วันจันทร์, 29 เมษายน 2567

ได้แต่ขายฝันเท่านั้น

นายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” ประกาศกลับจากทัวร์เมืองนอก รัฐบาลจะแถลงผลงานรอบ ๕ เดือนที่ผ่านมายังไม่มีการปรับ คณะรัฐมนตรีแต่อย่างใดคำถามก็คือ รัฐบาลมีผลงานอะไรบ้าง?ที่แน่ๆคือ การเดินทางไปโรดโชว์เมืองนอกเสีย ๑๖ ประเทศ แทบจะพูดได้ว่า อยู่ต่างประเทศเกือบเท่ากับในประเทศในด้านการบริหารงานว่าไปถือเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศไทยก็ว่าได้ ที่ทำงานในลักษณะอย่างนี้ ก็แน่นอนเมื่อเขาประกาศว่าเป็น “เซลส์แมน” เบอร์ ๑ ของประเทศ ก็ต้องทำอย่างนี่แหละ มิฉะนั้นไม่มีผลงานนอกจากทำหน้าที่เป็น “เซลส์แมน” แล้วยังเป็น “พรีเซ็นเตอร์” สินค้าที่ผลิตโดยคนไทย ไม่ว่าจะเป็นผ้าขาวม้า กระเป๋าอย่างที่ไปโชว์ที่ฝรั่งเศสสดๆร้อนๆไม่รู้ว่า กลับเมืองไทยจะมี “ออเดอร์” สั่งเข้ามาหรือไม่?ว่าไปแล้วการบินไปโรดโชว์ถึง ๑๕ ประเทศ ได้พบผู้นำหลายประเทศ รวมถึงนักธุรกิจ นักลงทุนระดับโลกเด่นดังทั้งนั้นเพื่อเชิญชวนให้มาลงทุนในประเทศไทยที่เปิดรับอย่างเต็มที่ปรากฏถึงวันนี้บริษัทต่างๆที่นายกรัฐมนตรีบอกว่า ให้ความสนใจยังเงียบหาย โดยเฉพาะที่เป็นเป้าหมายและความต้องการของไทยมีก็เพียงแค่บริษัทที่ยืนยันว่าจะมา ซึ่งก็เป็นเพียงเล็กๆ เท่านั้นหากมองภาพรวมแล้วไป ๑๖ ประเทศ แทบจะไม่มีอะไรเป็นแก่นสารเท่าใดนัก เพราะส่วนใหญ่บอกเพียงว่า “จะ” แต่ “ยังไม่” ตอบรับเป็นการสร้างความหวังลมๆแล้งๆเท่านั้นอย่าง “แลนด์บริดจ์” ที่รัฐบาลไทยตั้งความหวังไว้สูง เพื่อหวังพัฒนาประเทศ ไปที่ไหนก็ชวนประเทศนั้นประเทศนี้แต่ก็เงียบหายไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใดแน่นอนว่า การลงทุนในโครงการใหญ่ๆอย่างนี้ผู้ลงทุนคงต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะก่อนลงทุนก็ต้องศึกษาให้รอบคอบแต่วันนั้นถึงวันนี้จะมาไม่มาเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างน้อยก็ควรจะมีการส่งเสียงเข้ามาบ้าง หรือส่งกองหน้าเข้ามาดูลาดเลาหรือเริ่มต้นสำรวจสภาพต่างๆเพื่อใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นไม่มีเลยครับ…เหมือนโยนก้อนหินลงทะเลเงียบจ๋อยไปเลยหรือวิสัยทัศน์ ๘ หัวข้อใหญ่ ที่นายกรัฐมนตรีประกาศไปแล้วนั้น ก็ยังไม่เห็นความคืบหน้าให้ปรากฏแม้แต่น้อยอย่างฮับการบินที่สิงคโปร์ เขาไปไกลกว่านั้นแล้ว เพราะเขามุ่งไปสู่ฮับเอไอแล้ว พูดง่ายๆว่าไทยช้ากว่าเขาไปหลายก้าวเพราะพื้นฐาน “คน” เขาดีกว่าเรามากและมุ่งมั่นที่มีเป้าหมายเดียวกันหรือแม้กระทั่งเรื่องศูนย์กลางการเงินในภูมิภาค ก็คงไม่ทันเขาแล้ว เพราะประเทศอื่นเขามีความพร้อมมากกว่าเอาเป็นว่า ๖ เดือนของรัฐบาล ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันจับต้องได้แม้แต่น้อย เห็นแค่พูด สั่ง บินไปบินมาอยู่อย่างนี้แม้แต่เรื่องฝุ่นพิษก่อนไปต่างประเทศ ชื่นชมเชียงใหม่ว่า จัดการกันดีควรเป็นเมือง “ต้นแบบ” คล้อยหลังไม่กี่วันติดอันดับ ๑ ของโลกเมืองยอดแย่ที่มีฝุ่นพิษสูงที่สุด๖ เดือนที่เห็นมันเป็นอย่างนี้ แล้วรัฐบาลจะว่าอย่างไรล่ะ!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม