Monday, 20 May 2024

เสื้อแดงรวมพลวัดโรงธรรม คึกรับ "ทักษิณ" ๑๕ มี.ค. "เศรษฐา" ออนทัวร์ปารีส ดูห้างดังฝรั่งเศส

10 Mar 2024
56

“เศรษฐา” ออนทัวร์ปารีส อวดผลงานหารือ ๑๒ บริษัทยักษ์ฝรั่งเศสเพิ่มการลงทุนในไทย ตีปี๊บจับมือมิชลินไกด์จัดอีเวนต์อาหารระดับโลกที่เชียงใหม่ กล่อม “Valeo” ผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ดันไทยศูนย์ผลิตยานยนต์แห่งอนาคต ผู้บริหาร “ยูทูบ” ชวนนายกฯสร้างช่องยูทูบของตัวเอง “อุ๊งอิ๊งค์” ร่วมแจมจับเข่าคุยฟอร์มูล่า อี ดึงมาจัดแข่งขันรถ “Formula E” ครั้งแรกในไทย ตะลุยห้างกาเลอรี ลาฟาแย็ต จีบรับสินค้าไทยไปวางขาย นายกฯโต้วาทกรรมดีแต่ทัวร์นอกไร้ผลงาน กลางเดือน มีนาคมตั้งโต๊ะแถลงทุกความคืบหน้า แจงไป จ.เชียงใหม่อาจได้พบ “ทักษิณ” เสื้อแดงภาคเหนือนัดรวมตัววัดโรงธรรมสามัคคี รอต้อนรับนายใหญ่กลับบ้าน “วรชัย” ติง คปท.อย่าใจแคบ ปชป.ฉะรัฐบาลกลิ้งกลอก ๖ เดือนไม่ทำตามคำแถลงต่อรัฐสภา “วันชัย” หยันชาวบ้านเซ็งนายกฯหลงระเริงงานอีเวนต์นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการคลัง ที่อยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศส สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีอย่างเป็นทางการและกิจกรรมคู่ขนาน ระหว่างวันที่ ๗-๑๔ มี.ค. ถูกวิพากษ์ วิจารณ์จากบางฝ่ายว่ามุ่งแต่งานอีเวนต์เดินทางไปต่างประเทศ แต่ไร้ผลงานที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ โดยนายกฯระบุไม่ขอตอบโต้ แต่กลางเดือน มีนาคมจะมีการแถลงความคืบหน้าผลสืบเนื่องจากการเดินทางเยือนต่างประเทศนายกฯไปเชียงใหม่อาจพบ “ทักษิณ”เมื่อเวลา ๑๗.๔๐ น. วันที่ ๘ มี.ค. (ตามเวลาท้องถิ่น ณ นครปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ช้ากว่าประเทศไทย ๖ ชั่วโมง) นายเศรษฐา ทวีสิน นายก รัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงภารกิจการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ ๑๕-๑๗ มีนาคมว่า จะไปติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน หารือกับ ผวจ.เชียงใหม่ และฝ่ายความมั่นคง รวมถึงการแก้ไข ปัญหายาเสพติด และติดตามโครงการพระราชดำริ เมื่อถามว่าช่วงนั้นจะมีโอกาสได้พบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่จะกลับบ้านที่ จ.เชียงใหม่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า หากมีโอกาสจะได้พบกัน และได้เจอกับนายทักษิณครั้งหนึ่งแล้ว เจอครั้งที่สองคงไม่เป็นไร หากสะดวกก็คงได้พบกัน แต่เบื้องต้นยังไม่ได้นัดหมายกัน เพราะไม่ทราบว่านายทักษิณจะเดินทางไปที่ไหน เวลาไหน แต่คนที่รู้จักกัน คงแวะเข้าไปพูดคุยเป็นธรรมดา และที่ฝ่ายค้านจะนำเรื่องนายทักษิณเข้าไปอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา ๑๕๒ ด้วยนั้น ฝ่ายบริหารมีหน้าที่ตอบข้อซักถามฝ่ายนิติบัญญัติอยู่แล้ว ส่วนตัวไม่ได้กังวล เพราะเป็นไปตามกฎหมาย นายทักษิณก็ออกมาตามกฎหมายทุกอย่าง และเราก็ไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายอะไรกับใครทั้งสิ้น ถ้าเกิดมีเรื่องข้องใจอันใดก็เป็นไปตามกลไกการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เมินครหาไร้ผลงานกลาง มีนาคมแถลงนายกฯกล่าวอีกว่า สำหรับการอภิปรายทั่วไป โดยไม่มีการลงมติ พร้อมจะชี้แจงทุกเรื่องและรัฐมนตรีทุกคนพร้อมเช่นกัน รัฐบาลพยายามเร่งทำงานทุกอย่าง กลางเดือน มีนาคมจะแถลงว่าการที่รัฐบาลเดินทางมาต่างประเทศมีผลงานอย่างไรบ้าง รวมไปถึงการลงทุนของแต่ละบริษัทไปถึงขั้นตอนใดแล้ว ประชาชนจะได้ สบายใจ ขณะเดียวกันจะได้วางแผนการรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วย การที่ฝ่ายการเมืองออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่านายกฯเดินทางต่างประเทศแต่ไม่มีผลงาน ไม่ขอตอบ เพราะเป็นเพียงวาทกรรมทางการเมือง ผลงานรัฐบาลมีหรือไม่ขอให้ประชาชนตัดสินใจ ขอโอกาสให้ทีมงานได้อธิบาย การเดินทางลงพื้นที่ทั้งในและต่างประเทศเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่ว่าเอเปก อาเซียน-ออสเตรเลีย อาเซียน-ญี่ปุ่น ไม่ไปไม่ได้ เมื่อไปแล้วก็ใช้โอกาสพบปะภาคเอกชนเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ ส่วนตัวขอให้เกียรติทีมงานเป็นคนตอบ เพราะเป็นความภาคภูมิใจ ไม่ใช่เพียงนายกฯแถลงคนเดียว ยืนยันว่าไม่ห่วง เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ แต่เดี๋ยวจะทราบว่ารัฐบาลได้ทำอะไรไปบ้างยันไม่มีปัญหาขัดแย้งกับสิงคโปร์นายเศรษฐายังกล่าวถึงดราม่าการจัดงานคอนเสิร์ตเทย์เลอร์ สวิฟต์ของสิงคโปร์ว่า หากย้อนกลับไปดูจะเห็นว่าพูดถึงสิงคโปร์เป็นการชื่นชม สื่อบางท่านอาจเอาไปบิดเบือนเพื่อให้เกิดเป็นประเด็นทางการเมือง ไม่ขอเล่นด้วย เพราะทุกคนทราบอยู่แล้วว่าตนพูดอะไรไป การเดินทางไปประชุมครั้งนี้ได้นั่งข้างนายลี เซียนลุง นายกฯสิงคโปร์ หลายครั้งพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา เคารพซึ่งกันและกัน ท่านเป็นนายกฯอาวุโสที่จะพ้นจากตำแหน่งช่วงปลายปีนี้ ได้พูดคุยกันหลายเรื่อง หลายหน ยืนยันประเด็นนี้ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรแน่นอน และเป็นไปตามที่นายกฯสิงคโปร์ได้สัมภาษณ์ว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรที่ไม่เป็นมิตรเลย บอกว่าเป็นความชาญฉลาดในการบริหารประเทศ ประเทศไทยต้องเรียนรู้ ชื่นชมในวิสัยทัศน์การบริหารประเทศ ไม่ใช่เรื่องที่มีปัญหาหรือต้องมาโกรธกัน เพราะเราพูดลักษณะชื่นชมตนกับนายกฯสิงคโปร์พูดคุยกันดี นั่งทานอาหาร ถ่ายรูปติดกัน พูดคุยในสิ่งที่เราจะทำร่วมกันในการพัฒนาภูมิภาคนี้ ทั้งปัญหาเมียนมา ทะเลจีนใต้ การท่องเที่ยวที่จะทำงานกับศูนย์การท่องเที่ยวให้ดีขึ้นโชว์ผลหารือ ๑๒ บ.ยักษ์ฝรั่งเศสนายกฯได้กล่าวถึงการพบภาคธุรกิจในประเทศฝรั่งเศส ๑๒ รายว่า ครอบคลุมทุกภาคธุรกิจ ตั้งแต่ยานยนต์ แฟชั่น โรงแรม เครื่องบิน อาหาร โรงงานอุตสาหกรรม โดย ๑.ACCOR group เป็นกลุ่ม chain โรงแรมใหญ่ที่สุดในโลก มีกว่า ๑๐๐ โรงแรมในไทย ต้องการเข้ามาวางแผนทำแผนการท่องเที่ยวร่วมกับรัฐบาล และอยากจะร่วมทุนกับกองทุนไทย เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญ (pension fund) เพื่อขยายธุรกิจ-การสร้างโรงแรมใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ๒.บริษัท Michelin โดยบริษัทใช้ยางพาราในไทยมาก มีโรงงานในไทยทำธุรกิจมานาน หวังที่จะให้ไทยช่วยในเรื่อง ease of doing business ๓.Federation Haute Couture สมาคมแฟชั่นชั้นสูง เป็นสมาพันธ์เพื่อส่งเสริมนักออกแบบรุ่นใหม่โดยอยากทำกิจกรรมร่วมกับไทย ทั้งอีเวนต์ แฟชั่นโชว์ และสร้างสถาบันให้ความรู้กับนักเรียนไทย นายกฯเชิญมาทำอีเวนต์ในไทยช่วง เม.ย. ให้จัดกิจกรรมคล้าย Paris Fashion Show ใน กทม. จับมือมิชลินไกด์จัดอีเวนต์อาหาร๔.Comité Colbert เป็นองค์กรที่พยายามผลักดันให้แบรนด์ต่างๆทั่วโลกได้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นองค์กรที่ให้ความรู้แก่แบรนด์และนักออกแบบทั่วโลก รวมไปถึงด้านซอฟต์พาวเวอร์ ด้วย โดยได้เชิญองค์กรดังกล่าวให้เข้าไปให้ความรู้ ผ่านความร่วมมือกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์ พาวเวอร์แห่งชาติ ๕.Michelin guide บริษัทเห็นว่า ไทยมีศักยภาพมากด้านอาหาร พร้อมส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารภายในประเทศไทยเพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาหาประสบการณ์ด้านอาหารในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ไทยหวังจะยกระดับความร่วมมือกับ Michelin ช่วยส่งเสริมการร่วมจัดงานอีเวนต์ต่างๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของประเทศไทย ช่วงปลาย พ.