ้นเฉลี่ยปีละ ๕% จะช่วยทำให้หนี้สาธารณะที่หมักหมมมาเป็น ๑๐ ปีลดลงเป็น ๖๗.๑%ได้ ฝากถึงผู้วิจารณ์ทั้งหลาย อย่ายัดเยียดความกลัว ความกังวลของตนเอง มาเป็นข้อจำกัดความเจริญเติบโตของประเทศเลยtt ttโต้กระตุ้น ศก.ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนนายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงเสียงวิจารณ์โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ๑๐,๐๐๐ บาท ที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรค ก.ก.ระบุการออก พระราชบัญญัติเงินกู้ ไม่สามารถทำได้ เสี่ยงขัดรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๔๐ และขัด พระราชบัญญัติวินัยการเงิน การคลัง มาตรา ๕๓ ที่ระบุว่า หากใช้เงินไม่ได้เป็นไปตามงบฯปกติ จะทำได้กรณีมีความจำเป็นเร่งด่วนเท่านั้นว่า เป็นมุมมองของ น.ส.ศิริกัญญา บังคับไม่ได้ บางคนมีเงินเดือนไม่ได้หาเช้ากินค่ำ อย่าง สส.มีเงินเดือนเป็นแสนอาจมองไม่จำเป็น แต่อยากให้มองไปที่อาชีพอื่นด้วย ความตั้งใจของนายกฯ รวมถึงการที่พรรค พท.ทำนโยบายออกมา เพื่อต้องการอัดเงินเข้าระบบ ตามที่นายกฯแถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่าต้องการทำให้จีดีพีใน ๔ ปีข้างหน้าโตขึ้นเฉลี่ย ๕% ต่อปี แต่ที่ผ่านมาจีดีพีโตแค่ ๑% กว่าถึง ๒% เท่านั้น การจะให้จีดีพีโตตามเป้าทำได้หรือไม่ ถ้าจะกระตุ้นเศรษฐกิจ เราจึงมองว่าเรื่องนี้เร่งด่วนความจำเป็นของ ปชช.รออีกมากนายดนุพรกล่าวอีกว่า ถ้า น.ส.ศิริกัญญาไปตามชานเมืองจะเห็นว่าประชาชนมีกำลังซื้อน้อยลง นโยบายนี้เราต้องการให้เงินไปสู่รากหญ้าแบบกระจายตัวไม่ได้กระจุกตัว พรรค ก.ก.อาจมองไม่เร่งด่วน แต่ของพรรค พท.เห็นว่าประชาชนลำบากกำลังซื้อน้อย รัฐบาลกำลังสร้างความมั่นใจให้คนไปกระตุ้นเศรษฐกิจ สิ่งที่ น.ส.ศิริกัญญาพูดไม่ผิดถือเป็นมุมมอง แต่ความจำเป็นของประชาชนอีกมากที่กำลังรออยู่ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องนำมาชั่งน้ำหนัก และรัฐบาลมีหน่วยงานของรัฐ ทั้งสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย คอยให้ความเห็น การออกเป็น พระราชบัญญัติเงินกู้มาจากความเห็นของหน่วยงานเหล่านี้ เพราะสามารถตรวจสอบได้ และไม่เกินเพดานหนี้สาธารณะ ไม่ขัดวินัยการเงินการคลังไม่คิดหาทางลงแต่จะเดินหน้าเต็มที่โฆษกพรรค พท.กล่าวอีกว่า ไม่ผิดที่จะมีมองมุมจากฝ่ายค้าน เรารับฟังและยืนยันรัฐบาลไม่ได้ดื้อ หาเสียงมาบอก ๔ กิโลเมตร เมื่อมีการท้วงติงเรารับฟัง สส.พรรค ก.ก.เองบอกให้ใช้แอปเป๋าตัง เรารับฟัง หน่วยงานรัฐบอกให้ทุกคนไม่ไหว เรารับฟังจนปรับเปลี่ยนจนเป็นที่มาของการแถลงของนายกฯ เมื่อถามว่า น.ส.ศิริกัญญามองว่าการออกเป็น พ.ร.ก.