“เศรษฐา” พร้อมนำเสนอร่าง พระราชบัญญัติงบฯ ออกตัวให้ สส.ว่ากันที่งบประมาณ ไม่ใช่เวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่เอาทีมองครักษ์ ขอชี้แจงเอง ไม่เร่งเร้ากฤษฎีกาตอบปมแจกเงินหมื่น ฤกษ์งามยามดีนอนทำเนียบฯตั้งแต่ ๗ ม.ค. เลขาฯวิป รบ.อ้างไม่ได้จัดทำงบฯปี ๖๗ เองกับมือ อาจไม่มีประสิทธิภาพตามที่หวัง “ชัยธวัช” ชี้ก้าวไกลจับตางบฯซอฟต์พาวเวอร์ใช้ไม่ตรงปก ยันใช้ข้อมูลเหตุผลยกระดับคุณภาพการอภิปราย ย้ำจุดยืนฝ่ายค้านยุคนี้ไม่ใช่ค้านทุกเรื่อง-เลิกแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ก้าวไกลใช้ช่วงหยุดยาวปีใหม่เตรียมข้อมูลชำแหละงบฯ ตอกหน้ารัฐบาลอย่าใช้วิธีมัดมือชก ในการจัดทำงบฯปี ๖๘ อีกพรรคก้าวไกลแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านถือ โอกาสใช้ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลขึ้นปีใหม่ ๒๕๖๗ เตรียมความพร้อมข้อมูลในการอภิปรายชำแหละร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๗ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน ดักคอรัฐบาลอย่าใช้วิธีมัดมือชกแบบนี้อีก ในการจัดทำงบประมาณปี ๒๕๖๘tt tt“เศรษฐา” ให้ สส.ว่ากันที่งบฯ ๖๗เมื่อเวลา ๑๑.๑๐ น. วันที่ ๑ ม.ค. ที่วัดราชบพิธ สถิตมหาสีมาราม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมพร้อมในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๗ ระหว่างวันที่ ๓-๕ ม.ค. ว่า พูดคุยประชุมกันไปแล้วตั้งแต่ก่อนเทศกาลปีใหม่ และในช่วงปีใหม่ได้เจอกับรัฐมนตรีบางคน ก็มีการพูดคุยกัน รัฐบาลเป็นผู้ที่เสนอ สภาฯมีหน้าที่ตรวจสอบ และรัฐบาลมีหน้าที่อธิบายก็ทำไป ตามหน้าที่ เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่าเวทีพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณฯ ปี ๖๗ จะกลายเป็นเวทีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯตอบว่า เชื่อว่า สส.ทุกคนรู้จักหน้าที่ตัวเอง เป็นการพิจารณางบประมาณเราก็ต้องพูดกันถึงเรื่องงบประมาณ แต่ถ้ามีข้อกังขาอะไรที่ไม่ชัดเจนเราจะพยายามชี้แจงเต็มที่ จะเป็นคนพูดเปิดและอ่านให้ฟังว่าร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณฉบับนี้มีอะไรบ้าง เข้าใจว่าใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงไม่มีตบทรัพย์-ไม่เอาองครักษ์ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความพร้อมแค่ไหน นายเศรษฐาตอบว่า “เตรียมตัวพร้อมครับ อย่างไรก็พร้อม” เมื่อถามว่าจะมีการกำชับในที่ประชุมหรือไม่ ว่าจะไม่ให้เกิดการตบทรัพย์เหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีต นายกฯตอบว่า ไม่เคยทราบในเรื่องนี้ แต่ทุกคน มีศักดิ์ศรี เชื่อว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีใครรับได้ ทุกท่านรู้หน้าที่ตัวเองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องกำชับ เมื่อถามต่อว่าจำเป็นต้องมีองครักษ์พิทักษ์นายกฯหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า คงไม่มี ทุกคนมีหน้าที่ก็ชี้แจงกันไป สภาฯเองมีหน้าที่สอบถาม เราในฐานะผู้บริหาร ก็ต้องชี้แจงไม่เร่งรัดกฤษฎีกาแจกเงินหมื่นนายเศรษฐากล่าวถึงความคืบหน้ากรณีรัฐบาลส่งหนังสือไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ดูรายละเอียดในเรื่องโครงการเติมเงิน ๑ หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตว่า ยังเปิดทำการสัปดาห์หน้าจึงจะทราบ และคงไม่มีการเร่งรัดอะไรไป เพราะเร่งรัดไม่ได้ เรื่องพวกนี้ก้าวก่ายไม่ได้ฤกษ์ดีนอนทำเนียบฯ ตั้งแต่ ๗ มกราคมนายกฯกล่าวถึงกำหนดการนอนพักค้างคืนที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ฤกษ์ให้นอนได้ตั้งแต่วันที่ ๗ ม.