ย.-ธันวาคม๖๗ จะมาจัดงานเทศกาลอาหารระดับโลกที่ จ.เชียงใหม่สานฝันศูนย์กลางยานยนต์อนาคต๖.บริษัท Richemont เป็นกลุ่มบริษัทที่เป็นเจ้าของแบรนด์ดังระดับโลก อาทิ Cartier, Van Cleef & Arpels, IWC โดยประเทศไทยมียอดขายเป็นอันดับต้นๆของโลก นายกฯขอความร่วมมือทำ Collaboration กับแบรนด์ของไทย ส่งเสริมศักยภาพของนักออกแบบไทย รวมถึงวัตถุดิบไทยที่มีคุณภาพ และเชิญชวนให้มาทำกิจกรรม อาทิ popup store, co-promotion กับกิจกรรมอื่นๆ ที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยว ๗.Valeo บริษัทผู้เชี่ยวชาญการออกแบบและการผลิตส่วนประกอบ ระบบบูรณาการและโมดูล สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ มีชื่อเสียงด้านนวัตกรรมพัฒนาและการผลิตเทคโนโลยี สำหรับเครื่องยนต์สันดาปแบบดั้งเดิมและยานพาหนะไฟฟ้า โดยได้เชิญชวนมาขยายการลงทุนในไทย ผลักดันการสร้างระบบนิเวศให้กับรถ EV เป็นอีกหนึ่งก้าวที่ขยับเข้าใกล้ศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคต Future Mobility Hub และการเป็น Detroit ของเอเชียยูทูบชวนนายกฯทำช่องตัวเอง๘.บริษัท Airbus ขับเคลื่อนเรื่อง Aviation Hub กับ Airbus Group บริษัทมีเทคโนโลยีด้านความมั่นคงทางอากาศ ไทยมีศักยภาพขยายศูนย์ความเป็นเลิศระดับภูมิภาคด้านการสนับสนุนและบริการปฏิบัติการบิน ๙.บริษัท Forvia บริษัทผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ นำไปสู่การใช้พลังงานสะอาด สนับสนุนให้โรงงานผลิตที่ยังใช้ระบบ ICE ให้คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อลดปล่อยก๊าซคาร์บอน ๑๐.บริษัท Essilor Luxottica ผลิตเลนส์แว่นตา ชื่นชมแรงงานฝีมือไทย มีแผนจะเพิ่มพนักงานจาก ๖,๐๐๐ คน เป็น ๑๒,๐๐๐คน หวังให้รัฐบาลสนับสนุน Human resource development และอยากให้เจรจา FTA กับสหภาพ ยุโรปให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ๑๑.ได้หารือกับสเตลแลนทิส (Stellantis) บริษัทผลิตรถยนต์อันดับ ๔ ของโลก ที่สนใจลงทุนในไทย รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ๑๒. YOUTUBE นายกฯได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ Global Head of Music ของ youtube เป็นผู้เชี่ยวชาญธุรกิจดนตรี มาเชิญชวนนายกฯให้มีช่อง YouTube เป็นของตัวเอง จะส่งหนังสือและส่งลิสต์มาให้ว่ามีผู้นำที่มีช่อง YouTube เป็นของตัวเองแล้วกว่า ๒๐ คนมีใครบ้าง และต้องทำอะไรบ้าง โอกาสนี้ทั้งสองฝ่ายได้ พูดกันเกี่ยวกับเป้าหมายที่รัฐบาลไทยกำหนดให้ปีหน้าเป็นปีของมิวสิก festival แนวทางที่จะจัดงาน และเชิญนักร้องระดับ A list มาร่วมงาน festival ในไทยรบ.ตีปี๊บต่างชาติจ่อลงทุนในไทยเพิ่มนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า จากการที่นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลและความเห็นกับบริษัทเอกชนชั้นนำระดับโลกของฝรั่งเศส ๑๒ ราย พบว่ามีปัญหาและโอกาสที่คล้ายคลึงกันอยู่ ๒ ประเด็น คือปัญหา จากกฎระเบียบของทางราชการที่ยุ่งยากล่าช้า นายกฯได้กำหนดการดำเนินนโยบายเพื่อแก้ไขด้วยนโยบาย ease of doing business สั่งการให้คณะทำงาน เตรียมเชิญส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาร่วมหารือให้เกิดการแก้ไขได้ตรงจุดเร็วที่สุด ทันทีที่กลับถึงเมืองไทย ทุกบริษัทต่างมีเป้าหมายพัฒนาธุรกิจควบคู่กับการคำนึงถึงความท้าทายด้านความยั่งยืน ด้วยเป้าหมาย carbon net zero ทำให้มีความต้องการด้านพลังงานสะอาด สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของรัฐบาล ที่วางแนวทางการพัฒนามุ่งเน้น clean/green energy มาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ไทยมีความพร้อม มีศักยภาพสูงที่สุดในอาเซียน เช่น การทำ Floating Solar Cells เหนือเขื่อนต่างๆทั่วประเทศ ตนเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าด้วยท่าทีการตอบสนองที่ชัดเจนรวดเร็วมีวิสัยทัศน์จากท่านนายกฯในวงสนทนา ทำให้คู่เจรจาต่างล้วนเชื่อมั่น พึงพอใจ และเชื่อมั่นที่จะเพิ่มการลงทุนในไทยให้มากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ นายกฯควง “อุ๊งอิ๊งค์” คุยฟอร์มูล่า Eสำหรับภารกิจของนายกฯที่กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส เมื่อเวลา ๐๙.๓๐ น. (ตามเวลาท้องถิ่น) วันที่ ๙ มี.ค. ที่ Cafe’de la Paix กรุงปารีส นายกฯพร้อม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์และคณะ ได้พบปะหารือร่วมกับผู้บริหาร Formula E โดยนอกจากนายกฯจะใช้ผ้าขาวม้าจาก จ.กาฬสินธุ์ มาพันคอแล้ว น.ส.แพทองธาร ได้สวมเสื้อโค้ตผ้าฝ้ายย้อมคราม จ.สกลนคร ถือเป็นครั้งแรกที่ น.ส.แพทองธารได้เดินทางเข้าร่วมคณะ นายกฯไปปฏิบัติภารกิจต่างประเทศ เฉพาะในบางกิจกรรม ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ต่อมานายกฯโพสต์เฟซบุ๊กว่า หลายคนคงเคยได้ยินชื่อการแข่งขัน Formula E เป็นการแข่งขันรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบ EV ทั่วโลก วันนี้มีโอกาสพูดคุยจิบน้ำชากับทางผู้บริหารข่าวดีสนใจมาจัดแข่งรถ EV ในไทยนายกฯโพสต์ต่อว่าเขาบอกสนใจเข้ามาจัดการแข่งขันรถแข่งแบบ EV ในไทย ที่เรากำลังปรับเปลี่ยนไปสู่การใช้รถยนต์แบบ EV โดยยอดการสั่งซื้อรถยนต์ EV ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา สูงถึง ๔๐% จากยอดสั่งจองทั้งหมด ตนจึงคิดว่าเป็นเรื่องดีที่จะนำเอาการแข่งขันรถแข่ง Formula E เข้ามาแข่งในไทย เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และเป็นการตอกย้ำนโยบายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ได้นัดพบกับผู้บริหารของ Formula E เข้ามาสำรวจพื้นที่ใน จ.เชียงใหม่สัปดาห์หน้า เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดการแข่งขัน Formula E ในประเทศไทยเป็นครั้งแรกในปีหน้า จะเป็นปีที่รัฐบาลจะยกระดับการท่องเที่ยวของไทยเป็น Tourism Hub ด้วยคุยผู้บริหารห้างวางขายสินค้าไทยต่อมาเวลา ๑๐.๔๐ น. นายกฯพร้อม น.ส.แพทองธาร และคณะติดตามบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยภายในห้างสรรพสินค้า Galéries Lafayette (กาเลอรี ลาฟาแย็ต) สาขา Haussmann พร้อมพบปะหารือผู้บริหาร นาย Nicolas Houze’, General Director, Galeries Lafayette เพื่อเปิดพื้นที่ให้ดีไซเนอร์ไทยได้นำสินค้ามาจำหน่ายภายในห้างได้ชวน Art Basel มาจัดแสดงศิลปะผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้นายกฯยังได้พบผู้จัดงานศิลปะระดับโลก อย่าง Art Basel และหารือกับคณะกรรมการอำนวยการของ Art Basel พร้อมได้เชิญชวนผู้จัดงานฯให้มาจัดงานศิลปะที่ประเทศไทย เพื่อดึงดูดผู้ชื่นชอบงานศิลปะระดับโลกหลายหมื่นคน มาซื้อขายงานศิลปะในเมืองไทย และยังเป็นการเปิดเวทีให้ศิลปินไทยได้แสดงฝีมือ จากนั้นนายกฯเดินทางมายังห้างค้าปลีก Tang Freres กรุงปารีส หารือกับนาย Bounmy Rattanavan ผู้บริหาร และเพื่อสำรวจตลาดสินค้าไทย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาดพท.มั่นใจสู้ได้ “เรืองไกร” ร้องล้มล้างฯนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้รับหนังสือจากสำนักงานอัยการสูงสุด เชิญไปให้ถ้อยคำในวันที่ ๑๘ มี.