ทำไม่ได้ แต่รัฐบาลยังเดินหน้าเพื่อให้เป็นทางลงของโครงการ นายดนุพรกล่าวว่า ถือเป็นการคาดเดา เรามีประสบการณ์ตอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ เคยเจอกรณีออกเงินกู้ทำรถไฟความเร็วสูงไม่ได้ ขอบคุณที่พรรค ก.ก.เป็นห่วง แต่ยืนยันเราไม่ได้หาทางลง เวลาประชุมผู้บริหาร เราไม่ได้คิดหาวิธีนี้เป็นทางลงตามที่กล่าวมา เราพูดแต่ว่าจะทำอย่างไรให้โครงการสำเร็จ เพราะเป็นนโยบายหลักในการหาเสียง เราเดินหน้าเพื่อให้โครงการเกิดขึ้นเต็มที่แน่นอนฟุ้งผลงาน รบ.เศรษฐา ๖๐ วันพุ่งเข้าเป้านายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรค พท. กล่าวถึงกรณีการแถลงผลงานรอบ ๖๐ วัน ตามด้วยการแถลงความชัดเจนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลว่า เป็นการแถลงสรุปผลงานสำคัญในสิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการช่วง ๖๐ วันแรกที่ครบถ้วน ลุยแก้ปัญหาหลายมิติ แก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชน สอดคล้องกับผลการสำรวจความเห็นนิด้าโพล ที่ระบุชัดว่าประชาชนส่วนใหญ่พึงพอใจผลงานของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ส่วนฝ่ายค้านจะเห็นต่าง จะให้ผ่านหรือปรับตกอย่างไรถือเป็นสิทธิ ๖๐ วันแรกรัฐบาลได้ออกหลายมาตรการลักษณะ “quick wins” ที่หวังผลระยะสั้นทำทันที จะเป็นฐานสนับสนุนภารกิจเป้าหมายหลักในอนาคตของรัฐบาล ด้วยการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส คณะรัฐมนตรีเศรษฐาเข้ามา ๒ เดือน หลายเรื่องที่เคยประกาศไว้ได้ทำจนประสบผลสำเร็จ ทั้งลดค่าไฟฟ้า ลดค่าน้ำมัน นโยบายฟรีวีซ่ากระตุ้นท่องเที่ยว ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า ๒๐ บาทตลอดสาย ดันมาตรการเร่งด่วนด้านต่างประเทศ แก้ปัญหายาเสพติด แก้หนี้นอกระบบ รวมถึงนโยบายเรือธงอย่างดิจิทัลวอลเล็ตของพรรคชัดเจนเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ รัฐบาลเศรษฐาไม่เพียงพูดแล้วทำตามนโยบายที่หาเสียงหรือแถลงนโยบายไว้ แต่หลายเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ รัฐบาลพร้อมดำเนินการ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนจวก ก.ก.อย่าคิดแต่เอาชนะการเมืองเมื่อถามถึงกรณี น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. ระบุรัฐบาลรู้แก่ใจดิจิทัลวอลเล็ตถึงทางตัน ออก พระราชบัญญัติกู้เงินเพื่อหาทางลงมากกว่าทำจริง และนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ระบุนโยบายไม่ตรงปก เป็นการกู้มาแจกว่า ระหว่างรัฐบาลที่พยายามจะผลักดันนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตให้เกิดขึ้นให้ได้ กับฝ่ายไม่ต้องการเห็นดิจิทัลวอลเล็ตสำเร็จ ประชาชนดูออกว่าใครว้าวุ่นกว่ากัน การวิพากษ์วิจารณ์ถือเป็นสิทธิ แต่ไม่ควรเอามาตรฐานของตัวเองไปตัดสินคนอื่น