Thursday, 10 October 2024

ติดหนึบหลายจุด แห่เคาต์ดาวน์ มุ่งหน้าสู่อีสานกับเหนือ บขส.-รถไฟก็แน่นเอี้ยด

นายกฯเยี่ยมศูนย์บริหารจัดการจราจรและอุบัติเหตุ ติดตามสภาพการจราจรของถนนสายหลักที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ เผยหลังเปิดมอเตอร์เวย์ใหม่ระบายดีขึ้น ๓๐% ย้ำเมาอย่าขับขอให้ใช้เวลากับครอบครัวให้มีความสุข ด้านถนนสายหลักทั้งเหนือ-อีสาน-ตะวันออก แน่นขนัดไปด้วยปริมาณรถหลายจุดติดขัดหนักหน่วงเหมือนเช่นทุกปี ขณะที่ประชาชนบางส่วนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวด้วยรถ บขส. รถไฟ แน่นขนัด ททท. ปลื้ม CNN เลือกถ่ายทอดสดเคาต์ดาวน์วัดอรุณฯเป็นหนึ่งในจุดสำคัญของโลก สมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสารจับมือแบรนด์ลีโอ สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม หน่วยงานพันธมิตรจัดงาน “KhaoSan Countdown ๒๐๒๔” ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสนุกข้ามปีกับกิจกรรมไฮไลต์คืนวันส่งท้ายปี ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๖วันที่ ๒๘ ธ.ค. เป็นวันที่สองที่ประชาชนทั่วประเทศ พากันเดินทางกลับภูมิลำเนาไปพบหน้าครอบครัวญาติพี่น้องรวมทั้งเดินทางท่องเที่ยวเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ ๒๕๖๗ และเป็นประจำทุกปีที่การจราจรในช่วงวันส่งท้ายปีตามถนนสายหลักของประเทศ ทั้งสายเหนือสายอีสานสายใต้และสายตะวันออกจะติดขัดอย่างหนักถนนสายเอเชียรถติดทั้งวันผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ ๒๘ ธ.ค. ถึงสภาพการจราจรบนถนน สายเอเชียขาออก ช่วงผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มุ่งหน้าสู่จังหวัดต่างๆของภาคเหนือ ว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าถึงเย็นมีปริมาณรถจำนวนมาก เดินทางออกจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมุ่งไปยังจุดหมายปลายทาง โดยรถเคลื่อนตัวได้อย่างช้าๆ บางช่วงมีชะลอตัวสลับหยุดนิ่งเป็นระยะ จาก จ.พระนครศรีอยุธยา ผ่าน จ.อ่างทอง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี เรื่อยไปจนถึง จ.นครสวรรค์ มีรถหนาแน่นเต็มพื้นผิวถนน โดยเฉพาะที่แยกมณีวงศ์ อ.พยุหะคีรี รถติดยาวเหยียดถึง ๘ กม. ส่วนที่สะพานเดชาติวงศ์ อ.เมืองนครสวรรค์ ตำรวจได้เปิดช่องทางพิเศษ พร้อมประกาศเสียงตามสายประชาสัมพันธ์เส้นทางต่างๆ และรายงานปัญหาการจราจรเส้นทางขึ้นสู่ภาคเหนือให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทราบเพื่อวางแผนการเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย โดยการจราจรรอบนอกตัวเมืองนครสวรรค์ยังใช้ความเร็วได้ตามปกติ มีเพียงในตัวเมืองที่มีรถติดสะสมตามแยกสัญญาณไฟและตำรวจได้ควบคุมสัญญาณไฟด้วยมือแทนแบบอัตโนมัติเพื่อเร่งระบายรถกำแพงเพชรแจกกาแฟ—ผ้าเย็นที่จุดตรวจความพร้อมของผู้ขับรถโดยสารประจำทางและผู้ขับรถ ที่บริเวณ ต.ทรงธรรม อ.เมือง กำแพงเพชร น.