ค. กรณีร้องขอให้อัยการสูงสุด ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพรรค พท. มีการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๔๙ หรือไม่ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่นโยบายพรรค อาจเป็นความเห็นส่วนตัวที่แสดงออกทางการเมือง จะเห็นได้ว่าตอนนี้พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไม่ได้มีเรื่องแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา ๑๑๒ เป็นนโยบายรัฐบาลแต่อย่างใดเลย ถึงขณะนี้ พรรคไม่ได้ดำเนินการใดๆ เช่น เสนอร่างกฎหมาย เพราะพรรค พท. ไม่มีนโยบายอยู่แล้ว อนึ่งคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ มิได้เอาเรื่องเฉพาะการเสนอแก้ไขหรือยกเลิก ๑๑๒ เป็นการล้มล้างการปกครอง ศาลดูพฤติกรรมอื่นๆประกอบด้วย ดังนั้น พรรคเพื่อไทยมิได้วิตกกังวลอะไรในเรื่องนี้เลย ฝ่ายใดจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไรก็ดำเนินการไป พรรคเพื่อไทยมีความมั่นใจและมิได้วิตกกังวลอะไรในเรื่องนี้แต่อย่างใดเสื้อแดงรอต้อนรับ “ทักษิณ” ที่เชียงใหม่นายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษาของรองนายกฯ ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเดินทางไป จ.เชียงใหม่วันที่ ๑๔ มีนาคมจะมีคนเสื้อแดงไปรอต้อนรับหรือไม่ว่า ยังไม่ทราบกำหนดการชัดเจน แต่ที่ได้พูดคุยกับแกนนำคนเสื้อแดง จ.เชียงใหม่ เชียงรายและใกล้เคียง ทุกคนยังรักเคารพนายทักษิณ ทุกคนต่างดีใจที่นายทักษิณจะไป จ.เชียงใหม่ ต้องการไปให้กำลังใจนายทักษิณ ตนและคนเสื้อแดงจึงนัดรวมตัวกันที่วัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ช่วงเช้าวันที่ ๑๕ มีนาคมไม่ว่านายทักษิณจะไปที่วัดดังกล่าวหรือไม่ พวกเราจะรวมตัวกันที่นั่น เพื่อส่งกำลังใจให้นายทักษิณ เพราะพวกเราทุกคนต้องการให้นายทักษิณมีกำลังแข็งแรง จะได้นำความคิด ความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมระหว่างอยู่ต่างประเทศมาใช้ประโยชน์ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤติที่เราประสบอยู่เป็นเวลานาน เพราะจากผลงานที่ผ่านมาในสมัยไทยรักไทยพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าตอนที่นายทักษิณเป็นนายกฯ แก้ไขปัญหาต่างๆได้ดี เช่น ยาเสพติดปัญหาเรื้อรังตอนนั้นจัดการได้เด็ดขาด ไม่เหมือนตอนนี้ยาบ้าเต็มเมือง เราต้องการความรู้ความสามารถของท่านช่วยแก้ปัญหาให้ประเทศติง คปท.อย่าใจแคบมุ่งแต่โจมตีเมื่อถามถึงกรณีเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ตั้งข้อสังเกตการเดินทางครั้งนี้อาจมีเรื่องการเมืองแอบแฝง เพราะพรรคก้าวไกลเพิ่งขยับเรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่นที่เชียงใหม่ นายวรชัยกล่าวว่า หากตั้งข้อสังเกตแบบนั้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาบ้านเมือง ปากท้อง ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ทุกอย่างเป็นการเมืองทั้งหมด ครั้งนี้นายทักษิณต้องการไปเคารพอัฐิบรรพบุรุษ ไปเจอญาติพี่น้อง รวมถึงคนที่เคารพรักในตัวท่าน เพราะไม่ได้กลับบ้านมานานกว่า ๑๗ ปี จึงไม่อยากให้มองแบบคนใจแคบ ท่านไปเยี่ยมบ้านเป็นเรื่องปกติ ทุกคนมีความผูกพันกับถิ่นที่อยู่ มีญาติมิตรเพื่อนฝูงที่ไม่เจอกันนานก็คิดถึงเป็นธรรมดา อย่าเอาประเด็นเหล่านี้มาโจมตีกัน ควรให้ความเป็นธรรมกับนายทักษิณ และการไปครั้งนี้ต้องดำเนินการตามระเบียบ ขออนุญาตกรมคุมประพฤติเหมือนนักโทษที่ได้รับการพักโทษคนอื่นๆ ขออย่าทำให้เป็นประเด็นความขัดแย้งจะดีกว่า วัดโรงธรรมฯทำความสะอาดรอที่วัดโรงธรรมสามัคคี “บ้านกาด” หมู่ ๗ ต. ทรายมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ วัดที่ครอบครัวตระกูลชินวัตรอุปถัมภ์ และใช้เป็นสถานที่เก็บอัฐิ “ตระกูลชินวัตร” หลังจากมีกระแสข่าวว่า วันที่ ๑๔-๑๖ มี.