Sunday, 15 December 2024

วิเคราะห์การเมือง : เคลื่อนหนักเสี่ยงติดลบ

ดงกระสุนตกย้ายวิกจากชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ มาปักหลักอยู่รัง “จันทร์ส่องหล้า”แรงต้านยังตามปะทะ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามขุดคุ้ย ค้นหาความกระจ่างปมได้รับการพักโทษ ไม่มีลดราวาศอกปรากฏการณ์ “ทักษิณกลับบ้าน” ก่อพายุอารมณ์ปั่นป่วน โดนตั้งคำถามตัวโตๆ ทำกระบวนการยุติธรรมกลับตาลปัตรหรือไม่อัยการทำหน้าที่แทนหมอ หมอทำหน้าที่ราชทัณฑ์ ราชทัณฑ์ทำหน้าที่แทนศาล ความยุติธรรมฉบับศรีธนญชัย ประโยคเหน็บแนมแสบสัน ว่อนหน้าฟีดโลกโซเชียลล่าสุด พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการยุติธรรม ยอมรับกลางสภาฯ “ทักษิณ” ได้รับพักโทษ ส่วนหนึ่งเพราะเข้าเกณฑ์การช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ กรณีชราภาพอายุเกิน ๗๐ ปีตามเกณฑ์กรมราชทัณฑ์ อาทิ กินอาหารด้วยตัวเองไม่ได้ ใช้ห้องน้ำด้วยตัวเองไม่ได้ สวมเสื้อผ้าด้วยตัวเองไม่ได้ อาบน้ำไม่ได้ กลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่ได้ดูค้านสายตา หากเปรียบเทียบกับภาพตอนออกจากโรงพยาบาลที่อยู่ในสภาพแค่ดามเฝือกคอและเฝือกแขน และพอกลับมาอยู่บ้านได้ไม่กี่วัน ก็ปรากฏภาพถ่ายรูปคู่ “สมเด็จฮุน เซน” ประธานคณะองคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่มาเยี่ยมอาการป่วย ชี้ชวนให้ถูกตั้งข้อสงสัย เรื่องป่วยทิพย์เพิ่มขึ้นไปอีกความเคลื่อนไหวนายใหญ่ถูกจับผิดทุกฝีก้าว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ในสถานะใด สะท้อนการเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองไทย สร้างความหวาดระแวงให้กลุ่มอำนาจเก่าได้ตลอดจะขยับตัวทำอะไรก็สามารถช่วงชิงการสื่อสาร แย่งพื้นที่สื่อได้หมด ไม่ว่าผลจะเป็นบวกหรือลบ ก็สร้างกระแส เรียกความสนใจได้ตลอดเค้าลางนายใหญ่ไม่หยุดนิ่ง ถนนทุกสายมุ่งสู่บ้านจันทร์ส่องหล้า ใครๆก็อยากไปรายงานตัวสอดรับบรรยากาศลูกพรรคเพื่อไทย ทั้งรุ่นใหญ่ รุ่นเล็กพร้อมใจซูฮกความรู้ ความสามารถอดีตเจ้านาย เปิดทางเข้ามาทำหน้าที่กุนซือพรรคและรัฐบาล ประเมินทิศทางการเมือง ให้คำปรึกษาการบริหารประเทศในห้วงสถานการณ์ที่ต้องลุ้นหนัก “ทักษิณ” จะกลับมาสร้างความเชื่อมั่นให้รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ ภายใต้บริบทการเมืองที่เปลี่ยนไป แตกต่างจากยุคพรรคไทยรักไทยเรืองอำนาจ ช่วง ๒๐ ปีก่อนมวลชนเสื้อแดงไม่แน่นปึ้กแบบเป่านกหวีดแล้วเรียกรวมพลได้ทันทีเหมือนในอดีต ขณะที่เหล่าหัวโจกตัวจี๊ดก็แตกฉานซ่านเซ็นไปคนละทิศ แบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่าถึงจะยังมีอิทธิพล กุมอำนาจในหมู่นักการเมืองรุ่นเก่าพรรคเพื่อไทยได้ แต่การเมืองยุคปัจจุบันก็ไม่รู้ว่า ชื่อ “ทักษิณ” จะกุมหัวใจคนรุ่นกลางและเด็กรุ่นใหม่ได้หรือไม่เกมอำนาจยุครัฐบาลข้ามขั้ว แม้นายใหญ่ได้กลับประเทศไทย แต่ตกที่นั่งกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถูกจับมาเป็นหมากในกระดานอำนาจไว้คอยขับเคี่ยวกับพรรคก้าวไกลขุมข่ายอนุรักษ์นิยมแม้ไม่ชอบพรรคก้าวไกล แต่ก็ยังระแวงรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ภาพที่ออกมาจึงเห็นโครงการเรือธงหลักอย่างดิจิทัลวอลเล็ต โดนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และองค์กรอิสระ ขวางลำ คุมกำเนิดนโยบายสำคัญไม่ให้สำเร็จเป็นรูปธรรมได้ง่ายๆเพื่อไทยมีชื่อแค่เป็นรัฐบาล แต่ไร้อำนาจบริหารเด็ดขาด ไม่สามารถเข็นโครงการสำคัญ กอบกู้คะแนนนิยมจากการเสียคำพูดไปจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วได้ มีโอกาสเสียต้นทุนความน่าเชื่อถือปลายทางคาดเดาไม่ได้ “ทักษิณ” จะพาพรรคเพื่อไทยกลับมาเปรี้ยงปร้างเหมือนในอดีตหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ การพักโทษนายทักษิณถูกปั่นกระแส สร้างแรงกระเพื่อมในรัฐบาล ประเทศไทยถูกมองมีนายกฯ ๒ คน ใครคือผู้นำรัฐบาลตัวจริง เพิ่มความสับสนในมิติการบริหาร สร้างความกดดันการทำงานให้ “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลังอำนาจอิหลักอิเหลื่อระหว่างผู้นำด้านการเมือง กับผู้นำด้านบริหาร ดูยังไงก็ไม่เป็นผลดี มีโอกาสขบเหลี่ยมได้ ถ้าเคลียร์ปมเรื่องการแบ่งดุลอำนาจไม่ชัดเจนภาวการณ์ ณ ปัจจุบัน ที่กรณีพักโทษ “ทักษิณ” ออกมาไม่เป็นด้านบวก ถูกโหมไฟกระบวนการยุติธรรม ๒ มาตรฐาน เร้าอารมณ์ร่วมคนในสังคมให้คล้อยตาม ลากโยงพรรคเพื่อไทยพลอยเจ็บตัวไปด้วยกระแส “ทักษิณ” เป็นลบมากเท่าไร โอกาส “เพื่อไทย” กลับมายิ่งใหญ่ในการเลือกตั้งรอบหน้าก็ยิ่งตีบลง ตรงกันข้ามกับพรรคก้าวไกลที่มีแต่ได้ ใส่แต้มบวกแทบไม่ทันภายใต้ข้อแม้สำคัญ ถ้ารอดพ้นการถูกตัดตอนไปได้!!!ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม