วันอาทิตย์, 12 พฤษภาคม 2567

อีสานโพลไม่ปลื้มผลงานรัฐบาล

05 เม.ย. 2024
26

ท่ามกลางการอภิปรายทั่วไปที่ร้อนแรงในสภาฯ ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือเรียกกันว่า “อีสานโพล” ได้เปิดเผยผลสำรวจ “ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสานไตรมาส ๑/๒๕๖๗ และคาดการณ์ไตรมาส ๒/๒๕๖๗” ผลปรากฏว่า คะแนนด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลยังเท่าเดิมที่ ๓๓.๐ คะแนน ไม่มีผลงานเป็นรูปธรรม ไม่มีมาตรการด้านเศรษฐกิจใหม่ๆและใหญ่ๆ ส่วน คาดการณ์เศรษฐกิจครัวเรือนไตรมาส ๒/๒๕๖๗ อยู่ที่ ๓๑.๘ แย่ลงเล็กน้อยเทียบกับไตรมาส ๑/๒๕๖๗๗ เรื่องที่คนอีสานต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหาให้เห็นผลโดยเร็วก็คือ การขึ้นค่าแรงขั้นตํ่าทำให้เศรษฐกิจคึกคัก แจกเงินดิจิทัล บรรเทาปัญหาหนี้สิน แก้ปัญหายาบ้าระบาด ลดค่าครองชีพ และ เพิ่มรายได้ลดต้นทุนภาคการเกษตรคะแนนผลงานรัฐบาล “อีสานโพล” ระบุว่า กลุ่มตัวอย่างประเมินผลงานรัฐบาล ไตรมาส ๑/๒๕๖๗ พบว่า ได้เพียง ๓๓.๐ คะแนนจากเต็ม ๑๐๐ คะแนน ก็คือ “สอบตก” นั่นเอง เมื่อถามว่า ถ้าเลือกตั้งวันนี้จะลงคะแนนให้พรรคใด คำตอบจากชาวอีสานก็คือ อันดับ ๑ พรรคก้าวไกล ๔๗.๔% เพิ่มขึ้นจาก ๓๕.๑% อันดับ ๒ พรรคเพื่อไทย ๔๐.๗% ลดลงจาก ๔๕.๗% อันดับ ๓ พรรคภูมิใจไทย ๒.๔% ลดลงจาก ๔.๗% เป็นข้อมูลที่สะท้อนถึงการเลือกตั้งในภาคอีสานในอนาคตอันใกล้ จะเป็นการแข่งขันกันแค่ ๒ พรรค คือ พรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อไทย แต่ถ้าพรรคก้าวไกลถูกยุบเสียก่อน คะแนนจะพลิกผันหรือเพิ่มขึ้น ต้องดูกันต่อไปภาคอีสานเคยเป็นฐานเสียงและฐานที่มั่นสำคัญของ พรรคเพื่อไทย วันนี้ถือว่าถูกพรรครุ่นใหม่ พรรคสีส้มก้าวไกล ตีแตกไปเรียบร้อยแล้ว หากพรรคเพื่อไทยยังอยู่ในสภาพแบบนี้ การเลือกตั้งในอีสานในอนาคตอาจแพ้พรรคก้าวไกล ไม่ว่าพรรคก้าวไกลจะใช้ชื่ออะไรก็ตามทุกโพลในช่วงนี้ คะแนนนิยมของรัฐบาลเพื่อไทยตกต่ำค่อนข้างมาก แม้ นายกฯเศรษฐา ทวีสิน จะขยันเป็นเซลส์แมนทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่ผลงานกลับไม่โดนใจประชาชน หมกมุ่นอยู่กับการแจกเงินดิจิทัล ๕ แสนล้านบาท ที่ต้องสร้างหนี้สินให้ประเทศและคนไทยด้วยการกู้มาแจก หมกมุ่นกับ Soft Power ที่มี คุณแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธาน แต่ยังไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันที่สร้างรายได้เข้าประเทศได้ ขณะที่โครงสร้างการส่งออกก็ล้าหลัง แข่งกับตลาดโลกไม่ได้ แต่ไม่เร่งแก้ไขคุณศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็อภิปรายในสภาฯว่า ไม่นับเรื่อง Soft Power และ แลนด์บริดจ์ ยังไม่เห็นรัฐบาลมีนโยบายที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้นที่เป็นแบบนี้ คุณศิริกัญญา อภิปรายว่า เพราะว่าเป็นนายกฯ แบบพาร์ตไทม์หรือไม่ เพราะส่วนหนึ่งต้องเดินทางเป็นเซลส์แมนของประเทศหรือไม่ ทำให้ไม่มีใครมาบริหารราชการแผ่นดินแบบฟูลไทม์ ผลงานรอบ ๖ เดือนจึงเพิ่มขึ้นมาน้อยเหลือเกิน โครงการดิจิทัลวอลเล็ตก็ขายผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆ ท่านขยันแถลงมาก อาทิตย์เดียวแถลงไปถึงสองครั้ง โดยไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนอีกเรื่องหนึ่งที่ คุณศิริกัญญา จุดประเด็นไว้อย่างน่าสนใจก็คือ รัฐบาลมีแผนรองรับการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมรถยนต์สันดาปไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่ ขณะนี้มีแรงงานในอุตสาหกรรมได้ผลกระทบประมาณ ๘๙๐,๐๐๐ คน ที่อาจจะตกงานผมเห็นด้วยครับ นโยบายรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาล ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ของไทย วันนี้ ตลาดรถยนต์มือสองตายไปแล้ว กำลังลามไปถึงตลาดรถยนต์มือหนึ่ง ที่เป็นเช่นนี้ เพราะรัฐบาลเอาเงินภาษีไปอุ้มรถยนต์ไฟฟ้าจีนมากเกินไป นำเข้าทั้งคันก็ไม่ต้องเสียภาษี ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจีน รัฐบาลก็ช่วยออกเงินให้อีกสูงสุดคันละ ๑๕๐,๐๐๐ บาท รถยนต์สันดาปยี่ห้อไหนก็สู้ไม่ได้ และที่จะพังต่อไปก็คือ “อุตสาหกรรมรถยนต์ไทย” ที่เคยยิ่งใหญ่จนได้รับการยกย่องให้เป็น “ดีทรอยต์แห่งเอเชีย” มาแล้ว.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม