วันอาทิตย์, 28 เมษายน 2567

นายกฯ จ่อผลักดันปี ๖๘ เป็นปีแห่งท่องเที่ยวของไทย ลั่นมุ่งมั่นแก้ปัญหาให้ประชาชน

14 มี.ค. 2024
42

“เศรษฐา” เผย รัฐบาลเตรียมประกาศวาระแห่งชาติ ผลักดันให้ปี ๒๕๖๘ เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวของไทย ย้ำ มุ่งมั่นตั้งใจทำงาน แก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน ลั่น จะชอบหรือไม่ ไม่เป็นไร แต่อย่าด้อยค่าศักยภาพประเทศวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๗ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว พร้อมให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยกล่าวสรุปผลการเดินทางเพื่อเข้าร่วมประชุมอาเซียน-ออสเตรเลีย และการเยือนอย่างเป็นทางการประเทศฝรั่งเศส และเยอรมนี ในช่วงวันที่ ๔-๑๓ มีนาคม ๒๕๖๗ ว่า รัฐบาลได้สร้างความเชื่อมั่น และสร้างหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กับทุกประเทศ วางตัวเป็นกลาง พร้อมรับการลงทุนในทุกมิติ นำไปสู่การสร้างสันติภาพ และความมั่นคงในภูมิภาค ทั้งระหว่างอาเซียน-ออสเตรเลีย และประเทศไทยกับประเทศในสหภาพยุโรป (EU) ทั้งนี้ รัฐบาลจะส่งเสริมผลักดันการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ (Free Trade Agreement – FTA) ทั้ง FTA-EU, FTA-UK พร้อมทั้งจะแก้ไขอุปสรรคต่างๆ Ease of doing business เช่น single form, single window ให้มีความรวดเร็ว, สร้าง business cooperation (ความร่วมมือทางธุรกิจ) ระหว่างประเทศต่างๆ เพื่อให้เกิดความร่วมมือกันอย่างไม่มีช่องว่าง เราจะส่งเสริมภาคธุรกิจ โดยเฉพาะภาคยานยนต์และชิ้นส่วนต่างๆ ที่จะเข้ามาตั้งโรงงาน หรือขยายฐานการผลิตในไทย เช่น สเตลแลนทิส (STELLANTIS), ฟ็อลคส์วาเกิน (Volkswagen), เมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz), บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จะส่งเสริมผ่านมาตรการต่างๆ ที่จะเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานสะอาดและรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ตลอดจนจะต้องหามาตรการช่วยเหลือผู้ผลิตรถยนต์แบบ ICE (รถยนต์สันดาป) ด้วย นายกรัฐมนตรี ระบุต่อไปอีกว่า รัฐบาลจะประกาศวาระแห่งชาติในการผลักดันให้ปี ๒๕๖๘ เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวของไทย Tourism Hub เราพร้อมผลักดันการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญไปควบคู่กัน เช่น สนามบิน รถไฟความเร็วสูง และโครงการแลนด์บริดจ์ (Landbridge) และยกระดับศิลปวัฒนธรรมไทย อาหารไทย รวมถึงวงการแฟชั่นไทย ให้เป็นที่ยอมรับของโลก โดยร่วมมือกับสมาพันธ์ระดับโลก เช่น Federation Haute Couture, Michelin Guide ห้างระดับโลก เช่น Gallery Lafayette, Bon Marche ผ่านการใช้วัตถุดิบไทยที่มีคุณภาพ เช่น ผ้าคราม เตรียมพร้อมรับอีเวนต์ระดับโลกที่จะมาจัดในประเทศไทย เช่น F๑, Michelin World Food Expo, Paris Fashion Show หรือเข้าร่วมงานระดับโลก เช่น ITB และ MIPIM อย่างเต็มศักยภาพ สร้างโอกาสให้กับประเทศไทย และคนไทยขณะเดียวกัน เราจะส่งเสริมให้นักธุรกิจรายใหม่ ทั้งขนาดกลาง และขนาดเล็ก รวมถึงนักออกแบบรุ่นใหม่ มีแรงบันดาลใจในการสร้างธุรกิจของตนเอง และเห็นโอกาสในทางธุรกิจจากแบรนด์ระดับโลก นอกจากนั้น รัฐบาลขอให้ความเชื่อมั่นว่า เราจะพยายาม matching talents ให้เข้ากับภาคอุตสาหกรรมระดับโลกในไทย สร้างแรงดึงดูดต่างๆ ทั้งมาตรการทางภาษี และการส่งเสริมด้านการทำงาน เพื่อเตรียมตัวรองรับกับอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะเข้ามาเปิดในไทย เช่น Semiconductors, Data Center, EV เพื่อให้นักศึกษาไทยในต่างประเทศกลับมาทำงานในประเทศไทยอย่างมีศักดิ์ศรี”ทั้งหมดนี้เกิดจากความมุ่งมั่น ตั้งใจ มาทำงานเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน จะชอบผม ไม่ชอบผมไม่เป็นไร แต่อย่าด้อยค่าศักยภาพของประเทศครับ”