ส.สุพัตรา คล้ายทิม รอง ผวจ.กำแพงเพชร เป็นประธานเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ทางถนนและจุดตรวจความพร้อมของผู้ขับขี่รถโดยสาร ประจำทางและผู้ขับรถ รวม ๒ จุด คือ เที่ยวขาออกอยู่บนถนนพหลโยธิน หน้าฝ่ายก่อสร้างที่ ๒ สำนักงานชลประทานที่ ๔ ขาเข้าตั้งอยู่หน้างานสวนป่ากำแพง (โรงเลื่อยกำแพง) องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่เดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่และบริการประชาชนด้านต่างๆ เช่น รับแจ้งอุบัติเหตุ แก้ไขปัญหาฉุกเฉินระหว่างเดินทาง ตรวจเช็กสภาพรถ ซ่อมรถยนต์ ฯลฯ บริการน้ำดื่ม กาแฟ ผ้าเย็น แจกแผ่นพับแนะนำเส้นทางตลอดทั้งการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เป็นต้นtt ttตากปิดจุดกลับรถ ๘ แห่งที่ จ.ตาก บรรดารถที่เดินทางผ่านจังหวัดนครสวรรค์และกำแพงเพชรมาถึงตาก ต่างมาติดสะสมตามแยกสัญญาณไฟต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องควบคุมสัญญาณไฟจราจรตามแยกให้สัมพันธ์กับปริมาณรถ ช่วยลดปริมาณรถติดสะสมช่วงตัวเมืองตากได้มาก ขณะที่แขวงทางหลวงตาก ที่ ๑ ติดตั้งป้ายปิดจุดกลับรถบนเส้นทางสายหลักขึ้นสู่ภาคเหนือ ได้แก่ ถนนพหลโยธิน รวม ๘ แห่งในพื้นที่ อ.วังเจ้า อ.เมืองตาก อ.บ้านตากและ อ.สามเงา ส่วนถนนจรดวิถีถ่อง ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๒ จำนวน ๒ แห่ง เริ่มปิดจุดกลับรถตั้งแต่วันที่ ๒๗ ธันวาคมเข้มสวมหมวกนิรภัยเมาไม่ขับส่วนที่ถนนขาเข้าเมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก มีเจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจเพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุทางถนน นายภูสิต สมจิตต์ ผวจ.พิษณุโลก สั่งการให้ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองพิษณุโลก ตำรวจทางหลวง ๓ กองกำกับการ ๕ กองบังคับการตำรวจทางหลวง ๓ (พิษณุโลก) อาสาสมัครรักษาดินแดน และชุดปฏิบัติการ พิเศษ DOPA ๓๗ ร่วมบูรณาการปฏิบัติหน้าที่ป้องปราม การกระทำความผิดกฎหมาย เช่น เมาแล้วขับ ไม่สวมหมวกนิรภัย ที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเกิดอุบัติเหตุ ในเขตพื้นที่ของอำเภอเมืองพิษณุโลกเชียงใหม่จัดระเบียบรถขึ้นดอยสุเทพที่ทางหลวงหมายเลข ๑๑ ถนนเชียงใหม่-ลำปาง ขาเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ บ่ายวันที่ ๒๘ ธ.ค. มีปริมาณรถหนาแน่น จากผู้ที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวสัมผัสอากาศหนาวเย็นช่วงวันหยุดยาวและตลอดวันที่ ๒๙ ธ.ค. ที่เป็นวันหยุดราชการวันแรกปริมาณรถหนาแน่นมากขึ้นกว่าเท่าตัว ถนนศรีวิชัยเส้นทางขึ้นสู่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร อ.เมืองเชียงใหม่ มีประชาชนจำนวนมากเดินทางขึ้นไปกราบสักการะองค์พระธาตุดอยสุเทพ กลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จัดระเบียบการจราจร โดยกำหนดเวลาให้รถขึ้นระหว่างวันที่ ๒๙ ธันวาคม๒๕๖๖—๒ มกราคม๒๕๖๗ สองช่วงเวลาเท่านั้น คือ ช่วงเช้า ๐๖.