Wednesday, 13 November 2024

“เศรษฐา” ตรวจน้ำท่วมนราธิวาส บอก ไม่อยากมาในช่วงวิกฤติ แต่อยากมาสร้างการค้า

นายกฯ ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ลั่นยังไว้ใจไม่ได้แม้ฝนหาย สั่งดูระบบเตือนภัยครบวงจร ป้องกันเหตุซ้ำซาก วอน ประชาชนเชื่อคำประกาศคำเตือนจากรัฐ บอก ไม่อยากมาในช่วงวิกฤติ แต่อยากมาสร้างการค้า เผย ปภ. จะอยู่ในพื้นที่ต่อจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายวันที่ ๒๖ ธ.ค. ๒๕๖๖ เมื่อเวลา ๑๕.๔๐ น. นายเศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางถึงท่าอากาศยานนราธิวาส โดยมีนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมหน่วยงานราชการในพื้นที่ รอต้อนรับ โดยเมื่อนายกรัฐมนตรี ได้ทักทายและถ่ายรูปกับประชาชนที่มารอขึ้นเครื่องภายในสนามบิน จุดแรก นายกรัฐมนตรี เดินทางมายัง ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ตั้งอยู่ภายในที่ว่าการอำเภอระแงะ เพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งภายในศูนย์พักพิงแห่งนี้ ทั้งผู้สูงอายุและเด็กเข้าพักพิงกว่า ๒๐๐ คน โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในพื้นที่เริ่มลดลง ซึ่งวันนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากกระทรวงมหาดไทยได้ลงมาดูแล ตนเข้าใจว่าน้ำมาเร็ว มาแรง และมาเยอะ กว่าปกติ แต่การระบายก็เป็นไปได้ด้วยดี ขณะที่รัฐบาลเองต้องพยายามทำงานให้ดีขึ้นในแง่ของการเตือนภัย เนื่องจากปัญหานี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ พร้อมกับกำชับเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้ดูแลประชาชนที่เดือดร้อนให้ดี จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ก่อนที่จะเดินไปทักทายให้กำลังใจกับผู้สูงอายุและผู้ประสบภัย พร้อมพูดคุยกับทีมแพทย์ที่มาตั้งหน่วยบริการสาธารณสุข นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังมอบยาอาหารสัตว์พระราชทาน ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แก่ตัวแทนเกษตรกรในพื้นที่ และได้เยี่ยมโรงครัวของกองทัพบกที่มาตั้งรถให้บริการอาหารกับผู้ประสบภัย จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ชุมชนเขตเทศบาลตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งอยู่ใกล้กับคลองตันหยงมัส และเป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมบ้านเรือนของประชาชน โดยนายกรัฐมนตรี ได้สวมรองเท้าบูตเดินลุยน้ำ เพื่อไปพูดคุยกับประชาชนที่ประสบอุทกภัย นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ว่า หากย้อนไป ๓๖ ชั่วโมงก่อนหน้านี้สถานการณ์เลวร้ายกว่านี้ ซึ่งบริเวณที่สูงและที่ต่ำมีความแตกต่างกัน การไหลของน้ำลงสู่ทะเลที่รับน้ำเป็นไปด้วยดี และสถานการณ์ขณะนี้คลี่คลาย แต่น้ำมีการสะสมบริเวณปลายน้ำ ซึ่งนายเกรียง จะอยู่ดูแลภาพรวมทั้งหมด เนื่องจากขณะนี้น้ำมาเร็ว ซึ่งตามพยากรณ์อากาศถือว่าโชคดีเนื่องจากจะไม่มีฝนแล้วแต่ก็ไว้ใจไม่ได้ จึงต้องระมัดระวังให้ดี ซึ่งต่อไปจะต้องดูเรื่องระบบเตือนภัยให้ครบวงจร ทำงานเชิงรุกมากขึ้นในการเตือนภัยเมื่อถามว่า น้ำท่วมครั้งนี้ถือเป็นน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถือว่าเยอะที่สุด