วันจันทร์, 29 เมษายน 2567

"ก้าวไกล" ปลุก สส. ไม่หวั่นยุบพรรค ยักไหล่ แค่เปลี่ยนชื่อ-บ้านเลขที่

พรรคก้าวไกล ปลุกพลัง สส.ไม่หวั่นยุบพรรค ลั่น หลายครั้งยุบพรรค เพราะผู้มีอำนาจกลัว ยักไหล่ ก็แค่เปลี่ยนชื่อ-บ้านเลขที่ ยังไม่รีบตั้งพรรคสำรอง เพราะเชื่อมีมุมสู้คดี ปัด สส.ส้ม พบ “บิ๊กป้อม” ที่บ้านมีนบุรี คุยย้ายพรรคผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา ๑๓.๐๐ น. ที่รัฐสภา มีการประชุม สส.พรรคก้าวไกลประจำสัปดาห์ มีนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นประธานการประชุม และมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เข้าร่วมประชุมด้วย โดยมี สส.เข้าร่วมอย่างคึกคัก ท่ามกลางกระแสข่าว กกต.มีมติส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกลเมื่อเวลา ๑๗.๔๕ น. นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ว่า ที่ประชุมวันนี้ไม่มีการพูดกันเรื่องยุบพรรค แต่มีการแจ้งข่าว ที่กกต.ส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีประชุมเชิงรายละเอียด แต่สื่อสารกับสมาชิกให้เข้าใจว่า เรายังมุ่งมั่นทำงานต่อ พร้อมสู้ทุกประเด็น และไม่มีความกังวลประเด็นยุบพรรค ขณะที่เรื่องการเตรียมความพร้อมคดียุบพรรคจริงๆ นั้นไม่ได้เหนือไปกว่าที่คาดการณ์ไว้ วันนี้ กกต.ใช้วิธีการว่า มีมติเป็นเอกฉันท์ คงต้องให้ท่านอธิบายต่อสังคมต่อไปว่า มติเอกฉันท์นั้น หมายถึงอย่างไร เหตุและผล การดำเนินการเป็นอย่างไร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า อย่าลืมว่า เรื่องยุบพรรคเป็นเรื่องสำคัญ และขัดต่อเจตจำนงของประชาชนที่ก่อตั้งพรรคกันขึ้นมา ต้องมีเหตุและผล จะอาศัยเพียงแต่คำวินิจฉัยศาลอย่างเดียวในการตีความไม่ได้ เรามีประสบการณ์ ครั้งยุบอนาคตใหม่มาแล้ว วันนั้นเราอาจจะยังเห็นภาพไม่ชัดมากนักว่า มันจะเกิดขึ้นเพราะเจตจำนงทางการเมืองได้จริงหรือ กับการยุบพรรค แต่วันนี้เราเห็นชัดขึ้นว่า จริงๆ แล้วการยุบพรรคหลายครั้งอาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงของการวินิจฉัย แต่ขึ้นอยู่กับว่า ผู้มีอำนาจ ณ ขณะใดๆ กังวลหรือกลัวอำนาจทางการเมือง ที่ขึ้นมาอย่างไรมากกว่า คงดูว่าขั้นตอนของศาลหลังจากที่กกต.ส่งไปแล้ว ศาลจะว่าอย่างไร เร็วไปที่จะคาดการณ์ แต่เราก็มีมุมที่จะอธิบายเพิ่มเติมว่า คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะตัวคำวินิจฉัยช่วงท้ายๆ อย่าดูแต่เพียงข้อความทั้งหมด ต้องดูด้วยว่า ศาลสั่งหรือวินิจฉัยอย่างไร เราก็คงต้องมาโต้แย้ง ด้วยความที่เหตุและผลที่ไม่เห็นด้วย“สำหรับอีกด้านหนึ่ง ได้กำชับเรื่องลงพื้นที่หนักขึ้น ไม่ละเลย เรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่น พรรคก้าวไกลประกาศชัดจะส่งเลือกตั้งท้องถิ่นในนามก้าวไกล หากจะมีการยุบพรรคก้าวไกลจริง เราคาดคะเนว่า ถ้าจะมีจริง ก็คงจะไม่เกิดขึ้นภายในเดือน สองเดือนนี้ รอบนี้ผมมั่นใจว่า ตัว สส.ที่มากับพรรคในปัจจุบัน ๑๔๘ คน กรองคนมาอย่างดี เราเชื่อมั่นในแนวคิด อุดมการณ์ ผมยังไม่เชื่อว่า ยุบพรรคมันจะเกิดขึ้น แต่หากจะเกิดขึ้นจริง ผมว่า สมาชิกที่เหลืออยู่ ถ้ากรณีกรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ์ ก็พร้อมจะเดินหน้าไปในพรรคการเมืองใหม่ต่อ เสมือนว่า เราไม่ได้เปลี่ยนบ้าน เพียงแต่ว่า อาจจะเปลี่ยนเลขที่หรือเปล่า ชื่อบ้านเท่านั้นเอง แต่บ้านเรายังคงอยู่ ผมเชื่อมั่นว่า บ้านของเราจะมี ก็จะมีสมาชิกที่สนับสนุนมากยิ่งขึ้น” นายณัฐวุฒิ กล่าว…เมื่อถามถึงพรรคใหม่ มีการตั้งแล้วหรือยัง นายณัฐวุฒิ ตอบว่า อ๋อ ยังไม่มีเลยครับ เพราะดูจากข้อเท็จจริงผลของคำวินิจฉัยสุดท้าย ของศาลรัฐธรรมนูญ และสิ่งที่กกต.ส่งขึ้นไปเราเชื่อว่า เรายังมีมุมใช้ในการต่อสู้คดีอยู่ หากศาลให้มีการนำไต่สวน อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับศาลว่า แล้วมีเหตุอะไรที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะไม่ให้มีการไต่สวน เพราะว่าประเด็นในการดำเนินการครั้งที่แล้ว ที่พูดถึงการตัดสินว่า การหาเสียงเรื่องประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ และการมีนโยบายเรื่องนี้ ผิดหรือไม่ ทำได้หรือไม่ คนละประเด็นกับการยุบพรรค เราจึงยังเชื่อว่า มีข้อโต้แย้งในการต่อสู้ และสู้ในชั้นการไต่สวน สุดท้ายอย่างไรเราไม่รู้ แต่ว่ายังไม่มีเรื่องการเตรียมความพร้อมพรรคสำรอง ถึงขนาดจะมีพรรคใหม่ ดังที่เคยเกิดขึ้น เพราะเรามั่นใจสิ่งที่เราเดินหน้าและก็ ความมั่นใจต่อมวลสมาชิกที่อยู่กับเรามาตลอดเมื่อถามถึงที่ผ่านมา มีกระแสข่าวลือมาว่า มีสส.พรรคก้าวไกล ไปพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพปชร. ที่บ้านพักย่านมีนบุรี เรื่องนี้มีมูลความจริงหรือไม่ นายณัฐวุฒิ ตอบว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เคยได้ยินประโยคนี้ ไม่เคยมีข้อมูลหรือข้อเท็จจริงใดๆ มาก่อน แต่เท่าที่ทราบมา เนื่องจากว่า พรรค พปชร. มีสมาชิกบางท่านที่เป็นคณะรัฐมนตรี ดังนั้นในส่วนคณะรัฐมนตรี ได้มีการพบปะกับ สส.เรา ในประเด็นที่เกี่ยวข้อง เช่น กรณีเรื่องช้างป่าที่เป็นปัญหา ที่เรากำลังอภิปรายอยู่อย่างนี้มีอยู่ แต่ว่าการเข้าไปพบ พล.อ.ประวิตร หรืออย่างไร อันนั้นท่านเคยท้าเรา บอกให้ไป แต่เราอยากให้ท่านมาสภาฯ ทำหน้าที่สส.มากกว่า คงไม่มีเหตุอะไรจะไปพบท่าน ถ้าพบ ตนว่าท่านคงบอกแล้วละว่า วันนั้นยังเห็นมาที่บ้านเลย ดังนั้นไม่มีมูล ไม่มีข้อเท็จจริงใดๆ และมั่นใจว่า ยิ่งจะเป็นการไปพบในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการย้ายพรรค ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่