๐๐-๐๙.๐๐ น. ช่วงบ่ายเวลา ๑๒.๐๐-๑๕.๐๐ น. แก้ปัญหารถติดและลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากเป็นเส้นทางสูงชันและจังหวัดเชียงใหม่ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๖๗ พร้อมกับ ๗๖ จังหวัดทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ ๒๙ ธันวาคม๒๕๖๖- ๔ มกราคม๒๕๖๗ มีการนำนวัตกรรมมาช่วยในการบังคับใช้กฎหมาย ด้วยการใช้กล้องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ ผู้ไม่สวมหมวกนิรภัยและผู้ฝ่าฝืนกฎจราจร รวมถึงเพิ่มความปลอดภัยในสถานที่เฉลิมฉลองและขอความร่วมมืองดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โคราชรถบรรทุกต้นตอปัญหารถติดส่วนสภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพช่วงผ่านจังหวัดนครราชสีมา เมื่อบ่ายวันที่ ๒๘ ธ.ค. มีปริมาณรถหนาแน่นต่อเนื่อง การจราจรบางจุดชะลอตัวและติดขัดจนเกิดการสะสมของปริมาณรถ ที่ส่วนใหญ่ เป็นรถยนต์ส่วนตัว ประกอบกับบรรดารถ ๑๐ ล้อ รถพ่วง รถเทรเลอร์ขนาดใหญ่ยังวิ่งสัญจรอยู่ ทำให้เกิดปัญหาในการเดินทางอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงทางขึ้นเขาเขต ต. กลางดง อ.ปากช่อง บริเวณริมเขื่อน ลำตะคอง ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จุดทางต่างระดับ และบริเวณแยกสัญญาณไปจราจรในเขตชุมชน เช่น แยกบ้านโพธิ์ อ.เมืองนครราชสีมา แยกตลาดแค อ.โนนสูง แยกบ้านวัด อ.คง แยกสีดา อ.สีดา เป็นต้น ช่วงเย็นเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงนครราชสีมาได้ปิดจุดกลับรถที่เป็นจุดเสี่ยงบนถนนมิตรภาพ ตั้งกรวยยางเปิดช่องทางพิเศษตามจุดที่มีการจราจรติดขัดยาว รวมทั้งเส้น ๓๐๔ กบินทร์บุรี-นครราชสีมาปริมาณรถมากช่วง อ.วังน้ำเขียว เกิดการติดขัดช่วง ต.อุดมทรัพย์ยาวกว่า ๒ กม. ต่อเนื่องช่วงผ่าน อ.ปักธงชัยฯ ไปยังทางต่างระดับสามแยกปัก เข้าบรรจบกับรถที่มาจากถนนมิตรภาพ ทำให้ช่วง กม.ที่ ๒-๕ เส้นบายพาสเลี่ยงเมืองนครราชสีมาติดขัดสลับหยุดนิ่งเป็นช่วงๆ และช่วงหลัก กม.ที่ ๗-๙ เคลื่อนตัวช้าๆ ใช้ความเร็วได้เพียง ๑๐-๒๐ กม./ชม.มอเตอร์เวย์ M๖ ช่วยระบายจราจรขณะที่การเปิดให้บริการทางหลวงพิเศษระหว่าง เมืองหมายเลข ๖ หรือมอเตอร์เวย์ M๖ ได้เปิดให้ประชาชนตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ ๒๗ ธ.ค. ประชาชนใช้ฟรีตลอด ๒๔ ชั่วโมง เฉพาะรถยนต์ ๔ ล้อเท่านั้น เพื่อช่วยระบายการจราจรบนถนนมิตรภาพ โดยเปิดให้ใช้ตั้งแต่ช่วงตอน ๒๔ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง ถึงช่วงตอน ๔๐ อ.เมืองนครราชสีมา แบบไปกลับ ๔ ช่องจราจร ระยะทาง ๗๗.๔๙ กิโลเมตร ตามเส้นทางจะไม่มีปั๊มน้ำมัน แต่จะมีจุดบริการห้องน้ำให้หยุดพัก ๑ จุด ช่วง กม.ที่ ๑๔๗ อ.ปากช่อง-อ.