ซึ่งหากจะโยงการบริหารจัดการในพื้นที่ ๓ จังหวัด ในเรื่องของความสงบดีขึ้นแล้ว การค้าขายชายแดนระหว่างเรากับมาเลเซียก็ดีขึ้นแล้ว ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็เป็นเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น ซึ่งทุกหน่วยงานพร้อมจัดการ ส่วนกระทรวงมหาดไทยและสาธารณสุขจะต้องระวังเรื่องโรคระบาดทั้งหลายเมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีโครงการ แก้ไขปัญหาในระยะยาว เนื่องจากในพื้นที่ อุทกภัยอย่างต่อเนื่อง นายกฯ กล่าวว่า จะต้องดูองค์รวมทั้งหมดว่าสามารถแก้ไขได้แค่ไหน และมีโครงการขนาดใหญ่หรือไม่ แน่นอนว่าเรายังไม่อยากให้เกิดปัญหาซ้ำอีกซ้ำแล้วซ้ำซาก และเกิดการสูญเสียชีวิตเกิดขึ้นจึงต้องฝากพี่น้องประชาชน หากมีการเตือนภัยขอให้เชื่อกันหน่อย“ต้องระวังต่อไป เพราะตอนนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่ปลอดภัยนัก ขอให้ระมัดระวังให้ดีฟังการเตือนภัยให้ดี ระหว่างนี้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุขจะพยายามช่วยดูแลและเยียวยา ขอขอบคุณหน่วยงานรัฐทุกหน่วยงาน ที่ช่วยสละเวลามา และกองทัพเองก็มาทำครัวเคลื่อนที่ ช่วยบรรเทาไปได้มาก” นายกฯ กล่าวนายกรัฐมนตรียังได้กล่าวกับผู้ว่าฯ นราธิวาส ว่า ตนก็ไม่อยากที่จะมาในเหตุการณ์แบบนี้ อยากจะมาดูแลด้านการค้า เพราะสิ่งต่างๆ กำลังเป็นไปได้ด้วยดีทั้งเรื่องความสงบก็ดีขึ้น ด้านความมั่นคงก็มีการเจรจากับมาเลเซียได้ดีขึ้น พอเราเปิดการค้าชายแดนดีขึ้น ตนก็อยากมาทำกิจกรรมและจัดเทศกาลในพื้นที่ให้มากขึ้นผู้สื่อข่าวรายว่า การเดินทางลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาสครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้นั่งรถ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ หมายเลขทะเบียน กจ ๔๕๔๔ นราธิวาสนอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่าน X ขณะลงพื้นที่ ว่า “มีประชาชนได้รับผลกระทบ ๑๙,๖๒๔ ครัวเรือน จากสถานการณ์น้ำท่วม ๕ จังหวัดภาคใต้ สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยจ.นราธิวาสได้รับผลกระทบมากที่สุด ภาคใต้ตอนล่างปกติมีฝนตกตลอดทั้งปี ซึ่งจะหนักหากมีมรสุมและแรงกดอากาศต่ำเข้ามาพร้อมกันเหมือนขณะนี้ แต่หน่วยงานแจ้งว่าอุทกภัยจะไม่กินเวลานาน เพราะมีการระบายออกทะเลได้ ดังนั้น การระบายน้ำออกจึงเป็นเรื่องสำคัญในตอนนี้ ผมขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ทั้งบรรเทาภัย การให้ความช่วยเหลือ และการแจ้งเตือนประชาชน ผมขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคน โดยท่านเกรียง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยซึ่งดูกรม ปภ. จะอยู่ในพื้นที่ต่อจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายด้วยครับ”มีประชาชนได้รับผลกระทบ ๑๙,๖๒๔ ครัวเรือน จากสถานการณ์น้ำท่วม ๕ จังหวัดภาคใต้ สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยจ.นราธิวาสได้รับผลกระทบมากที่สุด ภาคใต้ตอนล่างปกติมีฝนตกตลอดทั้งปี ซึ่งจะหนักหากมีมรสุมและแรงกดอากาศต่ำเข้ามาพร้อมกันเหมือนขณะนี้… pic.twitter.com/CnXo๙czalu— Srettha Thavisin (@Thavisin) December ๒๖, ๒๐๒๓