สหรัฐอเมริกาปฏิเสธทันควันไม่เกี่ยวข้องหรืออยู่เบื้องหลังการระเบิด ๒ ครั้งซ้อนในมัสยิดที่กำลังมีประชาชนจำนวนมากร่วมพิธีไว้อาลัยวันครบรอบการเสียชีวิตของนายพลระดับสูงคนสำคัญของอิหร่านและสหรัฐฯยังเชื่อว่าอิสราเอลก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ หลังถูกอิหร่านซัดเต็มเหนี่ยวว่าทั้งสหรัฐฯและอิสราเอลเกี่ยวข้องกับเหตุโศกนาฏกรรมนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีอิหร่านประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุว่าชั่วร้ายและไร้มนุษยธรรม ด้านผู้นำทางจิตวิญญาณประกาศต้องแก้แค้นอย่างถึงที่สุดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมคนร้ายลอบวางระเบิดถึง ๒ ครั้งซ้อนในมัสยิดที่ประเทศอิหร่าน ขณะที่มีประชาชนจำนวนมากมาร่วมไว้อาลัยวันครบรอบ ๔ ปี การเสียชีวิตของนายพลระดับสูงคนสำคัญของอิหร่าน เมื่อวันที่ ๓ ม.ค. มีผู้เคราะห์ร้ายสังเวยชีวิตเกือบ ๑๐๐ ศพ ยังความเศร้าสลดใจแก่ชาวโลกนั้นสำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ ๔ ม.ค. ถึงความคืบหน้าเหตุระเบิดในมัสยิดของเมืองเคอร์มาน อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศอิหร่าน ว่า ภายหลังเกิดเหตุ นายจอห์น เคอร์บี โฆษกความมั่นคงทำเนียบขาวสหรัฐอเมริกา ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดรุนแรงในอิหร่าน รวมถึงไม่มีสิ่งใดบ่งชี้ว่าอิสราเอลมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุดังกล่าวด้วย หลังก่อนหน้านี้อิหร่านอ้างว่าสหรัฐฯ และอิสราเอล เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุระเบิดถึง ๒ ครั้งซ้อนที่เกิดขึ้นขณะประชาชนจำนวนมากกำลังร่วมพิธีรำลึกวันครบรอบ ๔ ปี การเสียชีวิตของ พล.ท.คัสเซม สุไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังอัล-คุดส์ สังกัดกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน ที่ถูกลอบสังหารที่สนามบินกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก เมื่อวันที่ ๓ มกราคม๒๕๖๓ และกล่าวหาว่าสหรัฐฯมีส่วนในการลอบสังหารด้านสื่อรัฐบาลอิหร่านรายงานว่า เหตุการณ์ระเบิดในวันครบรอบการจากไปของ พล.ท.คัสเซม เกิดครั้งแรกในเวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. ตามเวลาท้องถิ่น ห่างจากหลุมฝังศพบริเวณสุสานของ พล.ท.คัสเซมในมัสยิดซาเฮ็บ อัล-ซามาน ประมาณ ๗๐๐ เมตร ก่อนเกิดระเบิดอีกครั้งห่างจากสุสาน ๑ กิโลเมตรในอีก ๒๐ นาทีต่อมา สื่ออิหร่านยังเผยว่า ระเบิดทั้ง ๒ จุด ถูกติดตั้งบนถนนที่มุ่งหน้าเข้าสู่สุสานในเมืองเคอร์มานและบังคับให้ระเบิดด้วยรีโมตคอนโทรล ขณะที่ภาพจากสำนักข่าวต่างประเทศเผยให้เห็นฝูงชนจำนวนมากพากันแตกตื่นวิ่งหนีตายหลังมีเสียงระเบิดลูกแรก อีกทั้งแรงระเบิดยังทำให้กระจกของรถยนต์หลายคันที่อยู่ใกล้เคียงแตกละเอียดขณะที่นายอิบราฮิม ระอิซี ประธานาธิบดีอิหร่าน กล่าวประณามเหตุสลดใจดังกล่าวว่า เป็นการก่ออาชญากรรมที่ชั่วร้าย ไร้ซึ่งมนุษยธรรม ส่วน อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำทางจิตวิญญาณของอิหร่านกล่าว ให้คำมั่นว่าจะแก้แค้นใครก็ตามที่เป็นผู้ก่ออาชญากรรมอันโหดร้ายอย่างถึงที่สุด อิหร่านจะทำทุกวิถีทางเพื่อเอาผิดกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนปฏิกิริยาของผู้นำจากนานาชาติอย่างสหภาพยุโรป นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ และนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย พากันกล่าวประณามการก่อการร้ายที่สร้างความสูญเสียรุนแรงจากเหตุระเบิดทั้ง ๒ ครั้งในอิหร่านสำหรับเหตุระเบิดที่คร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก ที่เกิดขึ้นที่มัสยิดในเมืองเคอร์มาน เบื้องต้นมีการนับจำนวนผู้เสียชีวิตว่ามีอย่างน้อย ๑๐๓ ศพ ในจำนวนนี้มีเด็กและสตรีเสียชีวิตร่วมด้วย ส่วนผู้บาดเจ็บมีจำนวน ๒๑๑ ราย บาดเจ็บสาหัส ๒๗ ราย ต่อมากระทรวงสาธารณสุขอิหร่านแถลงปรับยอดผู้เสียชีวิตเหลือเพียง ๙๕ ศพ ด้านสภาเสี้ยววงเดือนแดงของอิหร่านเผยว่า มีเจ้าหน้าที่ของสภาเสี้ยววงเดือนแดงเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่อย่างน้อย ๑ รายอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