สีคิ้ว ทั้งขาเข้า-ขาออก ทั้งนี้หลังจากเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการพบว่ามีรถยนต์ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ M๖ เป็นจำนวนมาก ช่วยแบ่งเบาสภาพการจราจรติดขัดบนถนนมิตรภาพได้อย่างดีถนน ๓๐๔ รถหนาแน่นทั้งวันทั้งคืนด้านบรรยากาศการเดินทางบนถนนสาย ๓๐๔ ตั้งแต่ช่วงแยกสะพานยกระดับ มาตามถนนสาย ๓๐๔ และสาย ๓๕๙ มุ่งหน้า จ.สระแก้ว ที่มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาหนาแน่นตลอดคืนวันที่ ๒๗ ธันวาคมต่อเนื่องมาจนถึงช่วงบ่าย ตั้งแต่ อ.ศรีมหาโพธิ มุ่งหน้า อ.กบินทร์บุรี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา มีประชาชนเดินทางหนาแน่น จนมีปริมาณรถจำนวนมาก โดยเฉพาะตามแยกสัญญาณไฟต่างๆ ตั้งแต่แยกโรจนะ แยกระเบาะไผ่ แยกคลองรั้ง มุ่งหน้ากบินทร์บุรี แต่รถยังเคลื่อนตัวได้สลับหยุดนิ่งกับชะลอตัวตามแยกสัญญาณไฟต่างๆ ส่วนตามปั๊มน้ำมันหลายปั๊มมีรถแวะจอดเติมน้ำมัน พักรถ ทานอาหาร หรือจอดนอนพักคลายง่วงก่อนเดินทางต่อกันจำนวนมาก ขณะเดียวกัน เกิดอุบัติเหตุรถชนกัน ๔ คัน ช่วงก่อนถึงสะพานลอยคลองรั้ง อ.ศรีมหาโพธิ แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บtt tt“สุริยะ” ตรวจสถานีรถไฟหัวหินที่สถานีรถไฟหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการคมนาคม พร้อมคณะเดินทางมาตรวจการเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกและปลอดภัยให้แก่ประชาชน ช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่สถานีรถไฟหัวหิน โดยมีนายอวิรุทธ์ ทองเนตร รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รอง ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ น.ส.ทวีพร เพิ่มทวี ขนส่งจังหวัดประจวบฯ ผู้บริหารกระทรวงคมนาคม นายสถานีรถไฟหัวหิน ให้การต้อนรับ พร้อมกันนี้ นายสุริยะได้แจกกระเป๋าช็อปปิ้งให้กับเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ และประชาชนที่มาใช้บริการที่สถานีรถไฟหัวหินด้วย นายสุริยะกล่าวว่าสถานีรถไฟหัวหิน เป็นสถานีสำคัญที่เดินทางจากกรุงเทพฯ สู่ภาคใต้ การรถไฟแห่งประเทศไทยกำลังปรับปรุงให้มีสภาพที่ดีขึ้น เพราะต่อไปกระทรวงคมนาคมจะเน้นการเดินทางระบบราง เพื่อจะให้ประชาชนเดินทางได้รวดเร็ว ตอนนี้มีการสร้างรางคู่แล้ว ฉะนั้นการเดินทางเดิมใช้เวลา ๔-๕ ชั่วโมง แต่หลังจากเปิดใช้รางคู่ จะไม่เกิน ๓ ชั่วโมง นอกจากจะเป็นการขนส่งผู้โดยสารที่มีประสิทธิภาพแล้ว ยังมีการขนส่งสินค้าต่างๆ ทำให้ลดต้นทุนแห่ใช้บริการรถไฟแน่นขนัดขณะเดียวกันในวันที่ ๒๘ ธันวาคมที่เป็นวันทำงานวันสุดท้ายก่อนหยุดเทศกาลปีใหม่ ๒๕๖๗ มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางไปขึ้นรถกลับภูมิลำเนาและไปท่องเที่ยวที่สถานีขนส่งต่างๆ อย่างหนาแน่น โดยเฉพาะที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) มีประชาชนใช้บริการรถไฟสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือจำนวนมาก การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ประมาณว่าจะมีผู้เดินทางโดยรถไฟถึง ๑ แสนคน จึงเปิดบริการขบวนรถพิเศษอีก ๔ ขบวน ในเส้นทางสายเหนือ ๒ ขบวน ได้แก่ ขบวนรถที่ ๕ กรุงเทพ-เชียงใหม่กับ ขบวนรถที่ ๙๕๕ กรุงเทพ-ศิลาอาสน์และเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ ๒ ขบวน ได้แก่ รถที่ ๙๖๗ กรุงเทพ-อุดรธานี กับ ขบวนรถที่ ๙๗๗ กรุงเทพ-อุบลราชธานี พร้อมกับเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวด้วยการจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังความปลอดภัยจากกล้องวงจรปิด CCTV ตามสถานีและบนขบวนรถทุกขบวน และรับแจ้งเหตุต่างๆ ตลอด ๒๔ ชั่วโมงรถ บขส.คนใช้บริการแน่นเอี้ยดทางด้านบรรยากาศสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ หรือหมอชิต ๒ ตลอดทั้งวัน มีประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เดินทางออกจากกรุงเทพฯ กันอย่างคึกคัก ผู้คนจำนวนมากหิ้วกระเป๋า แบกกระสอบ ข้าวของต่างๆ มาขึ้นรถโดยสาร ทำให้เคาน์เตอร์ขายบัตรโดยสาร มีผู้โดยสารที่ไม่ได้จองที่นั่งล่วงหน้ามาต่อแถวยาวรอซื้อตั๋วและระหว่างวันที่ ๒๗-๒๙ ธ.ค. คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ยวันละ ๗๐,๐๐๐ คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส. รถร่วม รถตู้) เฉลี่ยวันละ ๔,๐๐๐ เที่ยว ส่วนเที่ยวกลับระหว่างวันที่ ๑-๓ มกราคม๖๗ คาดว่ามีผู้โดยสารเดินทาง เฉลี่ยวันละ ๖๐,๐๐๐ คน ใช้รถโดยสารประมาณ ๓,๘๐๐ เที่ยว ขอให้ผู้ใช้บริการเผื่อเวลาเดินทางมาขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งฯ ก่อนเวลารถออกอย่างน้อย ๒-๓ ชั่วโมง และขอให้ซื้อตั๋วที่ช่องจำหน่ายตั๋วเท่านั้น เพื่อป้องกันการหลอกลวงจากกลุ่มมิจฉาชีพ รวมทั้งให้ตรวจสอบรายละเอียดในตั๋วโดยสาร เช่น เส้นทาง เที่ยวเวลา จุดขึ้นรถก่อนออกเดินทางทุกครั้งนายกฯห่วง ปชช.ตรวจศูนย์ฯ จราจรที่ศูนย์บริการประชาชนกรมทางหลวง กรมทางหลวง กทม. ตอนสายวันเดียวกัน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ตรวจเยี่ยมศูนย์บริหารจัดการจราจรและอุบัติเหตุ เพื่อติดตามการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๖๗ แบบเรียลไทม์ มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการคมนาคม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดคมนาคม ต้อนรับ และรายงานการให้บริการโครงข่ายสายทางทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) ช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๖๗ และสภาพจราจรแบบเรียลไทม์ ถนนมิตรภาพ สายเอเชีย ถนนพระราม ๒ เส้นทางหลักที่ประชาชนจะใช้สัญจรจำนวนมาก ช่วงปีใหม่ คาดการณ์ว่าในวันที่ ๒๙ ธ.ค. ประชาชนจะออกเดินทางมากที่สุด และจะเดินทางกลับเข้า กทม.มากที่สุดในวันที่ ๒ มกราคม๖๗ จากนั้นนายกฯ เยี่ยมชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ และคอลเซ็นเตอร์ ที่คอยรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน พร้อมให้กำลังใจให้ใช้เวลาปีใหม่อย่างมีความสุขนายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่า มาติดตามสถานการณ์เรียลไทม์ของกรมทางหลวง สภาพการจราจรของถนนทุกสาย ขอชื่นชมกรมทางหลวงที่ช่วยเปิดถนนบางสายให้บริการประชาชนฟรี เพื่อระบายการจราจร ส่วนเส้นทางที่ติดขัดคือเส้นทางมิตรภาพไป จ.