รัฐบาลเศรษฐามาเพื่อทำให้ได้ ไม่ได้มาเพื่อจะบอกว่าทำไม่ได้ รัฐบาลยินดีรับฟังทุกคำแนะนำจากทุกภาคส่วนที่ยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน แต่ต้องไม่สร้างความสับสน ไม่คิดแต่ การเอาชนะทางการเมือง แล้วทำประชาชนเสียโอกาสเหน็บไม่เคยบริหารจึงคิดลบทุกเม็ดนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคพท. กล่าวว่า รัฐบาลตั้งใจทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี คนมีเงินอาจไม่เห็นความสำคัญ แต่คนไม่มีเงินคนรากหญ้าที่เดือดร้อนต้องการ คนที่คิดไม่ได้หรือคิดได้แต่แกล้งคิดไม่ได้ขอให้นั่งเฉยๆ เดี๋ยวกลไกการเมืองจะเดินไปเอง โครงการของพรรค พท.ในอดีตเคยถูกสบประมาท ทั้ง ๓๐ บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน แต่ที่สุดทำให้เป็นจริงขึ้นได้ วันนี้ภาพใหญ่อาจต้องใช้เงินมากแต่คนได้ทั่วถึงทั้งประเทศ สร้างเศรษฐกิจกระตุ้นเศรษฐกิจ บางพรรคยังไม่เคยมาบริหารประเทศ อาจคิดแง่ลบทุกเรื่อง เพราะไม่มีประสบการณ์ คำว่าคนละเลงขนมเบื้องด้วยปาก ยังใช้ได้ถึงทุกวันนี้ คนไม่เคยปฏิบัติหรือบริหารบ้านเมือง ให้พูดทางลบพูดได้ทุกวันทุกเรื่อง แต่พอเป็นภาคปฏิบัติไม่สามารถทำได้ เช่น เรื่องสองมาตรฐานในบ้านตัวเอง กว่าจะลงตัวต้องใช้เวลาทั้งที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องโต ขอให้นั่งเฉยๆแล้วดูการกระทำ ฝ่ายค้านถ้าจะค้านขอให้ค้านแบบมีเหตุมีผลมีความสร้างสรรค์tt tt“ไหม” หวด “เศรษฐา” ตรรกะวิบัติขณะที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ก.ก. ได้รีทวีตของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯที่ออกมาฟาดกลับหลังถูกวิจารณ์เรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต โดย น.ส.ศิริกัญญา ทวีตโต้ พร้อมข้อความระบุว่า “Noble Effort” คำเรียกตรรกะวิบัติชนิดหนึ่ง ที่ตีความผิดๆ ว่า อะไรสักอย่างย่อมถูกต้อง ดีงาม จริงแท้ หรือมีคุณค่า เพียงเพราะใครสักคนทุ่มเทแรงกายแรงใจ หรือแม้แต่เสียสละเวลา ทรัพย์สิน หรือความสุขสบาย มาพากเพียรทำสิ่งนั้นๆ ด้วยเจตนาที่ดี cr: ศัพท์+ตรรกะวิบัติวันละคำ โดย สฤณี อาชวนันทกุลปชป.เฉ่งหว่านเงินหมื่นฉาบฉวยนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป.กล่าวถึงการทำงานของรัฐบาลว่า ตลอด ๒ เดือน จะประเมินลึกไปในรายละเอียดคงยาก เพราะรัฐบาลยังตั้งต้นทำงานไม่ได้ นโยบายหลักๆของพรรค พท. ที่ขับเคลื่อนโดยรัฐบาลและนายกฯยังตั้งหลักไม่ได้ มีแต่ผักชีโรยหน้า การที่แกนนำพรรค พท.สื่อสารว่าคิดครบ ทำได้ สวนทางความเป็นจริง โครงการแจกเงินดิจิทัล ๑๐,๐๐๐ บาท เป็นผลผลิตที่ฉาบฉวย จากพรรค พท.