วันเสาร์, 4 พฤษภาคม 2567

พระสารีริกธาตุถึงกระบี่ เปิดให้สักการะ ๑๕-๑๘ มี.ค.

15 มี.ค. 2024
41

ภายหลังพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ พระอัครสาวก จากสาธารณรัฐอินเดีย ได้รับการอัญเชิญมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ วัดมหาวนาราม พระอารามหลวง อ.เมืองอุบลราชธานี เป็นจุดที่ ๓ ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๓ มี.ค. ให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยทั้งใน จ.อุบลราชธานี และในภาคอีสาน รวมทั้ง ประชาชนชาวลาวเดินทางมาสักการะ เพื่อความเป็นสิริมงคลชีวิตกันล้นหลามกว่า ๕ แสนคนต่อมาเวลา ๐๗.๐๐ น. วันที่ ๑๔ มี.ค. มีพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ ออกจากวัดมหาวนาราม ไปขึ้น เครื่องบินทหาร C๑๓๐ ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน ๒๑ อ.เมืองอุบลราชธานี อัญเชิญต่อมาให้พี่น้องประชาชนทางภาคใต้ได้สักการะเป็นจุดที่ ๔ ระหว่างวันที่ ๑๕-๑๘ มี.ค. ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล หรือวัดบางโทง ต.นาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ โดยถึงท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่เวลา ๑๐.๔๕ น. มีพระเทพวชิรากร รองเจ้าคณะภาค ๑๗ เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุวชิรมงคล นางปอโลมี ตริปาฐี อุปทูตสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการวัฒนธรรม นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมนายสมชาย หาญภักดีปฏิมา ผวจ.กระบี่ รวมทั้งข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนชาว จ.กระบี่ มารอรับผู้แทนจากอินเดียได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุฯ ลงจากเครื่องบินไปประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญชัยมงคลคาถา ณ ห้องรับรอง ภายในสนามบิน แล้วอัญเชิญไปประดิษฐานยังห้องมั่นคงภายในวัดมหาธาตุวชิรมงคล โดยเช้าวันที่ ๑๕ มี.ค. จังหวัดกระบี่ได้จัดขบวนอัญเชิญอย่างยิ่งใหญ่ ในการเคลื่อนพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันต ธาตุฯ ขึ้นประดิษฐานบนมณฑปในวัด สำหรับการเข้าสักการะจัดเป็นรอบละ ๑๐๐ คน ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐-๒๐.๐๐ น. และในเวลา ๑๘.๐๐-๑๙.๐๐ น. มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์เสริมสิริมงคลให้ผู้ที่เข้าสักการะพระบรมสารีริกธาตุฯ คาดว่าจะมีประชาชนเข้าสักการะประมาณวันละ ๑๐๐,๐๐๐ คน ช่วงค่ำตลอดระยะเวลาการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ จะมีการจัดตกแต่งไฟแสงสีเสริมความสวยงามให้กับเจดีย์พุทธคยาอีกด้วย จากนั้นในวันที่ ๑๙ มีนาคมเวลา ๑๐.๓๐ น. จะมีพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ ขึ้นสู่เครื่องบินของกองทัพอากาศอินเดีย ออกจากท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ กลับสู่เมืองเดลี สาธารณรัฐอินเดียนายสมชาย หาญภักดีปฏิมา ผวจ.กระบี่ กล่าวว่า จังหวัดมีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มาสักการะ คาดว่าแต่ละวันจะมีพุทธศาสนิกชนหลั่งไหลมาจำนวนมากทั้งใน จ.กระบี่ และอีกหลายจังหวัดของภาคใต้ มีการจัดสถานที่จอดรถไว้หลายจุดอย่างเพียงพอโดยรอบของวัดมีรถอำนวยความสะดวกรับ-ส่งทุกจุดจอดรถ รวมทั้งมีจุดรักษาพยาบาลพร้อมหมอ พยาบาลขณะที่ พ.ต.อ.สุขเกษม นครวิสัย รอง ผบก.ภ.จ.กระบี่ เปิดเผยว่า ในส่วนของตำรวจภูธร จ.กระบี่ ได้จัดกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดระยะการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ โดยเฉพาะตัววิหารที่ประดิษฐานจัดเจ้าหน้าที่อยู่เวรยามจุดละ ๒ นาย ผลัดละ ๑ ชม. ตลอด ๒๔ ชม. นอกจากนี้ยังติดตั้งกล้องวงจรปิดทั้งภายในวิหารและนอกวิหาร รวมถึงห้องมั่นคง แต่ละวันจะมีตำรวจ ทหาร จิตอาสา ๙๐๔ จิตอาสาพระราชทานและตำรวจอาสา ประชาชน ปฏิบัติหน้าที่ไม่ต่ำกว่าวันละ ๒๐๐ นายนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการวัฒนธรรม กล่าวว่า การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ จากท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร ไปยัง จ.เชียงใหม่ และ จ.อุบลราชธานี มีศาสนิกชนร่วมสักการบูชากว่า ๕ ล้านคน ส่วน จ.กระบี่ คาดว่าจะมีประชาชนในพื้นที่ภาคใต้และประเทศเพื่อนบ้าน เดินทางมาสักการะวันละไม่ต่ำกว่า ๑๕๐,๐๐๐ คน และจะหารือกับสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย ๙๘๐ ในการผนึกพลังจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อหลอมรวมศาสนิกชนให้มีการนำหลักธรรมมายึดถือปฏิบัติ สร้างความรัก ความสามัคคี ความสงบสุขและสันติภาพ หลังจากเสร็จสิ้นงานแล้วจะรวบรวมข้อมูลอย่างละเอียดนำเสนอคณะรัฐมนตรี และกราบบังคมทูลถวายรายงานการดำเนินงานอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ การรวมพลังความศรัทธาของศาสนิกชนทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ร่วมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ต่อไปอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่