ค. เป็นต้นไป แต่ครั้งแรกอาจมีฟันหลอบ้าง หมายความว่า บางวันอาจไม่ได้ ต้องดูกันนิดนึง อย่างวันที่ ๗ ม.ค. นอนไม่ได้ เพราะวันที่ ๘ ม.ค. มีภารกิจลงพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด เมื่อถามย้ำว่าวันที่ ๒ ม.ค. ยังไม่นอนค้างคืนที่ทำเนียบรัฐบาลใช่หรือไม่ นายกฯตอบว่า เริ่มนอนค้างคืนได้ตั้งแต่วันที่ ๗ ม.ค. ฤกษ์คือวันที่ ๗ ม.ค. ส่วนความคาดหวังในปีงูใหญ่ หรือที่หลายคนมองว่าเป็นปีมังกรทองนั้น ต้องดูที่ประชาชนเป็นหลัก ต้องดูแลทั้ง ๓ สถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนต้องดูให้ทุกมิติ ไม่ใช่แต่เรื่องเศรษฐกิจหรือปากท้องอย่างเดียว ยืนยันว่าสิ่งที่ตั้งใจไว้ยังเหมือนเดิม คือแก้ไขปัญหาประชาชนทุกมิติ อะไรทำได้ก็ทำก่อน เช่น การปรับโครงสร้างพัฒนาในหลายเรื่อง ถือเป็นภารกิจที่เยอะและใหญ่ เมื่อถามว่าปี ๒๕๖๗ ต้องทำงานหนักกว่าเดิมหรือไม่ นายกฯตอบว่า ขอใช้คำว่าทำงานหนักเหมือนเดิมดีกว่า รัฐมนตรีทุกคนจากทุกพรรคก็ทำงานเต็มที่tt ttอย่าเครียดเกมนับองค์ประชุมขณะที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวอวยพรประชาชนเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ๒๕๖๗ ให้ประชาชนคนไทยทุกคนมีสุขภาพอนามัยแข็งแรง ในฐานะประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร จะพยายามทำให้รัฐสภาเป็นที่พึ่งประชาชน เป็นของประชาชนทุกคน การทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาเพื่อรักษาผลประโยชน์ดูแลควบคุมฝ่ายบริหาร ขอให้ประชาชนทำหน้าที่ตัวเองตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่แค่เลือก สส.มาทำหน้าที่แล้วจบ ขอให้ติดตามการทำงานของรัฐสภา รัฐบาล ติดตามการประชุม อย่าไปมีความทุกข์มากเมื่อสภาถกเถียงกัน บางทีก็มีปัญหาการนับองค์ประชุม อยากให้เข้าใจสภาเป็นเวทีถกเถียงตัดสินหาทางออกให้ประชาชน สมาชิกมี ๕๐๐ คน อยากให้ประชาชนสบายใจที่มีสภามาจากการเลือกตั้งโดยรัฐธรรมนูญแล้ว ยืนยันจะทำหน้าที่ยึดมั่นความเป็นกลางรบ.อ้างไม่ได้ทำงบฯ ๖๗ กับมือนายศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส.เลย พรรคเพื่อไทย เลขานุการวิปรัฐบาล กล่าวว่า มี สส.หลายคนอยากร่วมอภิปรายร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจําปี ๒๕๖๗ จะจัดสรรเวลาและหัวข้อให้เหมาะสม เพื่อให้อภิปรายกันได้ครอบคลุม จะมีการประชุมพูดคุยเพื่อความเรียบร้อยและความเข้าใจที่ตรงกัน และกำชับ สส.ให้อยู่ในสภา เมื่อถามว่ากังวลหรือว่าจะเป็นประเด็นที่นำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายศรัณย์ตอบว่า ต้องดูว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจฝ่ายค้านจะยื่นช่วงใด สำหรับการจัดทำงบประมาณปีนี้ทำในข้อจำกัดที่ยากมาก เพราะไม่ได้ทำในรัฐบาลชุดนี้ เป็นร่างที่ถูกตั้งมาก่อน ดังนั้นการจะทำอะไรไม่เหมือนเป็นสิ่งที่รัฐบาลทำเอง เชื่อว่า สส.