Saturday, 5 October 2024

อย่าลืม…“สวดมนต์ข้ามปี” กิจกรรม “คู่ขนาน” วันปีใหม่

ขณะผมนั่งเขียนต้นฉบับวันนี้ อุณหภูมิยามเช้าที่บ้านผมแถวๆการเคหะแห่งชาติ “บางกะปิ” หล่นลงมาที่ ๑๘ องศาเซลเซียส เป็นวันที่สองติดต่อกันแล้วครับสดชื่นรื่นรมย์อย่าบอกใครเชียว และทำให้รสชาติกาแฟที่แผงกาแฟโบราณข้างๆสวนพฤกษชาติ คลองจั่นใกล้ๆหมู่บ้านผมพลอยอร่อย กลมกล่อมลื่นลำคอตามไปด้วยดูจากที่โทรศัพท์มือถือพยากรณ์ล่วงหน้าไว้ แม้อากาศจะเริ่มอุ่นขึ้นตั้งแต่วันจันทร์ที่ ๒๕ ธันวาคมเป็นต้นไป แต่ก็จะป้วนเปี้ยนอยู่ที่ ๒๑-๒๒ องศาเซลเซียส ซึ่งก็ถือว่ายังเย็นๆอยู่เฉพาะคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อาทิตย์ที่ ๓๑ ธันวาคมนั้น จะอยู่ระหว่าง ๒๒-๒๓ องศาเซลเซียส เย็นกว่าอุณหภูมิห้องแอร์ทั่วๆไปที่เรามักจะตั้งไว้ที่ ๒๔ หรือ ๒๕ องศา…ก็น่าจะทำให้บรรยากาศของการเคาต์ดาวน์เป็นไปอย่างสดชื่นรื่นรมย์ กำลังดีไม่หนาวจัด หรือร้อนจัดจนเกินไปทำให้ผมคาดเดาล่วงหน้าว่าปีนี้จะมีผู้คนออกมาร่วมงาน “นับถอยหลัง” ตามสถานที่ที่จัดไว้อย่างยิ่งใหญ่อลังการในทุกๆแห่งที่กล่าวถึงไว้แล้วทั่วประเทศในข้อเขียนชุดซอกแซกเมื่อ ๒ วันที่แล้วก็พอดีนึกขึ้นมาได้ว่าในช่วงสัก ๑๐ กว่าปีที่ผ่านมานี้ กิจกรรมที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนถือได้ว่าเป็น “กิจกรรมคู่ขนาน” ของพิธีการ เคาต์ดาวน์ เห็นจะได้แก่ “กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี” นั่นเองผมจำได้ว่าก่อนหน้าที่ กระทรวงวัฒนธรรม, กรมการศาสนา, กรมศิลปากร, กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร และ ฯลฯ จะออกมาแจ้งให้ทราบว่าจะมีการจัดงาน “อารามอร่าม ๑๐ วัด”+พิพิธภัณฑ สถานแห่งชาติพระนครโดยจะมีการประดับไฟตามวัดต่างๆ ทั้ง ๑๐ วัดและพิพิธภัณฑสถาน แห่งชาติด้วยให้สวยสดงดงาม ในยามราตรี พร้อมกับเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเพลิดเพลินไปกับความวิจิตรตระการตา ตั้งแต่วันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๖ ถึง ๒ มกราคม ๒๕๖๗ นั้นได้มีหลายๆวัดในส่วนกลาง หรือ กทม.ของเรา ที่ได้แจ้งข่าวผ่าน เว็บไซต์ ของวัดมาแล้วว่าจะมีการจัด พิธีสวดมนต์ข้ามปี ประจำปีนี้ เช่นเดียวกับหลายๆปีที่ผ่านมาขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนและสาธุชนเข้าร่วมพิธีสวดมนต์ ซึ่งบางวัดก็จะเริ่มตั้งแต่ ๑๘.๐๐ น.เป็นต้นไป จนข้ามไปสู่ปีหน้าฟ้าใหม่สัก ๑๕ นาทีบ้าง ครึ่งชั่วโมงบ้างค่อยแยกย้ายกันกลับบ้านได้แก่ ๑. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ ๒. วัดอรุณราชวรารามฯ และ ๓. วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ฯ เป็นต้นต่อมาก็มีรายชื่อเพิ่มเติมมาอีก ได้แก่ ๔. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ๕.วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หรือ วัดภูเขาทอง และ ๖. วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษกซึ่งหลายๆวัดที่กล่าวถึงข้างต้นนี้ ต่อมาได้มีรายชื่ออยู่ในโครงการ “อารามอร่าม ๑๐ วัด” ด้วย จึงน่าจะอนุโลมได้ว่า นอกจากจะเปิดให้ไหว้พระชมแสงไฟและการประดับประดายามราตรีดังวัตถุประสงค์ที่แจ้งมาใหม่แล้ว วัดที่มีเจตนาแต่ดั้งเดิมว่าจะจัดสวดมนต์ข้ามปี อันได้แก่ วัดพระเชตุพนฯ, วัดอรุณราชวรารามฯ, วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ฯ และ วัดเบญจมบพิตรฯ ก็คงจะดำเนินกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีต่อไปตามเจตนารมณ์ในขณะที่วัดที่มาเข้าโครงการ “อารามอร่าม ๑๐ วัด” ซึ่งไม่ได้บอกไว้ว่าจะมีกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีหรือไม่ อันได้แก่ วัดราชบพิธ สถิตมหาสีมารามฯ, วัดไตรมิตรวิทยารามฯ, วัดประยุรวงศาวาสฯ, วัดสุทัศนเทพวรารามฯ, วัดราชนัดดารามฯ และ วัดระฆังโฆษิตารามฯ ที่ในถ้อยแถลงที่เป็นข่าวเบื้องต้นก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะจัดสวดมนต์ข้ามปีด้วยหรือไม่?ผมก็ขอเสนอผ่านกรมการศาสนา และกระทรวงวัฒนธรรม ฯลฯ ให้วัดทั้ง ๑๐ วัดที่อยู่ในโครงการ “อารามอร่าม” ดังกล่าว จัดสวดมนต์ข้ามปีในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ถึง ๑ มกราคมไปเสียด้วยเลยจะได้เป็นการเพิ่มพลังของการสวดมนต์ข้ามปี จากวัดเดิมที่จัดอยู่แล้วขึ้นมาอีกหลายๆวัดที่ล้วนแต่เป็นวัดใหญ่ และเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองทั้งสิ้น อันจะทำให้ผู้คนสนใจไปร่วมงานมากยิ่งขึ้นหวังว่ากิจกรรมคู่ขนาน “สวดมนต์ข้ามปี” จะกระหึ่มประเทศไทยและดังไปทั่วโลก ไม่แพ้กิจกรรม “เคาต์ดาวน์” นะครับ ในคืนส่งท้ายปีเก่า ๒๕๖๖ ต้อนรับปีใหม่ ๒๕๖๗ ที่กำลังจะมาถึงเร็วๆนี้.“ซูม”คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม