Tuesday, 14 May 2024

ผู้บัญชาการทหารเรือขอ ๓ วัน เรือรบปืนลั่น เร่งสอบสรุปหาสาเหตุ สั่งเคลียร์-หวั่นเกิดซํ้า!

16 Mar 2024
56

ผู้บัญชาการทหารเรือสั่งเคลื่อนเรือหลวงชลบุรีออกจากท่าเทียบเรือ ฐานทัพเรือสัตหีบ เพื่อเคลียร์ปืนกลางทะเลหวั่นเกิดเหตุซ้ำ หลังปืนใหญ่ลั่นใส่ท้ายเรือฟริเกต แจงปืนมีอายุการใช้งานนาน ยิงแล้วขัดลำกล้อง ซ่อมแล้วยังยิงติดอีก ขณะตรวจเช็กเกิดอุบัติเหตุรอผลสรุป ๓ วัน ขณะที่ “สุทิน” เผยตั้งกรรมการสอบและมอบนโยบายขอให้เรื่องนี้เป็นบทเรียนจากอุบัติเหตุที่เรือหลวงชลบุรีนำกำลังพลไปทำการฝึกกลางทะเล กระสุนปืนใหญ่ ๗๖ มม.เกิดการขัดข้องและติดค้างอยู่ในตัวปืน ทหารประจำเรือหลวงชลบุรีดำเนินการตามมาตรการป้องกันอันตรายเบื้องต้น และแล่นเข้าจอดเทียบท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพสัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมให้เจ้าหน้าที่ช่างปืนมาดำเนินการแก้ไขปัญหาเกิดเหตุปืนลั่นกระสุนพุ่งตรงไปที่ท้ายเรือหลวงคีรีรัฐแล้วระเบิดไฟลุกไหม้และมีกลุ่มควันพวยพุ่ง เจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงเร่งสกัดไฟจนเพลิงสงบ ทหารได้รับบาดเจ็บรวม ๑๔ นาย นำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ตรวจสอบเรือยังคงมีขีดความสามารถในการปฏิบัติการตามปกติความคืบหน้าเมื่อเวลา ๑๒.๐๐ น. วันที่ ๑๕ มี.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (วังนันทอุทยาน) พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร. กล่าวถึงกรณีเหตุเรือหลวงชลบุรีปืนลั่นใส่เรือหลวงคีรีรัฐว่า ขอให้รอผลสรุปภายใน ๓ วัน เมื่อวานนี้เรือหลวงชลบุรีเคลื่อนออกจากท่า ไม่อยากให้เรือจอดติดกัน และไปเคลียร์กระสุนปืนที่ยังค้างอยู่ ภายหลังเคลียร์เสร็จแล้วก็กลับเข้าสู่ท่าที่เดิม เมื่อถามว่า พูดถึงกันมากถึงมาตรฐานการปฏิบัติการของกองทัพเรือในปีที่ผ่านมามีเหตุการณ์ร้ายแรงหลายครั้ง ผู้บัญชาการทหารเรือตอบว่า ทราบเรื่องแล้ว แต่ยังไม่ขอพูด ให้คณะกรรมการสอบสวนเป็นผู้ตอบในส่วนนี้ ปืนมีอายุการใช้งานนาน หลังจากไปฝึกยิงก็ขัดลำกล้องแล้วครั้งหนึ่ง พยายามซ่อมจนสามารถใช้การได้จึงทำการฝึกต่อ กระทั่งกลับมาขัดลำกล้องอีก เจ้าหน้าที่ประจำเรือพยายามซ่อมแซม แต่เป็นช่วงเวลาใกล้เย็นต้องนำเรือเข้าฝั่ง เพื่อวางแผนในช่วงเช้าจะส่งทหารช่างไปซ่อมดูแล กระทั่งมาเกิดอุบัติเหตุเมื่อถามว่ายืนยันหรือไม่ว่าเรื่องนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ พล.ร.อ.อะดุงกล่าวว่า ถ้ามีความผิดพลาดที่เกิดจากคนต้องมีผู้รับผิดชอบ ส่วนผลสรุปในการสอบสวนเรือหลวงสุโขทัยล่มนั้น ตอนนี้ได้พยานหลักฐานครบแล้ว เหลือเพียงอย่างเดียวคือเครื่องอัดเทปที่ส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ แจ้งมาว่าต้องใช้เวลา ๑ เดือน อยากให้การแถลงข่าวสรุปปิดคดีมีหลักฐานในส่วนนี้ด้วย อยากให้ทุกอย่างเคลียร์ อยากให้ประชาชนคนไทยได้รับทราบ และเคลียร์ในทุกปัญหาที่เกิดขึ้น ตนจะเป็นผู้แถลงข่าวเอง ส่วนอาการของผู้บาดเจ็บเหลือเพียง ๔-๕ คน ถือเป็นความโชคดี เมื่อถามย้ำถึงอาการของผู้บาดเจ็บเป็นอย่างไร ผู้บัญชาการทหารเรือกล่าวว่า ไม่น่าห่วง เป็นการสูดอากาศ ร้อนและควันเข้าไปสำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บรวม ๑๔ นาย เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์กรมแพทย์ทหารเรือ ประกอบด้วย ๑.จ.ต.ศาสตราวุธ รองตะโหนด อายุ ๒๔ ปี บาดเจ็บจากแรงกระแทก ๒.จ.ท.อภิรักษ์ บุบผาลา อายุ ๒๑ ปี บาดเจ็บจากแรงกระแทกและหูข้างซ้ายอื้อ ๓.จ.ท.พศุตม์ เผ่าพันธ์ อายุ ๒๓ ปี สูดสำลักควันไฟ ๔.จ.อ.จักริน ทองมณี อายุ ๒๒ ปี สูดสำลักควันไฟ ศีรษะกระทบกระเทือนมีแผลที่คิ้วขวาและแขน ๕.จ.อ.สุรศักดิ์ อาจศิริ อายุ ๒๒ ปี ร่างกระแทกและสูดลำลักควันไฟ ๖.จ.อ.วงศธร อารมณ์ อายุ ๒๕ ปี สูดสำลักควันไฟ หูขวาอื้อ ไหล่ขวาและหลังถูกแรงกระแทก ๗.จ.อ.ตรีเพชร เกิดแย้ม อายุ ๒๕ ปี สูดสำลักควันไฟ และแผลสะเก็ดระเบิด ๘.พ.จ.ต.อดิศักดิ์ ชัยบัวแก้ว อายุ ๓๙ ปี สูดสำลักควันไฟ ๙.พ.จ.ต.ณรงค์ ไชยมูล ควันไฟเข้าตา ๑๐.พ.จ.อ.วิชิต ชะนุดรัมย์ อายุ ๔๓ ปี สูดสำลักควันไฟ ๑๑.พ.จ.อ.คงศักดิ์ ธรรมวิฐาน อายุ ๔๕ ปี สูดสำลักควันไฟ มีแผลนิ้วชี้เท้าซ้าย และแผลสันมือซ้าย ๑๒.พ.จ.อ.สุพจน์ ชะนะเกตุ อายุ ๕๐ ปี บาดแผลโคนนิ้ว หลังใบหู ปีกจมูก และสูดสำลักควันไฟ ๑๓.พ.จ.อ.สุริญญา นิตย์บุญครอง อายุ ๔๐ ปี สูดสำลักควันไฟ และ ๑๔.พ.จ.อ.ศิวนาภ อยู่สุข อายุ ๔๙ ปี การบาดเจ็บจากสูดดม ขณะนี้ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ทั้งนี้จากรายงานล่าสุดมีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ทั้งหมด ๑๔ นาย แพทย์อนุญาตให้กลับแล้ว ๘ นาย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างติดตามอาการและพักรักษาตัวด้านนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกลาโหม กล่าวว่า กองทัพเรือตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว เท่าที่ประเมินเบื้องต้นน่าจะเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ เชื่อว่าผลสรุปจะออกมาในอีกไม่นาน เมื่อถามว่ามีการกำชับเรื่องนี้อย่างไรเพราะมีนายทหารที่บาดเจ็บ และมีอุปกรณ์เสียหายด้วย นายสุทินกล่าวว่า กองทัพเสียใจกับเหตุดังกล่าว ตนตำหนิไปว่าประมาทเลินเล่อ และกำชับว่าต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก ทั้งนี้ หากผลสอบสวนออกมาว่าใครประมาทต้องลงโทษ ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเจตนาต้องลงโทษหนัก แต่ถ้าเป็นการผิดพลาดมากน้อยก็ว่ากันไปตามระดับความประมาท มอบนโยบายกับกองทัพเรือไปว่าขอให้เรื่องนี้เป็นบทเรียน ต่อไปต้องรอบคอบมากกว่านี้ ต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก เพราะเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่