หลายสมัยจะเข้าใจ อาจทำให้เราไม่สามารถจัดงบที่มีประสิทธิภาพ เหมือนที่เราต้องการได้ และเชื่อว่ารัฐบาลจะอธิบายได้ ส่วนการอภิปรายของ สส.ฝ่ายรัฐบาล ไม่ใช่เตรียมเป็นองครักษ์ เมื่อเราคุยเรื่องร่างงบประมาณปีนี้ ก็ควรโฟกัสว่าอะไรอยู่ในร่างงบประมาณ อะไรที่มองเห็นว่าไม่สมควร สิ่งที่เราไม่ควรพูดคืออะไรที่ไม่ได้อยู่ในร่างงบประมาณ หากไปพูดเรื่องพวกนั้นมากๆ จะทำให้การอภิปรายงบประมาณไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควรก.ก.โฟกัสกระบวนการยุติธรรมวันเดียวกัน นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล และผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงการทำงานของฝ่ายค้านในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลว่า พรรคฝ่ายค้านแต่ละพรรคแตกต่างกันไป พรรคก้าวไกลมองว่าเรื่องกระบวนการยุติธรรมสำคัญ การจัดการความขัดแย้งทางการเมือง รวมถึงข้อเสนอเรื่องนิรโทษกรรมทางการเมือง และการจัดทำรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ เป็นนโยบายที่เราต้องติดตามและผลักดันต่อเนื่อง ส่วนเรื่องอื่นเราก็ติดตาม อาทิ แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ก็เป็นเรื่องใหญ่ บอกว่าจะได้รับงบประมาณ ๕,๐๐๐ ล้านบาท แต่งบประมาณส่วนใหญ่ยังเห็นไปใช้กับงบจัดอีเวนต์ เท่าที่มีข้อมูลเบื้องต้นกลายเป็นการเอางบอบรมสัมมนา ที่มีอยู่ตามแผนเดิมอยู่แล้วมาเปลี่ยนปัดฝุ่นใหม่เปลี่ยนปก อาจไม่ตอบโจทย์ในสิ่งที่คาดหวังว่าจะเพิ่มทักษะประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วมงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์รับฝ่ายค้านไม่เป็นเอกภาพ ๑๐๐%นายชัยธวัชกล่าวอีกว่า หลังช่วงปีใหม่การทำงานร่วมกันของฝ่ายค้านจะเต็มตัวและเป็นทางการมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวางเป้าหมาย แผนงานที่จะผลักดันร่วมกัน ส่วนที่หลายคนมองว่าพรรคประชาธิปัตย์อาจพลิกขั้วหากมีการปรับ ครม. อย่าเพิ่งไปกังวลล่วงหน้า เอาปัจจุบันให้ดีที่สุดก่อน อนาคต ทางการเมืองจะเกิดอะไรขึ้นก็ปรับตามสถานการณ์ วันนี้ยังคงเป็นพรรคฝ่ายค้านร่วมกัน พรรคก้าวไกลในฐานะพรรคแกนนำฝ่ายค้าน ต้องทำงานโดยเคารพและให้เกียรติทุกพรรค อย่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ข้อมูลของแต่ละพรรคเป็นความลับอยู่แล้ว ดังนั้นไม่กระทบอะไร เพียงแต่ต้องตัดสินใจร่วมกันว่าต้องอภิปรายหรือไม่ เมื่อไหร่ คิดว่าพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือแม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่เป็นเอกภาพ ๑๐๐% การอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ได้อยู่ที่การให้เวลารัฐบาล ทำงาน แต่อยู่ที่ข้อมูลข้อเท็จจริง ถ้าตรวจพบว่ามีการใช้อำนาจโดยมิชอบ หาผลประโยชน์หรือคอร์รัปชัน หรือใช้อำนาจบริหารราชการแผ่นดินเกิดความเสียหาย รุนแรง เราก็พร้อมจะอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกเมื่อใช้ข้อมูลยกคุณภาพอภิปรายนายชัยธวัชกล่าวว่า นโยบายพรรคก้าวไกลเอาข้อเท็จจริงเป็นตัวตั้ง เราไม่อยากใช้โวหาร หรืออาศัยการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อต่อรองผลประโยชน์ ขึ้นอยู่กับเนื้อหาเป็นหลัก หากช่วงต้นปีหน้าไตรมาสแรก การบริหารรัฐบาลมีปัญหามากจริงๆ ก็อาจมีการเสนอให้เปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ เพื่อ สะท้อนการทำงานของรัฐบาล แต่ยังต้องหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นด้วย หากการบริหารแย่จริงๆคงเลี่ยงไม่ได้ อย่างน้อยที่สุดคงอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ เป็นเรื่องปกติที่เสียงฝ่ายค้านไม่สามารถชนะในสภาได้อยู่แล้ว แต่ในทางการเมืองในการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะไม่จบแค่เสียงโหวตในสภาเท่านั้น แต่จะถูกพิพากษาโดยสังคม ส่งผลต่อรัฐบาลอย่างแท้จริงว่า ถ้ารัฐบาลถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วไม่สามารถตอบคำถามได้ แม้ชนะเสียงโหวตในสภาแต่สุดท้ายจะจบด้วยการยุบสภา หรืออย่างน้อยก็ปรับ ครม. ขึ้นอยู่กับคุณภาพในการอภิปรายการเก็บข้อมูลเป็นหลักtt ttยุคนี้ไม่ใช่ค้านทุกเรื่องเลิกแบ่งฝ่ายเมื่อถามว่าให้คะแนนการทำงานพรรคฝ่ายค้านช่วงปีที่ผ่านมาอย่างไร นายชัยธวัชตอบว่า ที่ผ่านมายังไม่เห็นบทบาทของฝ่ายค้านชัดเจนนัก ช่วงแรกเสียเวลาไปเยอะกับการเลือกนายกฯ กว่าจะมีรัฐบาล และมีวาระสำคัญแค่เรื่องการแถลงนโยบายในสมัยประชุมที่แล้ว เรื่องอื่นไม่มีเลยเนื่องจากรัฐบาลไม่ได้เตรียมร่างกฎหมายไว้ พรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่ค่อยผลักดันร่างกฎหมาย ฝ่ายค้านจึงยังไม่มีโอกาสทำงานมากนัก เมื่อถามว่าหลายคนมองว่าเป็นฝ่ายค้านแต่ค้านไม่สุด อาจมีความสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทยอยู่ นายชัยธวัชตอบว่า ขอให้รอพิสูจน์จากการปฏิบัติ ยืนยันว่าเราไม่มีลับลมคมในไม่มีวาระซ่อนเร้น ยังคงทำงานตรงไปตรงมา ว่ากันด้วยเหตุผล เพียงแต่วันนี้ไม่ได้มองว่าพรรคฝ่ายค้านต้องค้านทุกเรื่อง ถ้าเรื่องไหนเป็นประโยชน์เราพร้อมสนับสนุน เราอยากจะมีทั้ง ๒ ด้าน คือตรวจสอบสมดุลที่ต้องทำงานเต็มที่ ไม่เกรงใจใคร แต่อีกด้านหนึ่งอยากเห็นบรรยากาศ การทำงานในสภาที่สามารถร่วมไม้ร่วมมือโดยไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายทางการเมือง อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ น่าจะให้การสนับสนุนกันได้ใช้วันหยุดยาวเตรียมข้อมูลงบฯนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ว่านัดพรรคร่วมฝ่ายค้านหารือ เพื่อสรุปการทำงานร่วมกันในการอภิปรายร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณฯ เวลาที่ฝ่ายค้านได้รับรวม ๒๐ ชั่วโมง แบ่งเวลาให้แต่ละพรรค ดังนี้ พรรคก้าวไกล ๘๓๐ นาที พรรคประชาธิปัตย์ ๒๐๐ นาที พรรคไทยสร้างไทย ๖๐ นาที พรรคเป็นธรรม ๒๐ นาที และพรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน และพรรคใหม่ ได้รับพรรคละ ๑๐ นาที เนื้อหาการอภิปรายได้พิจารณาเบื้องต้นคือจัดกลุ่มตามประเด็น เช่น เศรษฐกิจปากท้อง ทรัพยากรมนุษย์ สิ่งแวดล้อม และจะจัดกลุ่มผู้อภิปรายให้อภิปรายเป็นกลุ่มๆ วันหยุดยาวช่วงปีใหม่พรรคก้าวไกลไม่หยุดการทำงาน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการอภิปราย เพราะมีเวลาเตรียมตัวน้อยเพียง ๗-๘ วันเท่านั้น จากเดิมที่มีเวลาเตรียมตัวไม่ต่ำกว่า ๑๒ วันตอกรัฐบาลอย่าใช้วิธีมัดมือชกนายปกรณ์วุฒิกล่าวต่อว่า ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลการพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณปีถัดไป ขอให้หารือกับสภาฯ เพื่อกำหนดวันที่มีความพร้อมร่วมกัน