หมอในฉนวนกาซา ๓ คน ร่วมกันกล่าวหาว่า ถูกทหารอิสราเอลทำทารุณกรรม หลังพวกเขาถูกจับกุมระหว่างปฏิบัติการโจมตีโรงพยาบาลเมื่อกลางเดือนก่อนสำนักข่าวบีบีซี รายงานเมื่อ ๑๒ มี.ค. ๒๕๖๗ ว่า เจ้าหน้าที่การแพทย์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ๓ คน ออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาถูกทำทารุณกรรมระหว่างถูกเจ้าหน้าที่อิสราเอลจับกุมตัว ระหว่างการบุกจู่โจมโรงพยาบาลนาสเซอร์ เมื่อเดือนก่อน ทั้งบังคับถอดเสื้อผ้า, ปิดตา และทุบตีซ้ำๆนายอาห์เหม็ด อาบู ซาบา แพทย์ของโรงพยาบาลนาสเซอร์ เล่าให้นักข่าวบีบีซีฟังว่า ระหว่างที่ถูกควบคุมตัวนาน ๑ สัปดาห์ เขาถูกสวมตะกร้อครอบปาก และถูกทหารอิสราเอลทำร้ายจนมือหัก ขณะที่เจ้าหน้าที่แพทย์อีก ๒ คน ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ก็ให้การไปในทางเดียวกันทั้ง ๓ คนบอกกับ บีบีซี ว่า พวกเขาถูกทำให้อับอาย, ถูกทุบตี, ราดด้วยน้ำเย็น และบังคับให้คุกเข่าในท่าทางที่ไม่สบายนานหลายชั่วโมง ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวในอีกหลายวันต่อมาบีบีซีสอบถามเรื่องข้อกล่าวหาของหมอทั้ง ๓ คนกับเจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) ซึ่งไม่ตอบคำถามโดยตรง แต่ระบุว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่แพทย์คนใดถูกทำร้ายระหว่างปฏิบัติการบุกโรงพยาบาลนาสเซอร์ เมื่อ ๑๕ ก.พ. และการทารุณถูกถูกจับกุมนั้น ตรงข้ามกับคำสั่งของ IDF และเป็นสิ่งที่ถูกห้ามอย่างเข้มงวดอย่างไรก็ตาม บีบีซี ได้รับวิดีโอซึ่งถ่ายที่โรงพยาบาลนาสเซอร์ ในวันที่ ๑๖ ก.พ. หรือ ๑ วันหลังการโจมตี แสดงให้เห็นภาพชายกลุ่มหนึ่งในสภาพสวมแต่กางเกงใน สองมือประสานอยู่หลังศีรษะ ถูกจับนั่งคุกเข่าเรียงแถว อยู่ที่หน้าอาคารฉุกเฉินของโรงพยาบาล บางคนมีชุดคลุมของแพทย์กองอยู่เบื้องหน้าดร.อาเตฟ อัล-ฮูต ผู้จัดการทั่วไปของโรงพยาบาลนาสเซอร์ เล่าเหตุการณ์ในวันดังกล่าวให้ บีบีซี ฟังว่า “ใครก็ตามที่พยายามขยับหัวหรือเคลื่อนไหว จะถูกทุบตี” “ทหารอิสราเอลปล่อยให้พวกเขาอยู่ในท่าอันน่าอับอายนี้ราว ๒ ชั่วโมง”ด้านกองกำลัง IDF บอกกับ บีบีซี ว่า “ตามกฎ ระหว่างกระบวนการจับกุม มักเป็นเรื่องจำเป็นที่ผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายจะต้องส่งมอบเสื้อผ้าของพวกเขาให้เจ้าหน้าที่ เพื่อการตรวจค้นและรับประกันว่า พวกเขาไม่ได้ซุกซ่อนเสื้อกั๊กติดระเบิดหรืออาวุธอื่นๆ”“เสื้อผ้าดังกล่าวไม่ได้คืนให้ผู้ถูกจับกุมทันที เนื่องจากข้อสงสัยว่าพวกเขาอาจซุกซ่อนสิ่งที่สามารถใช้เพื่อต่อต้านได้ เช่น มีด” IDF ระบุ และว่า ผู้ถูกจับกุมจะได้รับเสื้อผ้าคือเมื่อสามารถคืนให้ได้ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreignที่มา : bbc