ไม่คิดให้ละเอียดรอบด้าน ไม่คิดถึงความยั่งยืนของประเทศ ตั้งต้นไม่ได้ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ทั้งที่มาของเงิน วันหนึ่งไม่กู้อีกวันหนึ่งกู้ วิธีการรับเงิน จ่ายเงิน จะมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรแน่นอน ประกาศขึ้นเงินเดือนข้าราชการ อีกวันหนึ่งบอกต้องศึกษาก่อน กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญยังไม่มีความชัดเจนใดๆจองกฐินตั้งฉายารัฐบาลสับปลับ“สิ้นปีนี้การตั้งฉายาของสื่อคำที่น่าสนใจยิ่งคือ รัฐบาลสับปลับ ที่รัฐบาลทำสำเร็จคือการทำลายหลักนิติธรรม เลือกปฏิบัติบังคับใช้กฎหมายเรื่องการคุมขังนักโทษ ความลับไม่มีในโลก ทุกพรรคที่ร่วมรัฐบาลต้องร่วมกันรับผิดชอบวันข้างหน้า เรื่องนี้ถือว่ารัฐบาลประสบผลสำเร็จ ถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ที่ดีที่สุดของรัฐบาล เชื่อว่าประชาชนไม่อยากให้มีการสร้างวัฒนธรรมและค่านิยมแหกคุกโดยรัฐบาล ถ้ารัฐบาลไม่เห็นด้วยกับสิ่งเหล่านี้ ไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวที่ว่าคุกมีไว้ขังคนจน ควรตอบเรื่องนี้ให้กระจ่าง” นายราเมศกล่าวสว.ขย่มหลักฐานชัดไม่ตรงปกนายสมชาย แสวงการ สว.โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เอกสารประกอบนโยบายที่พรรคเพื่อไทยยื่นชี้แจงต่อ กกต.ว่า ที่มาเงินที่จะใช้ดำเนินการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล ๕๖๐,๐๐๐ ล้านบาท จะใช้การบริหารงานงบประมาณปกติ และการบริหารระบบภาษี ได้แก่ ๑.ประมาณการรายได้ปี ๒๕๖๗ ที่เพิ่มขึ้น ๒๖๐,๐๐๐ ล้านบาท ๒.ภาษีที่ได้เพิ่มขึ้น ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ๓.การบริหารจัดการเงินกู้ ๑๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ๔.การจัดการงบประมาณสวัสดิการที่ซ้ำซ้อน ๙๐,๐๐๐ ล้านบาท สรุปว่าที่มาของเงินไม่ใช่การดำเนินการตาม ๔ ข้อนี้ แต่ชัดเจนว่าเป็นการกู้มาแจก โดยออก พระราชบัญญัติเงินกู้ ๖๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ไม่ตรงกับรายงานที่แจ้งไว้เป็นหลักฐานต่อ กกต. ดังนั้น เป็นเรื่องที่ กกต.ต้องตรวจสอบอีกครั้งให้ชัดเจน เข้าข่ายผิดกฎหมายใดบ้าง ทั้งที่มาของเงินไม่เป็นตามที่แจ้งต่อ กกต. หรือเข้าข่ายสัญญาว่าจะให้หรือไม่รู้ทันยืมมือสภาฯ–ศาล รธน.ช่วยคว่ำนายสมชายระบุว่า การเลือกวิธีตราเป็นกฎหมายพิเศษ เพื่อกู้เงินตามมาตรา ๕๓ กฎหมายวินัยการเงินการคลัง เพื่อเลี่ยงไม่ให้ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๔๐ นั้น อาจทำได้ แต่หาใช่ว่ากฎหมายมาตรา ๕๓ จะอนุญาตให้ทำได้ทุกกรณี เพราะมีเงื่อนไขกำกับไว้ชัดเจนว่า ให้ทำได้โดยมี ๔ เงื่อนสำคัญคือ ๑.เร่งด่วน ๒.ต่อเนื่อง ๓.เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติประเทศ ๔.