ค. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะมากราบไหว้อัฐิบรรพบุรุษ ยังไม่พบความเคลื่อนไหวใดๆ แต่พบว่าทางวัดได้มีการทำความสะอาดภายในวัด รวมทั้ง ถนนในบริเวณวัด ขณะที่บนศาลาได้มีการจัดเตรียมดอกไม้ พร้อมทำความสะอาดที่ตั้งอัฐิ “ตระกูลชินวัตร” ไว้เรียบร้อยสว.แขวะประเทศเปลี่ยนแปลงกี่โมงวันเดียวกัน นายวันชัย สอนศิริ สว. โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “เพื่อไทยเป็นรัฐบาล ประเทศเปลี่ยนทันที…เปลี่ยนกี่โมง?” ว่า อย่าลืมตอนที่เพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน ซัดลุงตู่และโจมตีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างรุนแรง เอาเป็นเอาตาย เสียผู้เสียคน ยิ่งตอนหาเสียงทุกเม็ดทุกดอกถาโถมไปที่ ๓ ป. แบบไม่เผาผี ปิดสวิตช์ สว. ปิดสวิตช์ ๓ ป. ประเทศไทยเปลี่ยนทันที คนไทยมีกินมีใช้ มีเกียรติศักดิ์ศรีไปพร้อมกัน ยังก้องอยู่ในรูหูคนไทยทั้งประเทศ หวังว่าลุงตู่ไปเพื่อไทยมา ทุกอย่างจะเปลี่ยนทันที มีกินมีใช้เหมือนที่ว่าไว้ แต่นี้เกือบ ๑ ปีแล้ว มีอะไรเปลี่ยนบ้าง นอกจากเปลี่ยนรัฐบาลข้ามขั้วข้ามสี จากประชาธิปไตยครึ่งใบเป็นเต็มใบ นอกนั้นไม่ได้เปลี่ยนอะไรให้ประชาชนเลย ทั้งยังมีเสียงพูดถึงลุงตู่ว่านายกฯลุงตู่ดีกว่านายกฯเศรษฐาอีก ยิ่งนานวันจะทำให้ความเชื่อมั่นที่มีต่อรัฐบาลและนายกฯลดน้อยลง ถึงวันนั้นรัฐบาลจะอยู่ยาก ไปๆมาๆประชาธิปไตยเต็มใบ ครึ่งใบหรือเผด็จการต่างกันตรงไหน เมื่อผลงานก็งั้นๆไม่ต่างกัน รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์มีผลงานเยอะ แต่ฝ่ายค้านว่าไม่มี ตอนนี้รัฐบาลเศรษฐาว่าทำงานหนัก มีผลงานมาก แต่ชาวบ้านยังรู้สึกเฉยๆเย้ยนายกฯหลงระเริงงานอีเวนต์นายวันชัยระบุว่า ผู้นำหรือนายกฯเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญ ยิ่งมีฝีมือสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน มากเท่าใด ยิ่งนำพาประชาชนและประเทศได้เร็วเท่านั้น แต่นายกฯเศรษฐามาจากภาคธุรกิจ ไม่เคยอยู่ในวงราชการและการเมือง โชควาสนาพาให้เป็นนายกฯ เหมือนบุญหล่นทับ ไปไหนมาไหนมีข้าราชการทหาร ตำรวจล้อมหน้าล้อมหลัง คนแห่ต้อนรับใหญ่โต หัวใจก็บานพองโต การจัดตั้งแบบนี้ข้าราชการถนัด ทำมาทั้งชีวิต นายกฯที่ไม่ทันเกมแล้วชอบแบบนี้เสียผู้เสียคนกับอีเวนต์จัดตั้ง ทั้งชีวิตอยู่ภาคธุรกิจไม่มีใครห้อมล้อม พอเป็นนายกฯคึกคักชักของขึ้น ลงพื้นที่เกือบทุกวัน ไปต่างประเทศเกือบทุกสัปดาห์ ได้รับการต้อนรับอึกทึกครึกโครม งานเป็นชิ้นเป็นอันจึงไม่ค่อยเห็น มีแต่อีเวนต์ผ้าขาวม้าเต็มเอวเต็มคอ จะมีนายกฯไว้ทำอีเวนต์หรือทำงานเพื่อประชาชน เป็นเสียงสะท้อนจากชาวบ้านที่มีต่อผู้นำ จะปล่อยให้ท่านหลงระเริงไปอย่างนี้หรือ แล้วเมื่อไรคนไทยจะมีกินมีใช้ มีเกียรติศักดิ์ศรี ประเทศไทยจะได้เปลี่ยนสักที นายกฯอุ๊งอิ๊งค์ท่านว่าไว้ปชป.ฉะ รบ.กลิ้งกลอกลับมีดรอถล่มเมื่อเวลา ๑๐.๓๐ น. นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๕๒ ว่า พรรคเตรียมข้อมูลอภิปรายมาระยะหนึ่งแล้ว แม้จะไม่มีการลงมติ แต่ชี้ให้ประชาชนเห็นถึงความไม่ชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินได้ มีหลายเรื่องที่รัฐบาลต้องตอบ แม้จะอ้างว่ายังไม่ได้ใช้งบประมาณ แต่ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่การใช้งบฯตามปีงบฯใหม่ แต่รัฐบาลไม่ได้ทำงานตามที่ให้คำมั่นไว้ตอนแถลงนโยบายต่อสภาฯ จะอ้างว่ายังไม่ได้ใช้งบได้อย่างไร แล้วงบฯที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ อย่างปรับปรุงทำเนียบฯร้อยกว่าล้าน ใช้งบฯส่วนไหน จะตรวจสอบติติงไม่ได้เชียวหรือ อยู่ระหว่างการร่างญัตติโดยประสานกับพรรคก้าวไกล เพราะตลอด ๖ เดือนรัฐบาลเศรษฐา ยังไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน อย่าไปนับรวมตอนหาเสียงเลย เอาเฉพาะที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถือว่าเพิกเฉยต่อนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา ประชาชนคิดได้ว่าเป็นรัฐบาลกลิ้งกลอก หน้าไหว้ หลังหลอก ไม่จริงใจ การอภิปรายจะเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและประเทศ เราจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มที่ ตรวจสอบตรงไปตรงมา เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ยึดข้อบังคับการประชุมเป็นที่ตั้ง นายราเมศ รัตนะเชวงจ้องเขม็ง “ทักษิณ” ขึ้นเชียงใหม่นายราเมศกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่อยู่ระหว่างพักโทษจะเดินทางไป จ.เชียงใหม่ กรมคุมประพฤติและกรมราชทัณฑ์จะให้คำตอบได้ดีที่สุด ว่านายทักษิณจะเดินทางไปพื้นที่ต่างๆเหมาะสม ถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ ไม่ก้าวล่วงอำนาจองค์กรอื่น เชื่อว่าสังคมจับตาดูอยู่ว่าจะมีกระบวนการที่เอื้อประโยชน์ให้ใครหรือไม่อย่างไร จะบอกว่ารัฐบาลไม่รู้เห็นไม่ได้ ขอให้คำนึงถึงหลักการของบ้านเมืองย้ำไม่นิรโทษกรรมคดีทุจริต–ม.๑๑๒นายราเมศกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีนายชูศักดิ์ ศิรินิล ปธ.คณะกรรมาธิการ (กมธ.) นิรโทษกรรมสภาฯ ระบุถึงมูลเหตุความขัดแย้งทางการเมืองที่จะนำมาพิจารณาในที่ประชุม กมธ.นิรโทษกรรมที่เริ่มนับจากวันที่ ๑ มกราคม๔๘ และจะตั้งอนุ กมธ.เก็บสถิติทางคดีที่จะเกิดขึ้นจากแรงจูงใจทางการเมืองว่า พรรคติดตามใกล้ชิดและสื่อสารผ่านตัวแทนพรรคที่ไปเป็น กมธ.วิสามัญชุดดังกล่าวว่าพรรคไม่ติดใจเงื่อนเวลาการพิจารณา แต่ห่วงความไม่ชัดเจนของ กมธ.ว่า จะพิจารณาคดีทุจริตหลายคดีไปในแนวทางใด พรรคไม่เห็นด้วยที่จะให้นิรโทษกรรมคดีทุจริตไว้ในร่าง พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ที่ผ่านมาเคยมีความพยายามออกกฎหมายนิรโทษกรรมโดยรวมคดีทุจริตมาแล้ว หากกฎหมายนิรโทษกรรมที่กำลังพิจารณาในชั้น กมธ.นี้ เป็นไปในแนวทางร่าง พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฉบับเดิม จะก่อให้เกิดความเสียหายยับเยิน จะเป็นตัวปะทุที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งตามมาอีกมาก นอกจากนี้ยังมีประเด็นเกี่ยวข้องกับ มาตรา ๑๑๒ กมธ.ชุดนี้ไม่มีความชัดเจนเช่นกัน พรรคมีจุดยืนว่าต้องไม่นิรโทษกรรมให้คดีที่เกี่ยวข้องกับมาตราดังกล่าวด้วย ทั้งคดีทุจริตและคดีเกี่ยวข้องกับมาตรา ๑๑๒ ไม่ใช่คดีเกิดจากแรงจูงใจทางการเมือง หรือความขัดแย้งทางการเมือง อันเป็นเหตุให้กระทำความผิด ส่วนคดีอื่นๆที่ กมธ.วิสามัญจะพิจารณา พรรคจะติดตามดูว่าเป็นคดีที่มีองค์ความผิดหรือฐานความผิดใด ที่หยิบยกขึ้นมาพิจารณาโดยไม่เอาตัวบุคคลเป็นที่ตั้ง“ธนาธร” อึ้งคนรุ่นใหม่กล้าพูดปมร้อนเมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะอดีตอุปนายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) ขึ้นเวทีเสวนา ครบรอบ ๕๐ ปี อมธ.หัวข้อ “แกนนำทางการเมืองเพื่อประชาธิปไตย เพื่อประชาชน” ใจความตอนหนึ่งว่า ปีนี้เป็นปีที่ ๖ ที่เข้าสู่เส้นทางการเมือง นักกิจกรรมที่อยู่ที่ธรรมศาสตร์ทุกวันนี้ ขับเคลื่อนสังคมในรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปต่างจากตน ได้เฝ้ามองติดตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนต่างๆ ด้วยความชื่นชมและตกใจไปพร้อมกัน นักกิจกรรมรุ่นนี้กล้าหาญ กล้าพูดในสิ่งที่คนรุ่นตนและคนรุ่นก่อนไม่กล้าพูดอย่างตรงไปตรงมา กล้าพูดถึงความจริงอันกระอักกระอ่วน กล้าพูดถึงการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ในที่สาธารณะอย่างเปิดเผย นั่นเป็นสิ่งที่คนรุ่นตนและรุ่นก่อนหน้าไม่มีใครกล้าทำ แม้สิ่งที่นักกิจกรรมถูกกล่าวว่าเป็นการกระทำกระด้างกระเดื่อง เป็นการกระทำที่หยาบและทำร้ายจิตใจคนจำนวนหนึ่ง แต่ต้องยอมรับว่ามันเป็นลักษณะของคนหนุ่มสาวทุกยุคทุกสมัย ที่มีความขบถในตัวเอง มีความกล้าในการตั้งคำถามต่อระบบคุณค่าของสังคมที่ไม่สอดคล้องกับโลกปัจจุบันลั่นนักโทษการเมืองไม่ใช่อาชญากรนายธนาธรกล่าวอีกว่า ตั้งแต่ปี ๒๕๖๓-๒๕๖๗ มีนักโทษการเมืองทั้งหมด ๑,๙๕๗ คน มีคดี ม.