นครราชสีมา เนื่องจากมีประชาชนเดินทางไปท่องเที่ยวเขาใหญ่จำนวนมาก ทำให้การจราจรติดขัด ๖-๗ ชั่วโมง แต่จากการรับฟังบรรยายพบว่าจากการเปิดใช้มอเตอร์เวย์แห่งใหม่สามารถระบายรถได้ประมาณ ๓๐% ถือเป็นนิมิตหมายอันดีและทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น ได้ติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ที่รับสายร้องเรียนเข้ามาที่กรมทางหลวง วันที่ ๒๘ ธ.ค. มีประมาณ ๘๐๐ สาย เจ้าหน้าที่มีความพร้อมในการทำงานมาก ต้องขอบคุณในความเสียสละที่จะต้องอยู่กับครอบครัวมาช่วยกันทำงาน ขอฝากไปถึงประชาชนที่เดินทางกลับบ้าน อยากให้ใช้เวลาให้มีค่ากับครอบครัวอย่างมีความสุข ระมัดระวังเรื่องการดื่มไม่ขับเดินทางกลับให้ระวังเตือนดื่มอย่าขับเดินทางกลับให้ระวังผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯเป็นห่วงการเดินทางในช่วง ๗ วันเฝ้าระวังอันตรายหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ห่วงตลอด โดยเฉพาะเรื่องการดื่มไม่ขับ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นคือเกิดจากการเมาแล้วขับ ให้ระมัดระวังให้ดี เพราะอยากให้ทุกคนมีความสุข ขณะที่กระทรวงคมนาคม พยายามทำงานให้เต็มที่ เมื่อถามย้ำว่าประชาชนส่วนใหญ่จะเดินทางกลับบ้านในวันที่ ๑ มกราคม๖๗ บางส่วนมีอาการแฮงก์หลังจากฉลอง หรือพักผ่อนไม่พอ อาจมีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ รัฐบาลจะมีแนวทางดำเนินการอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวย้ำว่า อย่างที่บอกดื่มแล้วอย่าขับ ดื่มแล้วควรนอนพักถนนข้าวสารจัดงานเคาต์ดาวน์ในส่วนการท่องเที่ยวเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ในกรุงเทพมหานคร สมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร จับมือแบรนด์ลีโอ สถานีตำรวจนครบาลชนะสงครามและหน่วยงานพันธมิตรต่างๆ ผนึกกำลังจัดงาน “KhaoSan Countdown ๒๐๒๔” ร่วมส่งท้ายปี ๒๕๖๖ ต้อนรับปี ๒๕๖๗ จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ ๒๐ ธ.ค. -๓๑ ธันวาคม๒๕๖๖ ไฮไลต์จะมีในคืนวันที่ ๓๑ ธันวาคมที่เป็นคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เริ่มตั้งแต่เวลา ๑๖.๐๐-๒๔.๐๐ น. สนุกกับมินิคอนเสิร์ตแบบจัดเต็มจากศิลปินและ DJ กับโชว์ต่างๆที่มาร่วมสร้างความสุขให้กับนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ “ถนนข้าวสาร” ถือเป็นอีกหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกรอคอยที่จะมาพบกับความสุขและสนุกสนานต้อนรับปีใหม่ งานจัดขึ้นภายใต้คอนเซปต์ “เที่ยวเมืองไทย สนุกปลอดภัย” เป็นส่วนหนึ่งในแผนงานในการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวถนนข้าวสารสู่เป้าหมาย ๑๐ ล้านคนในปี ๒๕๖๗ พร้อมยกระดับให้ถนนข้าวสารเป็นอีกหนึ่งจุดบนแผนที่เคาต์ดาวน์ของประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชีย พร้อมก้าวสู่ “แลนด์มาร์ก” สถานที่เคาต์ดาวน์ที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกด้วยททท.