ไม่อาจตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ทัน สรุปว่าไม่เข้าเงื่อนไขใดเลย ทั้งความเร่งด่วน ความต่อเนื่อง เพราะจ่ายเงินออกครั้งเดียว ๕ แสนล้าน ไม่ต่อเนื่อง มีที่ต่อเนื่องคือต้องใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย หรืออ้างว่าเพื่อแก้วิกฤติประเทศก็ไม่ได้มีวิกฤติร้ายแรง เช่นสงคราม โรคระบาดโควิด วิกฤติต้มยำกุ้ง ส่วนข้ออ้างไม่อาจตั้ง พระราชบัญญัติงบประมาณทัน ขณะนี้ พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๗ วงเงิน ๓.๔๘ ล้านล้านบาท ยังไม่ผ่านเข้าสภาเลย จะอ้างตั้งงบประมาณไม่ทันได้อย่างไร ด้วยเหตุนี้เมื่อจะดันทุรังทำต่อจึงต้องแตกออกเป็น พระราชบัญญัติงบประมาณ ๓.๔๘ ล้านล้านบาท และ พระราชบัญญัติเงินกู้ ๖ แสนล้านบาท ลึกๆแล้วคงคาดหวังอาศัยให้คณะกรรมการกฤษฎีกา รัฐสภา สส. สว. ศาลรัฐธรรมนูญ ช่วยโต้แย้งและล้มนโยบายแจกเงินดิจิทัล ด้วยการคว่ำร่าง พระราชบัญญัติเงินกู้แทน เพราะนโยบายที่เคยหาเสียงแล้วทำไม่ได้จริง เลิกดันทุรังเถอะtt tt“สมชัย” ย้ำ พระราชบัญญัติกู้เงินทางลงหนีคุกวันเดียวกัน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “หรือ พระราชบัญญัติเงินกู้คือ ทางลงของเศรษฐา” ว่า การใช้แหล่งเงินดิจิทัล ๑๐,๐๐๐ บาทจากการออกเป็น พระราชบัญญัติเงินกู้ อาจไม่ใช่การหาทางออก แต่เป็นการหาทางลงให้คุณเศรษฐา รัฐบาลไม่กล้าออกเป็น พ.ร.ก.ที่ทำได้โดยมติ คณะรัฐมนตรีในสมัยปิดสภาฯ ทั้งที่ปากพร่ำว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนฉุกเฉิน เพราะรู้ว่าออก พ.ร.ก.คือคุก และการออกเป็น พ.ร.บ. มีข้อแก้ตัวได้ว่าถ้าไม่สำเร็จ เป็นเพราะคนอื่นแทนแต่ตอนที่คุณเศรษฐายิ้มแย้มบอกว่าจะออกเป็น พระราชบัญญัตินั้น อาจไม่รู้ ไม่เข้าใจกลไกการออก พ.ร.บ. ทั้งขั้นตอนกฎหมายและความเขี้ยวของฝ่ายการเมือง วันแรกที่ พระราชบัญญัติเข้าสภาฯ อำนาจต่อรองของเพื่อไทยจะเป็นศูนย์ การยกมือแต่ละมือของพรรคร่วมรัฐบาลคือการคงอยู่หรือล้มหายของนายกฯชื่อเศรษฐา หาก พระราชบัญญัติไม่ผ่านสภาฯ นายกมี ๒ ทางเลือกคือ ยุบสภาหรือลาออกขู่แจกเงินหมื่นเจอเส้นทางวิบากนายสมชัยระบุว่า หากดันจนผ่านสภาผู้แทนฯได้ ยังมีด่านวุฒิสภา หากวุฒิสภายับยั้ง ต้องรออีก ๑๘๐ วัน จึงจะเสนอกลับมาใหม่ได้ ยังไม่คิดถึงกรณีถูกร้องศาลรัฐธรรมนูญว่าการออก พระราชบัญญัติเงินกู้ ขัดรัฐธรรมนูญ ขัดวินัยการเงินการคลังของรัฐ ดูเส้นทาง พระราชบัญญัติเงินกู้ที่มีเส้นทางวิบากเช่นนี้ จึงบอกได้เลยว่า เดือน พฤษภาคม๒๕๖๗ คืออีกหนึ่งขายฝันของรัฐบาลเพื่อไทย พอถึงพฤษภาอาจบอกว่า ใจเย็นๆ อีกครั้ง เพราะกระบวนการทั้งหมด ทั้งสภาผู้แทนวุฒิสภา หรืออาจไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ น่าจะไม่น้อยกว่า ๘ เดือน และโอกาสแจกได้จริง มีเพียง ๕๐/๕๐ หรือครึ่งต่อครึ่งเท่านั้น ไม่แน่นัก การรู้ว่า ออก พระราชบัญญัติมันยากเย็นขนาดนี้ อาจเป็นการหาทางลงที่ไม่ใช่ทางออกของคนยิ้มซื่อๆที่ชื่อเศรษฐา ทวีสิน อาจเป็นทางลงจากตำแหน่ง แต่ไม่ใช่ทางออกของการแจกเงินดิจิทัล ๑๐,๐๐๐ บาทป.