๑๑๒ จำนวน ๒๖๘ คน คดี ม.๑๑๖ จำนวน ๑๕๐ คน ฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ๑,๔๖๙ คน ฝ่าฝืน พระราชบัญญัติชุมนุมสาธารณะ ๑๗๙ คน ฝ่าฝืน พระราชบัญญัติคอมฯ ๑๙๙ คน ละเมิดอำนาจศาลหรือดูหมิ่นศาล ๗๗ คน และมีคนอยู่ในห้องขัง ๔๒ คน คนเหล่านี้ไม่ใช่อาชญากร ไม่ได้ทำร้ายใคร พวกเขาคือนักโทษทางความคิด ผิดเพียงเพราะเขาพูดในสิ่งที่ผู้มีอำนาจไม่อยากได้ยินได้ฟัง การกระทำของพวกเขาไม่ใช่ดอกไม้ไฟ แต่คือไฟลามทุ่งและพาสังคมไทยไปถึงจุดที่ไม่เคยไปมาก่อน สิ่งที่พวกเขาทำ ทำให้สังคมตั้งคำถาม พูดคุยแลกเปลี่ยนถกเถียงเรื่องที่ครั้งหนึ่งไม่เคยมีใครคิดว่าจะพูดในที่สาธารณะได้อย่างเปิดเผย “ในวัยหนุ่มสาวเช่นนี้ ถ้าฝากอะไรไว้ได้ ขอให้ยึดมั่นในความถูกต้อง ยึดมั่นในอุดมการณ์ สร้างสังคมที่ดี สร้างสังคมที่เป็นประชาธิปไตย สร้างสังคมที่ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ” นายธนาธรกล่าวเรียกร้องปล่อย “ตะวัน–แฟรงค์”ช่วงบ่าย ที่ศาลอาญา นางพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรมและทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือสายน้ำ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม ๒ นักกิจกรรมทางการเมือง พร้อมมวลชนบางส่วน ร่วมทำกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ สวมใส่เสื้อดำถือดอกทานตะวัน ผูกริบบิ้นขาว ยื่นหนังสือต่อศาลอาญาขอให้ศาลอาญาพิจารณามีคำสั่งไม่รับฝากขังครั้งที่ ๔ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และนายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือแฟรงค์ ผู้ต้องหามาตรา ๑๑๖ คดีป่วนรถขบวนเสด็จฯของพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลดินแดงอีก ระบุไม่มีความจำเป็นและคุมขังเกินความจำเป็น ไม่เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาขอศาลทบทวนคำสั่งฝากขังนางพรเพ็ญกล่าวว่า ขอให้ศาลทบทวนคำสั่งเมื่อวันที่ ๙ มีนาคมที่อนุญาตให้พนักงานสอบสวนฝากขังครั้งที่ ๓ ผู้ต้องหาอีก ๑๒ วัน ผู้ต้องสงสัยทั้ง ๒ คนเป็นเพียงเยาวชนที่ร่วมกันแสดงอารยะขัดขืนอดอาหารด้วยความสงบ ไม่สามารถทำร้ายใคร ไม่สามารถที่จะทำให้เกิดความรุนแรงในสังคมด้วยวิธีการใดๆ เราต้องการนำเสนอข้อเท็จจริงกฎหมาย และมนุษยธรรม ผู้พิพากษาเป็นนักกฎหมายด้วยกัน พิจารณาเนื้อหาสาระได้อย่างมีความเป็นธรรม เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นในระบบตุลาการต่อไปด้าน น.ส.อรวรรณกล่าวว่า ตะวันและแฟรงค์ที่ทำทุกวันนี้ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ไม่อยากให้ใครมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ เพราะกระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยวทำร้ายประชาชนและเยาวชน เราควรปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมไม่ว่าเร็วหรือช้าต้องทำให้ได้ ต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ต้องไม่มีใครติดคุกเพราะเห็นต่าง ประเทศไทยไม่ควรเป็นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน และหลังจากนี้เราจะมีกิจกรรมยืนอยู่ขัง ๑.๑๒ ชั่วโมงอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่