ไม่ใช่มัดมือชกล็อกวันให้สภาฯพิจารณา เพราะการพิจารณางบประมาณเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญกับสภาฯ เมื่อถามว่ากังวลต่อการพิจารณาที่อาจมีอุปสรรคหรือการขัดขวางการอภิปรายหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิตอบว่า ไม่กังวล การพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณฯปี ๖๗ เป็นการตรวจสอบปกติ ระหว่างสภาฯ และรัฐบาล เป็นการให้ข้อเสนอแนะกับรัฐบาลในการจัดสรรงบประมาณที่เหมาะสมtt tt“ท็อป” ชี้ ๒๕๖๗ เป็นปีท้าทายรัฐบาลด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองในปี ๒๕๖๗ คงมีเรื่องราวท้าทายเหมือนทุกรัฐบาลที่ผ่านมา จะมีงบประมาณที่ต้องพิจารณาถึง ๒ ปี งบประมาณ คือร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณฯปี ๒๕๖๗ และร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณฯปี ๒๕๖๘ เป็นความท้าทายของรัฐบาลที่ต้องบริหารโครงสร้างงบประมาณ รวมถึงปัญหาต่างๆในแต่ละกระทรวง แต่ยืนยันว่าการทำงานในพรรคร่วมรัฐบาลยังเป็นไปด้วยความราบรื่น เมื่อถามว่าปี ๒๕๖๗ สถานการณ์จะดุเดือดขึ้นหรือไม่ เพราะมีกฎหมายสำคัญหลายเรื่องที่ต้องพิจารณา เช่น เรื่องการทำประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ นายวราวุธตอบว่า การเมืองดุเดือดทุกปี ไม่มีปีไหนไม่ดุเดือด ส่วนประเด็นประชามติจะเป็นประเด็นที่ท้าทายสังคม ว่าแต่ละกลุ่มมีความเห็นที่แตกต่างกัน จึงเป็นที่มาของการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร.) และการถามความเห็นพี่น้องประชาชน“สุวัจน์” ชู ๓ จุดแข็งอยู่ครบเทอมนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) กล่าวว่า ทิศทางของพรรค ชพก. ในปี ๒๕๖๗ ยังไม่ได้วางแผนอะไร รัฐบาลยังอยู่อีกนาน เพราะมีจุดได้เปรียบ ๓ เรื่อง คือ ๑.เป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพทางการเมืองสูงถึง ๓๑๔ เสียง นับจากการปฏิวัติ ๒๕๕๗ เมื่อเทียบกับรัฐบาลก่อน ๒.เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ท่ามกลางบรรยากาศประชาธิปไตยที่มีมากกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อนมีความชอบธรรมสูง ๓.ปัญหาหาความเรียบร้อยของบ้านเมืองไม่เป็นอุปสรรคกับการทำงานของรัฐบาล รัฐบาลสามารถใช้ข้อได้เปรียบ ๓ ข้อนี้ บริหารประเทศให้เกิดความสำเร็จ อาจอยู่จนครบเทอมก็ได้ ประกอบกับการเลือกตั้งที่ผ่านมา ประชาชนมีความคาดหวังสูงต่อการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ นายกฯเองก็มุ่งมั่นทำงานและขยัน องค์ประกอบที่ดีเหล่านี้ ปัญหาในพรรคร่วมก็ไม่มีอะไร ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งใช้จุดแข็งนี้ให้ประสบความสำเร็จ ไม่เช่นนั้นประชาชนจะผิดหวังชพก.พร้อมเติมเต็มเสถียรภาพนายสุวัจน์กล่าวว่า พรรค ชพก.จะสนับสนุนรัฐบาลให้เกิดเสถียรภาพ แม้จะมี ๓ เสียง แต่จะสนับสนุนเต็มที่ ทั้งองค์ประชุมและการเสนอกฎหมาย หัวหน้าพรรคก็เป็นที่ปรึกษานายกฯ และเป็นกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขอให้ในปี ๒๕๖๗ เป็นปีที่ดีของประเทศและของพี่น้องประชาชนทุกคน ขอให้เราฝ่าฟันวิกฤติเศรษฐกิจไปได้อย่างราบรื่นอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
“เศรษฐา” ไม่หวั่นศึกอภิปรายงบฯ พร้อมชี้แจงเอง ฤกษ์ดี ๗ มกราคม พักค้างทำเนียบ
Related posts