ปลื้ม CNN แพร่ภาพสดวัดอรุณฯน.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า CNN International ประกาศเฉลิมฉลองวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ด้วย “New Year’s Eve Live” การถ่ายทอดสดกิจกรรมเคาต์ดาวน์ทั่วโลกและได้เลือก “วิจิตรอรุณ” เป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญและตัวแทนกิจกรรมเอกลักษณ์ของไทยที่จะถูกถ่ายทอดสดครั้งนี้ สำหรับกิจกรรม “วิจิตรอรุณ” ถือเป็นไฮไลต์ของกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในเดือนธันวาคม ๒๕๖๖ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เนรมิตพื้นที่สวนนคราภิรมย์ กรุงเทพฯ ให้เป็นสถานที่เฉลิมฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ยิ่งใหญ่ ด้วยภาพความสวยงามของแลนด์มาร์กประเทศไทยอย่าง “พระปรางค์วัดอรุณฯ” คู่กับนวัตกรรมแสง สี เสียง และสื่อประสมที่ทันสมัย ผสมผสานการแสดงทางวัฒนธรรม ปิดท้ายด้วยการแสดงพลุที่สวยงามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ยาวต่อเนื่องกว่า ๗ นาที แบ่งเป็น ๙ องก์ ประกอบด้วย อรุณรุ่ง อรุณแห่งศรัทธา รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย ดินแดนแห่งความสุข สยามเมืองยิ้ม รุ่งอรุณแห่งการท่องเที่ยว แสงอรุณแห่งอิสระเสรี เจริญ รุ่งโรจน์ และแสงอรุณแห่งความเชื่อ ศรัทธา ก้าวหน้า รอยยิ้มสะท้อนสัญญาณแห่งการเริ่มต้นปีศักราชและส่งมอบความสุขต้อนรับปีใหม่ ๒๕๖๗สู่สายตาชาวโลกคืนส่งท้ายปีเช่นซิดนีย์“ททท. คาดว่าการที่ CNN ได้เลือกวิจิตรอรุณเป็นตัวแทนประเทศไทยสำหรับการถ่ายทอดสดนั้น เป็นเพราะกิจกรรมนี้ได้นำเสนอความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมประเพณีไทยร่วมกับสถานที่ที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญ คือ “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก และยังคาดว่า “New Year’s Eve Live” จะเป็นที่สนใจของผู้รับชม CNN International กว่า ๓๔๗ ล้านครัวเรือนทั่วโลก เนื่องจากมีการถ่ายทอดสดจากสถานที่เอกลักษณ์สำคัญของโลก อาทิ นครซิดนีย์ กรุงโตเกียว ไปจนถึงไทม์สแควร์ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหวังเป็นอย่างยิ่งกิจกรรมนี้จะช่วยส่งต่อภาพความสวยงามของวัฒนธรรมประเพณีและแหล่งท่องเที่ยวไทยผลักดันให้ประเทศ ไทยเป็นจุดหมายปลายทางในใจที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะจดจำ ประทับใจและอยากเดินทางมาเยี่ยมเยือนในอนาคต” ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกล่าวตอนท้ายอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่