Monday, 20 May 2024

สภาผู้บริโภค เปิดสายด่วน รับปรึกษา-เพิ่มช่องทางช่วยเหลือประชาชน

13 Jan 2024
70

“สมศักดิ์” เปิดสายด่วน “สภาผู้บริโภค ๑๕๐๒” หวังเพิ่มช่องทางช่วยประชาชน ถูกหลอกลวงซื้อสินค้า ยันนายกฯให้ความสำคัญเร่งช่วยเหลือเต็มที่ โชว์ ๒ ปี มีผู้ร้อง ๓๘,๕๐๐ เรื่อง ช่วยได้กว่า ๘๐% เชิญชวนประชาชนที่เดือดร้อนมาใช้บริการ เพื่อช่วยแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนเมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม๖๗ ที่โรงแรม เดอะ บาซาร์ แบงค็อก กรุงเทพฯ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน “เปิดตัวเบอร์สายด่วนสภาผู้บริโภค ๑๕๐๒” โดยมี นายกิตติกร โล่สุนทร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง, นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี, น.ส.บุญยืน ศิริธรรม ประธานสภาองค์กรของผู้บริโภค, น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค, นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการบริหาร สถาบันอิศรา, นายกิตติ สิงหาปัด ผู้ดำเนินรายการ ข่าว ๓ มิติ, และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมtt ttโดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สภาผู้บริโภคถูกจัดตั้งขึ้นตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยพระราชบัญญัติการจัดตั้งสภาองค์การของผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งกำหนดให้สภาแห่งนี้ มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการเพื่อคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิ์ของผู้บริโภคในทุกด้าน เช่น ด้านการเงินการธนาคาร การขนส่ง ยานพาหนะ อสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่อาศัย อาหาร ยา ผลิตภัณฑ์สุขภาพ บริการสาธารณะ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม แต่จากยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การบริโภคของประชาชนจึงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เพราะเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามา ทำให้สามารถซื้อสินค้าง่ายมากขึ้น แต่สิ่งที่มาพร้อมกับความทันสมัยก็คือ เกิดผลเสียได้ง่ายมากขึ้น เช่น การถูกหลอกลวง สินค้าไม่ตรงปก ไม่ได้รับสินค้า ซ้ำร้ายกว่านั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยังสามารถหลอกเอาเงินจากบัญชีไปได้อย่างง่ายดายtt ttนายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า หากต้องการจะได้สินค้าและบริการที่ครบถ้วน ก็ต้องร้องเรียนหรือนำเรื่องขึ้นสู่ชั้นศาล ส่งผลให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนและความเสียหายรุนแรง ดังนั้น จึงต้องมีสภาผู้บริโภคเพื่อทำหน้าที่คุ้มครองและพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภคในทุกด้าน พร้อมเสนอแนะนโยบายและมาตรการที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้บริโภค ทั้งยังสนับสนุนให้เกิดการบริโภคที่ยั่งยืน โดยตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ที่รับผิดชอบงานด้านคุ้มครองผู้บริโภค ขอยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญต่อปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มช่องทาง “สายด่วนสภาผู้บริโภค ๑๕๐๒” เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ดังนั้น สภาผู้บริโภคต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคได้รับทราบ”ที่ผ่านมา สภาผู้บริโภคได้รับเรื่องร้องเรียนทั่วประเทศ จากหน่วยงานประจำจังหวัด ๑๕ จังหวัด และศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคแบบเบ็ดเสร็จ ในปีงบประมาณ ๒๕๖๖ จำนวน ๑๖,๑๔๒ เรื่อง ดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาได้ ๑๒,๘๓๗ เรื่อง มูลค่ากว่า ๗๑ ล้านบาท ดังนั้น เพื่อให้เกิดการช่วยเหลือเยียวยาให้มีประสิทธิภาพ และครอบคลุมทั้ง ๗๗ จังหวัด ทั่วประเทศ จึงควรเพิ่ม “สายด่วนสภาผู้บริโภค ๑๕๐๒” ตามแนวนโยบายของ ท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จากที่ผ่านมามีเพียงเบอร์โทรศัพท์สำนักงาน เว็บไซต์ และช่องทางออนไลน์อื่นๆ แต่จากนี้จะทำให้ผู้บริโภคไม่ต้องต่อสู้เพียงลำพัง เพราะมีสภาผู้บริโภคช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด” รองนายกรัฐมนตรี กล่าวtt ttนอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเพิ่มเติมว่า วันนี้สภาผู้บริโภค ได้เปิดสายด่วน ๑๕๐๒ เพื่อรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนให้ได้มากขึ้น ซึ่งสภาผู้บริโภคเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม๒๕๖๔ มีองค์กรสมาชิก ๓๑๔ แห่ง ใน ๕๔ จังหวัด โดยมีหน้าที่รับเรื่องราวร้องทุกข์ ซึ่งผ่านมา ๒ ปี มีการร้องเรียนมา ๓๘,๕๐๐ เรื่อง โดยสามารถช่วยแก้ปัญหาได้กว่า ๘๐% ดังนั้น ตนจึงขอเชิญชวนจังหวัดที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก ก็ขอให้เข้าร่วมสภาผู้บริโภค เพราะรัฐบาลสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ รวมถึงขอให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการบริโภค ร้องเรียนผ่านสายด่วนผู้บริโภค เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาให้อย่างเร่งด่วน