ป.ช.ขยับขอรายละเอียดเงินดิจิทัลนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการคลัง แถลงรายละเอียดโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ๑ หมื่นบาทว่า ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.ตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาและดำเนินการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล กรณีการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาทผ่าน Digital Wallet หลังจากรัฐบาลแถลงรายละเอียดเมื่อวันที่ ๑๐ พ.ย. หลังจากนี้คณะกรรมการฯจะนำรายละเอียดดังกล่าวมาดู ทั้งขั้นตอน ใช้วิธีการอะไร ที่สำคัญคือแหล่งที่มาของเงิน คณะกรรมการฯจะนำรายละเอียดและข้อมูลมาวิเคราะห์ อาจจะต้องขอข้อมูลรายละเอียดจากรัฐบาล หรือกระทรวงการคลังในฐานะเจ้าภาพมาประกอบด้วย ป.ป.ช.มีอำนาจตามกฎหมายขอข้อมูลและรายละเอียดมาดูได้หากมีความสงสัย ส่วนผลการศึกษาของคณะกรรมการฯจะเสร็จเมื่อไหร่ขึ้นอยู่กับรายละเอียดที่ได้มาว่าครบถ้วนหรือไม่ ก่อนหน้านี้มีการประชุมกันไปบ้างแล้ว“บิ๊กป้อม” ทำบุญทอดกฐินเมืองกรุงเก่าเมื่อเวลา ๐๙.๐๐ น. ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางไปเป็นประธานพิธีทอดกฐินสามัคคีที่วัดเกาะแก้ว ต.กะมัง อ.พระนครศรีอยุธยา และวัดโพธิ์เผือก ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา พร้อม พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตรยังได้ถวายจตุปัจจัยสมทบทุนบูรณปฏิสังขรณ์ศาสนสถานทั้ง ๒ แห่ง และเป็นวัดที่ พล.อ.ประวิตรมาทำบุญทอดกฐินเป็นประจำทุกปี สำหรับที่วัดโพธิ์เผือก พล.อ.ประวิตรยังได้ประกอบพิธีทักษิณานุปทานอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลแก่คุณแม่สายสนี วงษ์สุวรรณ นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตรยังได้ทักทายประชาชนที่มาร่วมทอดกฐินและมาต้อนรับ“ปูอัด” โอ่ทั้งพรรค รบ.-ฝ่ายค้านรุมจีบเมื่อเวลา ๑๒.๐๐ น. ที่โรงเรียนศึกษาธรรมนูรุ้ลย่ากีน เขตจอมทอง นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ทำกิจกรรม ตัดผมฟรีเพื่อลดค่าใช้จ่ายให้กับชาวบ้านว่า ยังคงทำงานเหมือนเดิม ๗ วัน ปัญหาในพื้นที่มีมากมาย เขตจอมทองสำหรับตนหันหลังไปมีแค่ประชาชนจริงๆ อยากให้มนุษย์ทุกคนทราบว่ามาช่วยด้วยหัวใจ ไม่ได้ช่วยเพื่อว่าเราจะมาเอาตำแหน่งในอนาคต วันนี้ต่อให้ไม่มีโลโก้ก้าวไกล ก็ยังเดินหน้าอุทิศทุกลมหายใจให้กับทุกคนเหมือนเดิม ตราบที่วันสุดท้ายที่ตนจะออกจากสภาฯเมื่อถามว่า มีพรรคไหนติดต่อมาบ้างหรือไม่ นายไชยามพวานตอบว่า มีติดต่อมาหลายพรรคมาก ทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน แต่สิ่งที่เราโฟกัสคือการให้อิสระในการทำงาน ตนเป็นคนทำงานในพื้นที่หนัก เพื่อให้รู้สึกว่า สส. จับต้องได้ ไม่ได้สูงส่งไปกว่าใคร และให้อิสระทางด้านความคิด ส่วนจะย้ายไปสังกัดพรรคไหนยังไม่ตัดสินใจ อยู่ในช่วงที่หลายพรรคเข้ามาพูดคุย การจะไปอยู่กับใครเขาต้องเชื่อมั่นในอุดมการณ์ของเรา ยังมีเวลาตัดสินใจ เราก็จะได้คำตอบว่าจะย้ายไปอยู่พรรคไหน ยอมรับว่ามีความกังวลที่จะย้ายไปสังกัดพรรคอื่นเพราะปมคุกคามทางเพศ แต่ทั้งหมดให้ประชาชนเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าถูกหรือผิดกต.เร่งช่วย ๒๙๓ คนไทยในเมียนมาช่วงเช้า นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยผู้แทนสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง กรุงปักกิ่ง สถานกงสุลใหญ่ ณ คุนหมิง กรมการกงสุล และกรมที่เกี่ยวข้องของ กต. เพื่อติดตามสถานการณ์และประสานภารกิจการช่วยเหลือคนไทยในเมืองเล้าก์ก่าย เมียนมา จากนั้นกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มคนไทยยังอยู่ในพื้นที่เมืองเล้าก์ก่าย ๒๙๓ คน คือ ๑.กลุ่มอยู่ในความดูแลของทางการเมียนมาแล้ว ๑๖๔ คน ๒.กลุ่มที่ทำงานที่สถานบันเทิง KTV และแจ้งประสงค์จะกลับไทย ๑๘ คน และ ๓.คือกลุ่มที่นายจ้างเพิ่งปล่อยตัวออกมา และอยู่ในสถานที่ปลอดภัยและรอไปรวมกับคนไทยกลุ่มใหญ่ ๓๒ คน โดย ๓ กลุ่มนี้น่าจะเป็นกลุ่มที่พร้อมได้รับการส่งกลับไทย และยังมีกลุ่มที่นายจ้างยังไม่ปล่อยตัวทั้งสิ้น ๕๓ คน และกลุ่มที่เคยติดต่อขอรับความช่วยเหลือและยังติดต่อไม่ได้ คาดว่ายังอยู่ในพื้นที่หรือกลับประเทศไทยแล้ว ๒๖ คนวิดีโอคอลตรวจสัญชาติเตรียมอพยพกระทรวงการต่างประเทศระบุอีกว่า นอกจากนี้ยังได้รับรายงานว่ามีกลุ่มคนไทยประมาณ ๔๑ คนที่ถูกนายจ้างปล่อยตัวออกมาจากเมืองเล้าก์ก่ายและหลบหนีออกไปเมืองอื่นในความปกครองของกลุ่มว้าแดง สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้งกำลังประสานเพื่อรับตัวและหาเส้นทางที่เหมาะสมและปลอดภัยเคลื่อนย้ายกลับไทยต่อไป สถานการณ์การต่อสู้ในพื้นที่มีความรุนแรงขึ้น เมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายนมีระเบิดลงใกล้จุดที่พักคนไทย สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้งพยายามผลักดันขอเข้าพื้นที่ตรวจสอบสัญชาติและออกเอกสารเดินทางให้คนไทยต่อเนื่อง ยังไม่ได้รับอนุญาตจากทางการเมียนมา ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย จึงได้ตรวจสอบสัญชาติผ่าน video call แทน จะให้แล้วเสร็จวันที่ ๑๑ พฤศจิกายนรวมถึงจะออกเอกสารเดินทางให้คนไทย พร้อมประสานทุกฝ่ายเตรียมอพยพคนไทยอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่

เรื่องที่เกี่ยวข้อง